อ่านสรุป บทที่ 58 ไอ้หน้าบากเฉียง จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บทที่ บทที่ 58 ไอ้หน้าบากเฉียง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 58 ไอ้หน้าบากเฉียง
หลินหยุนมองไปที่อันซิน สายตาคู่นั้นแวววาวดุจคริสตัล เขามองออกถึงความยืนหยัดของเธอ
“เอาแบบนี้ ถือว่าเงินนี้ฉันให้เธอยืม ถ้าต่อไป ภาพวาดของเธอมีชื่อเสียงขึ้นมาเมื่อไหร่ ค่อยคืนให้ฉัน”
อันซินยังอยากพูดอะไรต่อ แต่โดนหลินหยุนยกมือห้ามเอาไว้ “ตามนี้แหละ ถ้าเธอยังจะปฏิเสธอีก ก็เอาทิ้งเลยก็ได้!”
อันซินจนปัญญา เธอรู้ดีว่าในเมื่อเขาพูดออกมาได้ เขาก็ต้องทำมันได้เช่นกัน
เหมือนกับตอนนั้นที่เขาเผชิญหน้ากับนักเลง 3 คนนั้นเพียงลำพัง
เขาบอกว่า ฉันจะต้องช่วยเธอให้ได้
หลังจากนั้น ไม่ว่าเขาจะโดนพวกนักเลงตีจนล้มไปกี่ครั้ง เขาก็ลุกขึ้นมาได้ทุกครั้ง
ตอนนั้น หลินหยุนเป็นเพียงเด็กผู้ชายที่อยู่ในวัยมัธยมตัวผอมๆ เท่านั้น นักเลง 3 คนนั้น ต่างก็เป็นผู้ชายอายุ 20 กว่ากันแล้วทั้งนั้น
เมื่อเห็นหลินหยุนที่เลือดออกเต็มหัวแต่ยังคงพยายามดึงดันลุกขึ้นยืนให้ได้ นักเลง 3 คนนั้นก็พากันถอยหนีไป
ความทรงจำกับภาพความเป็นจริงสลับกันไปมา สายตาของอันซินเริ่มเป็นภาพสลัว ในใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น “ก็ได้ งั้นก็ถือว่าฉันยืมพี่ ต่อไปฉันจะคืนพี่ให้ได้!”
จ้าวกาวพูดขัดขึ้นว่า “จะคืนอะไรกัน อันซินถ้าเธอไม่เอา เอามาให้ฉันก็ได้ เงินตั้ง 1 ล้านฉันเอาไปซื้อบ้านได้เป็นหลังเลย”
ประโยคนี้ของจ้าวกาว ทำเอาคนในนั้นหัวเราะดังขึ้น บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป
อันซินมองขวับไปที่จ้าวกาว “ฝันไปเถอะ!”
จ้าวกาวหัวเราะแห้ง ทันใดนั้นก็หันไปทางจางจื่อเห้าที่สีหน้าเริ่มไม่ดีแล้ว จึงพูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “อั๊ยย่ะ เมื่อกี้ใครกันนะที่บอกว่าหลินหยุนมามือเปล่า เงิน 1 ล้านนี่พอจะซื้อภาพวาดจริงของอาจารย์เหอได้สักกี่ภาพกันนะ?”
เพื่อนๆ ต่างก็พากันกลั้นหัวเราะ พากันหันหน้าไปมองจางจื่อเห้าที่โมโหจนหน้าเขียว
“ฉันไปห้องน้ำแป๊บหนึ่ง” จางจื่อเห้ารู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าว จึงหาข้ออ้างออกไปจากตรงนั้น
โต๊ะข้างๆ กัน หวางชิ่งเซิงไม่กล้าแม้แต่จะนั่งตัวตรงเหมือนแต่เดิม เขาโค้งตัวลงทันที เหมือนจะกลัวว่าคนอื่นจะหัวเราะเยาะตัวเอง
เพื่อนๆ ต่างก็พากันคุยกันต่อ ครั้งนี้ หลินหยุนกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
ไม่นาน งานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้น จางจื่อเห้ากลับมาพร้อมกับความมั่นใจที่เหมือนเดิม เพียงแต่สายตาที่มองไปที่หลินหยุน แฝงไปด้วยความแค้น
อันซื่อเอินและภรรยา ต้อนรับแขกที่มาด้วยความเป็นมิตร เมื่อรู้ว่าหลินหยุนให้เช็คเงิน 1 ล้านกับอันซิน สายตาของอันซื่อเอินที่มองหลินหยุนก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เพราะในตอนแรก เพื่อเอาใจหวางชิ่งเซิง เขาไม่ดูว่าใครถูกใครผิด จะบังคับหลินหยุนให้ขอโทษหวางชิ่งเซิงให้ได้
หวางชิ่งเซิงที่รู้ว่าหลินหยุนไม่ได้ถือโอกาสนี้พูดฉีกหน้าตัวเอง ก็เริ่มกลับมาเป็นสภาพเดิม รอบข้างโดนคนนั้นคนนี้เรียกประธานหวังอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ดีอกดีใจไปใหญ่
ห่าวฮ่วยฮ่วยอยู่ดีๆ ก็กระซิบพูดกับอันซินว่า “ฉันจะไปห้องน้ำ ไปด้วยกันไหม!”
