โห้หมิงหันไปมองอันซินอย่างเย็นชา พร้อมตอบด้วยสีหน้าไม่แยแส: “เรื่องในครอบครัวของฉัน ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกอย่างเธอมายุ่ง”
“ถ้าเธอยังกล้าพูดมากอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน !”
“คุณมัน……บ้าอำนาจจริงๆ !” อันซินโกรธจนใบหน้าเล็กๆ ของเธอแดงระเรื่อ
โห้ซือหนันกุมมืออันซินเอาไว้ พร้อมกับส่ายหน้า แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ : “อย่าสนใจฉันเลย เดี๋ยวเธอพาหลินหยุนออกไปจากที่นี่เถอะนะ!”
โห้หมิงตะคอกอย่างเยือกเย็น: “ยังไม่รีบไปอีก!ทางที่ดีก่อนที่ทางตระกูลกงจะมาถามหาเอาความรับผิดชอบจากเธอ ก็รีบเป็นฝ่ายไปยอมรับผิดกับนายท่านกงก่อนจะดีกว่า ถ้าหากรอให้คนตระกูลกงเป็นฝ่ายเข้ามาหาก่อน อย่างนั้นจะสายเกินไปแล้ว !”
มือทั้งสองของโห้ซือหนันกำหมัดแน่น ด้วยสีหน้าที่สิ้นหวัง
ทางด้านหลินหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ คอยมองดูการแสดงของเจ้าบ้านตระกูลโห้คนนี้อย่างเงียบๆมาโดยตลอด ตอนนี้เขาเริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาแล้วว่า คนแบบนี้ไปทำท่าไหนมาถึงได้ครอบครองสิทธิ์เป็นตัวแทนของน้ำแห่งชีวิต
“ดูแล้วในตอนที่เจี่ยงสงทำการเลือกตัวแทน คงจะยังไม่มีความเข้มงวดมากพอสินะ!”
โห้จินผิงที่เห็นว่าโห้ซือหนันยังยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน จึงกล่าวแนะด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม : “น้องซือหนัน ที่คุณพ่อพูดก็ไม่ผิด เธอรีบเป็นฝ่ายไปยอมรับผิดกับนายท่านกงก่อนจะดีกว่า อย่ารอให้ตระกูลกงมาเอาความถึงบ้าน ไม่อย่างนั้นจะสายเกินไปจริงๆ แล้ว”
“เดี๋ยวก่อน!” หลินหยุนพูดขึ้นอย่างเฉยชา
สายตาของทุกคนพุ่งตรงไปยังร่างของหลินหยุนอย่างพร้อมเพรียงกัน
“คนที่พวกคุณพูดถึงหน่ะ ผมเป็นคนลงมือเองต่างหาก ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาผม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย”
หลินหยุนเดินตรงไปข้างหน้า แล้วบังหน้าของโห้ซือหนันเอาไว้ พร้อมกับตวาดสายตาอันเรียบนิ่งไปยังใบหน้าสองพี่น้องโห้จินผิง ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าของโห้หมิง
โห้หมิงมองไปยังหลินหยุนด้วยความสงสัย: “บาดแผลของกงเห้าเป็นฝีมือนายงั้นหรอ?”
“ใช่” หลินหยุนตอบ
โห้หมิงที่ได้ยินอย่างนั้นถึงกับหันไปถลึงตาใส่สองพี่น้องโห้จินผิง : “พวกเธอบอกว่าบาดแผลของกงเห้านั่น ซือหนันเป็นคนลงมือทำเองไม่ใช่หรือไง?”
โห้จินผิงก้มหน้าตอบ: “ไม่ผิดค่ะ เป็นน้องซือหนันที่ให้เจ้าหมอนี่เป็นคนลงมือค่ะ”
โห้หมิงถึงกับยิ้มอย่างเยือกเย็น: “พูดแบบนี้ หมายความว่าบาดแผลของกงเห้าไม่ใช่ซือหนันที่เป็นคนลงมือเองสินะ”
“อย่างนั้นก็แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นเยอะเลย”
โห้จินผิงสองพี่น้องได้เพียงหันหน้ามาสบตากัน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันว่าแผนการใส่ร้ายโห้ซือหนันของพวกเธอนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่าแล้ว และเพื่อที่จะให้โห้ซือหนันได้แต่งงานกับตระกูลกง โห้หมิงจะต้องหาหนทางในการปกป้องโห้ซือหนันแน่นอน
ทั้งสองถึงแม้จะยังมีความแคลงใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรอีกด้วยความชาญฉลาด
หลินหยุนที่เฝ้าฟังพ่อลูกตระกูลโห้สนทนา ก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์แล้ว
ต้องเป็นเพราะว่าสองพี่น้องโห้จินผิง ที่อยากจะใส่ร้ายโห้ซือหนัน ดังนั้นจึงบอกไปว่าอาการบาดเจ็บของกงเห้านั้นเป็นฝีมือของตัวโห้ซือหนันที่เป็นคนลงมือเอง
แต่ว่า ความคิดของโห้หมิงกลับแตกต่างกับสองพี่น้องคู่นี้ เขานั้นไม่ต้องการที่จะเอาความโห้ซือหนัน เขานั้นเพียงต้องการพึ่งพาโห้ซือหนันให้แต่งงานกับตระกูลกง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล
ตอนนี้เมื่อรู้ว่าบาดแผลของกงเห้าเป็นฝีมือของหลินหยุน โห้หมิงจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และคิดเพียงแค่อยากจะพาหลินหยุนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลโห้ของเขาไปส่งให้กับกงเฉิงยู่
โห้หมิงจ้องหลินหยุนอย่างเฉยชา: “เจ้าหนุ่ม นายรู้ว่าคนที่นายไปทำร้ายนั่นเป็นใครหรือเปล่า ?นั่นเป็นถึงคนของตระกูลกงแห่งซีหนิงเชียว และเป็นลูกชายของลูกพี่ลูกน้องของเจ้าบ้านตระกูลกงด้วย!”
“นายกลับไปตัดตอนเขาอย่างนั้น นายเป็นคนหาที่ตายเอง แล้วยังกล้าพาตระกูลพวกเราไปลำบากรับผิดชอบด้วยอีก !”
“ตอนนี้ นายรีบไปตระกูลกงกับฉัน แล้วก็ไปก้มหัวยอมรับผิดกับนายท่านกงซะ แต่จะเป็นตายร้ายดียังไง ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของนายเอง!”
อันซินที่เห็นว่าตอนนี้โห้หมิงกำลังเอาความผิดทุกอย่างมาโยนใส่หัวหลินหยุน ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาต้องการให้หลินหยุนไปเป็นตัวตายตัวแทนให้กับโห้ซือหนัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...