จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 580

หวางเจ๋อหัวเราะขึ้น: “เจ้าสำนักหลี่อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธก่อน ลองฟังเงื่อนไขของข้าก่อนดีกว่าไหม? ”

หลี่สุนเฟิงมองไปที่หวางเจ๋อ: “ดูเหมือนว่าคุณชายหวางมีความมั่นใจอย่างมาก กับเงื่อนไขที่ตนเองนำมา! ”

หวางเจ๋อหัวเราะโดยไม่พูดอะไรสักคำ: “หนึ่งโควตาของตำหนักอนัตตา แลกกับการยืมใช้ค่ายกลจิ่วเจ๋ของพวกคุณ ว่าอย่างไร? ”

“พูดจริงใช่ไหม! ” หลี่สุนเฟิงตกใจจนถึงกับยืนขึ้นจากที่นั่งทันที แล้วก็จ้องมองไปที่หวางเจ๋อ

ผู้อาวุโสสำนักบู๊แท้ที่เหลืออีกหลายคน ก็จ้องมองไปที่หวางเจ๋อด้วยสีหน้าท่าทางที่ตะลึงเช่นกัน เหมือนกับว่าโควตาของตำหนักอนัตตานั้น มีความล้ำค่าเป็นอย่างมาก

หวางเจ๋อพูดว่า: “ข้าเป็นถึงตัวแทนของตระกูลหวางแห่งเมืองหลวง ไม่พูดโกหกแน่นอน”

หลี่สุนเฟิงพูดตะโกนขึ้นว่า: “ตกลง บารมีและชื่อเสียงของตระกูลหวางข้าเชื่อมั่นได้ ทำตามข้อตกลง! ”

“แต่ว่า ข้าไม่สามารถที่จะรับรองได้ว่า ปรมาจารย์หลินนั้นจะกระโดดเข้ามาในค่ายกลจิ่วเจ๋นี้”

ตรงตามที่หวางเจ๋อได้พูดไว้ ในใจของหลี่สุนเฟิงต่างก็เข้าใจทุกอย่างดี

ความตั้งใจของหวางเจ๋อ เขาชัดเจนเป็นอย่างมาก

“ถ้าหากต้องการให้พวกเราส่งคนออกไปเพื่อชักชวนหลินหยุนให้เข้ามาในค่ายกล ถ้าอย่างนั้นหนึ่งโควตาของตำหนักอนัตตา น้อยเกินไป” หลี่สุนเฟิงกล่าว

“ปรมาจารย์หลินนั้น อยู่ที่ภาคใต้ โดยเพิ่งจะฆ่าเทพแห่งทวนโล่อู๋จี๋! พลังความสามารถของเขา อย่างน้อยที่สุดก็คงจะเป็นระดับขั้นปรมาจารย์สูงสุด ต่อให้ทุกคนในสำนักบู๊แท้ของพวกเราลงมือทั้งหมด ก็ยังคงไม่สามารถที่จะจัดการปรมาจารย์หลินได้! ”

“แม้ว่าโควตาของตำหนักอนัตตาจะน่าดึงดูดใจ แต่ก็จะต้องมีชีวิตเพื่อเข้าไปในตำหนักอนัตตาถึงจะใช่”

มุมปากของหวางเจ๋อโค้งงอขึ้นแวบหนึ่ง: “เจ้าสำนักหลี่วางใจได้ พวกคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เพียงแค่เตรียมตัวอย่างเงียบ ๆ เพื่อรอให้หลินหยุนเข้ามาสู่ค่ายกลโบราณกาลนั้นของพวกคุณก็พอแล้ว”

แววตาของหลี่สุนเฟิงแวววับขึ้นครู่หนึ่ง และมองไปที่หวางเจ๋อด้วยความสงสัย: “คุณมีวิธีการที่จะเชิญเขาเข้ามาติดกับดักแล้วเหรอ? ”