“ได้สิ!” อันซินตอบตกลงทันที
ผู้หญิงชอบไปห้องน้ำด้วยกัน เรื่องนี้กลายเป็นกฎธรรมชาติไปเสียแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หลินหยุนเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
แต่ว่าไม่นาน อันซินกับห่าวฮ่วยฮ่วยยังไม่ทันได้กลับมา ประตูห้องอาหารก็โดนถีบจากด้านนอกเข้ามา
ผู้ชายหัวล้านที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นยาวสามนิ้วคนหนึ่ง ปากคาบบุหรี่ เดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มอย่างร้ายกาจ
ด้านหลังของเขา ตามมาด้วยผู้ชายนักเลงวัยรุ่น 7-8 คน อันซินกับห่าวฮ่วยฮ่วยก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย แต่โดนจับเข้ามา
อันซื่อเอินกับหลี่นีต่างก็พากันตกอกตกใจกันใหญ่ หลี่นีรีบตะโกนขึ้นว่า “พวกแกจะทำอะไร? ปล่อยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
หลี่นีทั้งพูดทั้งพุ่งตัวเข้าไป
อันซื่อเอินจับเธอไว้ มองไปที่ชายที่มีรอยแผลเป็นคนนั้นแล้วพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “พวกแกเป็นใคร?”
อันซื่อเอินเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเชื่อมั่นในลูกสาวของตัวเองว่าเป็นคนยังไง
ต้องเป็นเพราะไอ้หน้าบากเฉียงและพวกที่คิดจะทำมิดีมิร้าย นึกว่าห่าวฮ่วยฮ่วยเป็นพนักงานของโรงแรม เลยพูดจาหยอกล้อ อันซินทนไม่ไหว ถึงได้จัดการกับไอ้หน้าบากเฉียงนั่น
แต่ว่ายังไงอันซินก็ลงมือกับพวกนั้นไปแล้ว นิสัยของอันธพาลพวกนี้ ไม่ยอมหยุดง่ายๆ แน่ๆ
อีกอย่าง ที่สำคัญที่สุดก็คือ ข้างหลังพวกเขามีเจี่ยงสงคอยคุ้มกันอยู่
อันซื่อเอินมองไปที่ไอ้หน้าบากเฉียง พยายามยิ้มออกมา แล้วพูดว่า “เด็กๆ ไม่รู้ความ พี่เฉียงก็อย่าถือสาเด็กมันเลย ให้คนของพี่เฉียงมานั่งดื่มด้วยกันเถอะ ฉันจะดื่มขอโทษพวกพี่เอง!”
ไอ้หัวทองคนนั้นมองอันซื่อเอินด้วยสายตาที่เย้ยหยัน พร้อมพูดอย่างไม่แยแสว่า “แกจะขอโทษพี่เฉียงงั้นเหรอ? แกเป็นใคร! แกคิดว่าตัวเองคู่ควรเหรอ?”
อันซื่อเอินหน้าแดงก่ำ แน่นอนว่าเขามองตัวเองสูงไป ถึงแม้ว่าไอ้หน้าบากเฉียงจะเป็นแค่นักเลงคนหนึ่ง แต่คนที่อยู่ข้างหลังเขาคือนักเลงอีกคนที่มีคนคอยหนุนหลังให้ตลอดเวลา
ไม่ต้องพูดถึงผู้มีอิทธิพลอำนาจอย่างเจี่ยงสง แค่ไอ้หน้าบากเฉียงคนเดียว อันซื่อเอินก็ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะแล้ว
สำหรับการแจ้งตำรวจ คนที่มีประสบการณ์ออกสังคมมาแล้ว หากไม่ใช่เรื่องจำเป็น ก็ไม่มีทางทำเด็ดขาด
สายตาของอันซื่อเอินมองไปที่หวางชิ่งเซิง ในตรงนั้นก็มีแค่เขาที่ฐานะสูงที่สุด หวังว่าพวกนักเลงพวกนี้จะไว้หน้าเขาบ้าง!
“ท่านประธานหวาง ช่วยผมพูดหน่อยได้ไหมครับ?” อันซื่อเอินตอนนี้สีหน้าเต็มด้วยการขอร้องอ้อนวอน
สายตาของทุกคนมองไปที่หวางชิ่งเซิง ด้วยความตั้งตารอคอย ถ้าหากนักเลงพวกนี้แสดงอำนาจต่อหน้าเขา สำหรับหวางชิ่งเซิงก็เป็นเรื่องน่าอายเช่นกัน
เวลานี้ หวางชิ่งเซิงเองก็ลำบากใจ ถ้าเกิดเป็นพวกนักเลงธรรมดา นิสัยอย่างเขาแป๊บเดียวก็ห้ามได้แล้ว
แต่ไอ้หน้าบากเฉียงนี่กลับเป็นลูกน้องของท่านเจี่ยง ถึงคนอย่างไอ้หน้าบากเฉียงที่เป็นแค่ลูกน้องธรรมดาทั่วไป ชาตินี้คงไม่ได้เห็นหน้าท่านเจี่ยง แต่ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ท่านเจี่ยงก็ยังคงจะเข้าข้างคนของตัวเองอยู่ดี
แต่ว่า สายตาหลายคู่ในตอนนี้กำลังจ้องมองมาที่เขา เมื่อกี้เพิ่งจะพูดโม้ไป ถ้าตอนนี้ไม่ออกหน้า ต้องโดนคนเยาะเย้ยแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...