การที่สามารถถูกเหล่ารุ่นน้องชายหญิงให้ความชื่นชม ย่อมเป็นเรื่องน่าภูมิใจของทุกคน ซึ่งหลินเสี่ยวลู่เองก็ไม่ต่างกัน
แต่เมื่อได้ยินอีหลิงพูดคำว่าดาราระดับสาม หลินเสี่ยวลู่ที่ยังไม่ทันได้คลายความหงุดหงิดก่อนหน้านี้ ก็ถึงกับเดือดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อกี้นี้ เธออุตส่าห์ไปแย่งที่นั่งในแถวแรกได้แล้วเชียว แต่ดันมีคนมาไล่เธอให้มานั่งแถวข้างหลัง แล้วยังบอกอีกว่าเธอเป็นดาราระดับสาม ไม่เหมาะที่จะนั่งในแถวแรก
ซึ่งคนเหล่านั้นก็เป็นพวกดาราชื่อดังระดับหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นผู้กำกับมือทองชื่อดัง หลินเสี่ยวลู่รู้ตัวว่าไม่สามารถไปลองดีกับพวกเขา จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรผลีผลาม
แต่ว่าตอนนี้รุ่นน้องสาวคนหนึ่งกำลังบอกว่าตัวเองเป็นดาราระดับสาม หลินเสี่ยวลู่จึงโมโหฟึดฟัด และราวกับได้พบที่สำหรับระบายความโกรธพอดี
“ถุย คนต่ำๆ ก็เอาแต่พูดเรื่องต่ำๆ แล้วใครเป็นรุ่นพี่ของเธอกัน!อย่าทำเป็นตีสนิทกับฉัน คนแบบเธอฉันเจอมาเยอะแล้ว!”
“คิดจะใช้ความสัมพันธ์ของฉันเพื่อเข้าวงการหรือไง?ฉันขอบอกเธอไว้เลยว่าไม่มีทาง แล้วอย่าแม้แต่จะเพ้อฝัน ถ้าอยากจะโลดแล่นในวงการบันเทิงล่ะก็นะ ให้ลงมือทำทุกอย่างแบบตรงไปตรงมาดีกว่านะ อายุยังน้อยอย่าเอาแต่หาทางลัด”
“ดูเธอหน้าตาก็ไม่เลว ถ้าอยากจะเดินทางลัด แค่เธอยอมเดินไปประเคนตัวให้ถึงที่ ก็คงจะมีผู้ชายหลายคนที่ชอบอยู่แล้ว”
ประโยคสุดท้ายนี้ ล้วนเป็นคำพูดที่กำลังดูถูกอีหลิง
จ้าวจื่อฉีที่นั่งอยู่ข้างๆ เหลือบมองอีหลิงด้วยสายตาที่ดูถูก สำหรับพวกเธอแล้วเพื่อนร่วมอาชีพถือเป็นศัตรู และการต่อสู้ในวงการบันเทิงนั้นโหดร้ายเอามากๆ
เมื่อเจอผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยอย่างอีหลิงแล้ว โดยสัญชาตญาณแล้วมักจะเป็นที่อิจฉาริษยาของผู้หญิงในวัยเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยฐานะของจ้าวจื่อฉีแล้ว แน่นอนว่าเธอไม่สามารถไปโจมตีอะไรกับอีหลิงได้
แต่ว่าอู่ซื่อหานที่คอยตามตัวจ้าวจื่อฉีนั้น เมื่อเห็นอีหลิง ใบหน้าของเธอก็ถึงกับตกใจ เมื่อกี้นี้เธอปล่อยความสนใจไปกับจ้าวจื่อฉีและหลินเสี่ยวลู่ จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นอีหลิง
ตอนนี้เมื่อได้เห็นว่าอีหลิงกำลังถูกหลินเสี่ยวลู่อาละวาดใส่ คนอย่างเธอที่มองอีหลิงว่าเป็นศัตรูในศึกดาวสถาบันมาโดยตลอด แน่นอนว่าจะไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะสามารถกดทับอีหลิงแบบนี้ไป
“เอ๊ะ ฉันก้คิดว่าใคร ?นี่มันดาวโรงเรียนอีของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวไม่ใช่หรอเนี่ย ?”