“มีแน่นอน ไม่อย่างนั้นข้าจะมาหาที่สำนักบู๊แท้ทำไมล่ะ ค่ายกลโบราณกาลของสถานที่อื่นก็มีอีกทั้งค่ายกลของสำนักบู๊แท้นี้ เป็นของปรมาจารย์หลี่ฉุนกาง สมัยราชวงศ์ถังที่หลงเหลือเอาไว้ หากจะพูดถึงพลังอานุภาพแล้ว คงจะเทียบเท่าไม่ได้กับค่ายกลที่หลงเหลือไว้จากสงครามเทพเจ้าในสมัยโบราณนั้น”

หลี่สุนเฟิงพูดว่า: “ตกลง เพียงแค่ปรมาจารย์หลินเข้าสู่ค่ายกลแล้ว ข้ารับรองว่าเขาไม่มีทางออกมาได้แน่! ”

“ตกลงตามนี้! ” หวางเจ๋อลุกยืนขึ้น แล้วนำแผ่นหยกสีเขียวหนึ่งชิ้นมอบให้กับหลี่สุนเฟิง: “นี่คือ ป้ายหยกอนัตตาของตำหนักอนัตตา”

หลี่สุนเฟิงมองไปที่ป้ายหยกชิ้นนั้น ในดวงตาทั้งสองเปล่งประกายแสงที่ร้อนผ่าว ดูค่อนข้างโลภ ทว่า เขาก็ไม่ได้ยื่นมือไปรับ

“ตอนนี้ยังไม่ได้กำจัดปรมาจารย์หลิน คุณก็จะมอบป้ายหยกให้กับข้าแล้ว คุณไม่กลัวว่าข้าจะผิดคำพูดเหรอ? ” หลี่สุนเฟิงมองไปที่หวางเจ๋อ และพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

หวางเจ๋อหัวเราะ: “ในเมื่อข้าคนตระกูลหวางกล้าที่จะส่งมอบสิ่งของออกไป ก็มีความสามารถที่จะนำมันกลับคืนมาได้”

“เจ้าสำนักหลี่ ข้าต้องไปนำเหยื่อกลับมาก่อน เพื่อรอปลาใหญ่มาติดแห ขอลาก่อน! ” หวางเจ๋อ หันหลังแล้วก็เดินจากไป

“เดินทางดี ๆ! ” เจ้าสำนักหลี่พูดอย่างเกรงใจ

เมื่อหวางเจ๋อเดินจากไปแล้ว ผู้อาวุโสสำนักบู๊แท้หลายคน ต่างก็ได้โอบล้อมกันเข้ามา

“ศิษย์พี่ ขอให้ข้าดูหน่อย ป้ายหยกอนัตตาของตำหนักอนัตตานั้นเป็นของจริงหรือของปลอม? ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

หลี่สุนเฟิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ: “เป็นของจริงแน่นอน ด้านในนี้มีชี่ทิพย์เคลื่อนไหวอยู่ ไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน”

“อีกอย่าง ตระกูลหวางคงไม่ถึงกับใช้ของปลอมมาหลอกลวงคนอื่นหรอก เพียงหนึ่งโควต้า ตระกูลหวางของเขาจ่ายไหวอยู่แล้ว”

“ศิษย์พี่ รีบนำออกมาให้พวกเราดูกันหน่อย ให้พวกเราเปิดหูเปิดหาบ้าง” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างร้อนรน

“ดูกันเถอะ! ” หลี่สุนเฟิงยื่นฝ่ามือออกมา ป้ายหยกอนัตตานั้นวางอยู่ในมือของเขาอย่างสงบ

“นี่ก็คือป้ายหยกอนัตตาของตำหนักอนัตตาในตำนานที่ร่ำลือกันใช่ไหม? ”

ผู้อาวุโสคนนั้นพูดขึ้นโดยพลัน: “เป็นอย่างนี้นี่เอง! ”

หลี่สุนเฟิงมองไปที่ป้ายหยกอนัตตานั้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ภาคภูมิใจ สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง: “เมื่อมีป้ายหยกอนัตตา และรอให้ข้าออกมาจากตำหนักอนัตตา สำนักบู๊แท้ของพวกเราไม่แน่อาจจะสามารถขึ้นเป็นสำนักอันดับหนึ่งของโลกบู๊ก็เป็นได้! ”

ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่อิจฉาริษยา แต่ว่า แม้จะอิจฉาริษยาไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะโควต้าเข้าไปในตำหนักอนัตตานั้นมีเพียงแค่คนเดียว ซึ่งจะต้องเป็นเจ้าสำนักอย่างแน่นอน

สามวันจากนั้น จงเฟยหยู่ก็ได้ติดตามคณะสำรวจของมหาวิทยาลัย เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยซีเป่ยอย่างเป็นทางการ

หลังจากการสัมมนาแลกเปลี่ยนทางวิชาการทั้งสามวันได้ผ่านพ้นไป นักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจว รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์ซีเป่ย ได้เดินทางไปภูเขาเย่นต้านพร้อมกันเพื่อฝึกหัดเก็บยาสมุนไพร

จงเฟยหยู่ก็ติดตามอยู่ในคณะด้วย ไม่นานก็ได้เข้าไปในบริเวณที่ลึกของภูเขาเย่นต้าน

ซึ่งในเวลานี้ นักบู๊ของตระกูลหวางที่ได้สะกดรอยติดตามจงเฟยหยู่มาโดยตลอดนั้น ในที่สุดก็ได้ ลงมือแล้ว

ปรมาจารย์แห่งตระกูลหวาง ได้อาศัยช่วงจังหวะที่จงเฟยหยู่แยกออกมาจากคณะ แล้วเดินไปด้านล่างของหน้าผาที่ไม่ไกลนัก ซึ่งขณะที่กำลังเก็บสมุนไพรกล้วยไม้จื่อซินอยู่นั้น ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นโดยพลัน

“นายเป็นใคร? ” จงเฟยหยู่มองไปที่ผู้อาวุโสที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างกะทันหัน และถามขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ระมัดระวัง

“ขอโทษด้วย ขอเชิญคุณผู้หญิงไปยังที่แห่งหนึ่งกับข้าสักครู่! ” ผู้อาวุโสพูดจบ เงาร่างก็แวบหายไป ทันใดนั้น ก็มาถึงที่ข้างกายของจงเฟยหยู่ แล้วใช้ฝ่ามือมีดได้ฟันลงไปที่ลำคออันขาวผ่องของจงเฟยหยู่

ทันใดนั้นจงเฟยหยู่ก็สลบลงไปที่อ้อมอกของผู้อาวุโส

ในระยะไกล ชายหนุ่มในชุดสีดำที่ติดตามคณะสำรวจมาโดยตลอด ตอนที่เห็นปรมาจารย์แห่งตระกูลหวางปรากฏตัวขึ้นนั้น ก็ได้รีบวิ่งอย่างสุดกำลังตรงเข้ามาหาจงเฟยหยู่

แต่ว่า เนื่องจากจงเฟยหยู่กังวลว่าการมาของซูหนันนั้น จะส่งผลกระทบต่ออาจารย์กับเพื่อนนักเรียนของเธอ ดังนั้นซูหนันจึงไม่กล้าที่จะเข้าใกล้มากนัก

ตอนนี้ ระยะทางหนึ่งช่วงระหว่างกลาง กลับกลายเป็นอุปสรรคที่ไม่อาจจะฝ่าฟันไปได้

เห็นว่าปรมาจารย์ตระกูลหวางแบกจงเฟยหยู่วิ่งเข้าไปในป่าลึก ซูหนันรับวิ่งตามอย่างไม่ลดละ โดยใช้ความเร็วทั้งหมดอย่างสุดกำลัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์