ตอนนี้เมื่อได้เห็นว่าอีปรากฏลิงกำลังถูกหลินเสี่ยวลู่อาละวาดใส่ คนอย่างเธอที่มองอีหลิงว่าเป็นศัตรูในศึกดาวโรงเรียนมาโดยตลอด แน่นอนว่าจะไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะสามารถกดทับอีหลิงแบบนี้ไป
“เอ๊ะ ฉันก็คิดว่าใคร ?นี่มันดาวโรงเรียนอีของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวไม่ใช่หรอเนี่ย ?”
“นี่มันอะไรกันดาวโรงเรียนอี?กำลังจะเตรียมจะเข้าวงการแล้ว แต่ดันไม่มีทางไป ดังนั้นก็เลยคิดจะมาพึ่งใบบุญของพี่เสี่ยวลู่หรือไง ?”
“น่าเสียดายจัง แบบนี้จะให้พี่เสี่ยวลู่ถูกใจเธอได้ยังไงกันเล่า ?แบบนี้เอาไหม ตอนนี้ฉันกำลังขาดคนวิ่งงานสองคนพอดี ถ้าเธอยอมเรียกฉันว่าพี่ ฉันจะยอมทำใจรับเธอเอาไว้ แบบนี้เป็นไง ?”
นักเรียนสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์ ถ้าหากว่ามีความสัมพันธ์หรือรู้จักกับคนในวงการ มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นอาจจะมีชื่อเสียงก่อนที่จะเรียนจบจากสถาบันเสียอีก
แต่ถ้าหากว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือรู้จักใครเลย โอกาสที่จะพัฒนาก็มีน้อย และส่วนมากก็ต้องอาศัยการเป็นตัวประกอบแทนหรือทำงานอย่างอื่นแทน
ดังนั้น นักเรียนจำนวนมากเลยมักจะมีการเตรียมตัวเอาไว้แต่เนิ่นๆ เหมือนกับอู่ซื่อหานในตอนนี้ ที่เธอเลือกจะไปเป็นที่รองมือรองเท้าให้กับรุ่นพี่จากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยางอย่างจ้าวจื่อฉี และกลายเป็นผู้ช่วยของจ้าวจื่อฉี ซึ่งถือเป็นการเดินล้ำหน้าคนอื่นไปหลายก้าวเลยทีเดียว
เมื่อเห็นว่าอีหลิงถูกหลินเสี่ยวลู่และจ้าวจื่อฉีเหยียดหยาม ทางด้านจางซือจู่และคนอื่นๆ จึงเกิดความโกรธเคืองขึ้นมาในทันที
การที่จ้าวจื่อฉีจะดูถูกอีหลิง ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะว่าทั้งสองสถาบันนั้นเป็นศัตรูกันมาโดยตลอด
แต่ว่าหลินเสี่ยวลู่เป็นรุ่นพี่ที่จบจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว การที่รุ่นน้องจะเข้าไปทักทายรุ่นพี่ มันก็เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว แต่หลินเสี่ยวลู่กลับพูดว่าเป็นการเข้าไปเพื่อสานสัมพันธ์ แล้วจะได้มีทางลัด แถมยังดูถูกอีหลิงว่าให้เอาตัวเองไปขาย……
หลินหยุนมองไปที่หลินเสี่ยวลู่ด้วยใบหน้าดูถูก สายตาที่เยือกเย็น จากแววตาที่แม่นยำของหลินหยุน เขาสามารถมองออกได้เลยว่าหลินเสี่ยวลู่กำลังใช้อีหลิงเป็นกระสอบทรายระบายอารมณ์
และยิ่งเมื่อได้ยินว่าอีหลิงคือดาวโรงเรียน ในใจของหลินเสี่ยวลู่ก็เกิดความริษยาเพิ่มขึ้นไปอีก
ในช่วงที่เธออยู่ในสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว เธอเฝ้าหวังอยากจะกลายเป็นดาวโรงเรียน แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาความสวยของเธอนั้นยังมีไม่พอ ดังนั้นการเรียนอยู่ในสถาบันนานถึงสี่ปี เธอจึงไม่เคยสมหวังเลย
ถึงแม้ว่าหลังจากที่เธอมีชื่อเสียงแล้ว เหล่านักเรียนในสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวจะได้มีการมอบตำแหน่งดาวโรงเรียนให้เธอ แต่นั่นก็เพียงเพื่อแค่ใช้ในการพูดโอ้อวดเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...