ยังเหลือบอดี้การด์หนึ่งคน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ผิดปกติ ก็กระซิบที่หูของคุณชายเหยียน “คุณชายเหยียน รู้สึกผิดปกติ! จังเหมิ่งกับหลี่หย่งปกติก็ไม่ใช่คนใจเสาะ ทำไมประพฤติตัวได้แย่ขนาดนี้?”
คุณชายเหยียนนิ่งสงบ โดยย้อนคิดได้ว่าเมื่อสักครู่เขาได้เตะผู้หญิงคนนั้น แต่ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าหลินหยุนโผล่มาจากไหน
ในเวลานั้นคุณชายเหยียนไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้มาคิด ความเร็วของหลินหยุนนั้นว่องไวแค่ไหน! ชั่วขณะก็สามารถยืนอยู่ต่อหน้าหญิงสาว
คุณชายเหยียนลืมความเจ็บปวดที่ขาชั่วคราว และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นายหมายความว่า พวกเราได้พบกับนักบู๊เหรอ?”
“อืม” บอดี้การ์ดพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
เพียงแต่ว่า คุณชายเหยียนไม่กลัว ลุงของเขาเป็นพ่อบ้านของหุบเขาเทพยา และเป็นนักบู๊ท่านหนึ่ง
แม้ว่าคุณชายเหยียนเป็นเพียงคนธรรมดา แต่มีลุงเป็นพ่อบ้านหุบเขาเทพยา เขาเลยไม่ค่อยนับถือและเกรงกลัวนักบู๊
คุณชายเหยียนมองไปที่หลินหยุน ยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายเป็นนักบู๊ใช่ไหม!”
แม้ว่าจะเป็นการถาม แต่คุณเหยียนก็ใช้น้ำเสียงที่ยืนยัน
“ไสหัวออกไป!” หลินหยุนตอบเขาคำนี้
สีหน้าคุณชายเหยียนเปลี่ยนไป มีใบหน้าที่เคร่งเครียดมาก “ไอ้หนุ่มยังไม่เคยมีใครกล้าพูดคำนี้กับฉัน! ฉันเป็นคุณชายตระกูลเหยียน ลุงของฉันเป็นพ่อบ้านหุบเขาเทพยา นายกล้าบอกให้ฉันไสหัวไป ชาตินี้อย่าคิดแม้แต่จะเข้าไปในหุบเขาเทพยา!”
หลินหยุนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และเหลือบมองคุณชายเหยียน ชั่วขณะ คุณชายก็ใจสั่น ราวกับว่าถูกสัตว์ยักษ์โบราณกำลังจ้องมอง
มีความรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกาย
“นาย นายมองอะไร!” คุณชายเหยียนตกใจจนก้าวถอยหลัง จนลืมความเจ็บปวดที่ขา
บอดี้การ์ดคนนั้นกระซิบข้างหูคุณชายเหยียน “คุณชายเหยียน คนฉลาดไม่ต้องไปเสียเปรียบใคร! ถ้าเขาเป็นนักบู๊ พวกเราทุกคนไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา ถอยกลับไปก่อนดีกว่า! แล้วค่อยไปวางแผนระยะยาวกันใหม่”
“โอเค ถอยกลับ!” คุณชายเหยียนต้องเห็นด้วยแน่นอน เห็นสายตาของหลินหยุนเมื่อกี้ ก็ตกใจจนเกือบจะฉี่ใส่กางเกงแล้ว
เมื่อเห็นคุณชายเหยียนพาบอดี้การ์ดหลายคนกลับไป หลินหยุนก็หันกลับมามองหญิงสาวคนนั้น
ในขณะนี้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ในที่สุดหลินหยุนก็เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
“ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ!” หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
จากประสบการณ์ของหลินหยุน สาวงามแบบไหนที่หลินหยุนยังไม่เคยเห็นล่ะ? แม้ว่าจะเป็นเทพธิดาเซียนธิดาศักดิ์สิทธิ์ หลินหยุนก็เคยเห็นมาเยอะแยะ และยังเคยฆ่าด้วยมือตัวเอง
เพียงแต่ว่า ขณะที่เห็นผู้หญิงคนนี้ หลินหยุนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
เธอแค่สวมเสื้อเชิ้ตผ้าเนื้อหยาบๆ มีรอยปะ และไม่แต่งหน้าเลย หน้าสด
อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้น ความงามของเธอก็ทำให้หลินหยุนตกตะลึง
ไม่พูดก็รู้ว่า ความงามของเธอ อยู่ในขั้นไหน!
“ทำไมคุณถึงคุกเข่าที่นี่” หลินหยุนถามเบาๆ
หญิงสาวส่ายหัว ชี้ไปที่ปากตัวเอง แล้วชี้ไปที่หูตัวเอง
ส่งสัญญาณว่าเธอไม่ได้ยิน และพูดไม่ได้
“ที่แท้ก็เป็นหญิงสาวที่ใบ้และหูหนวก!” ในใจหลินหยุนมีร่องรอยของความรู้สึกเสียดายและเสียใจ
“ว่ากันว่าในชีวิตคนเราได้สูญเสียของสิ่งหนึ่งไป และก็จะได้ของอีกสิ่งหนึ่งกลับคืนมา”
“สวรรค์ให้เธอเป็นใบ้และหูหนวก ดังนั้นจึงมอบใบหน้าที่งดงามจนไม่มีใครเทียบได้ให้กับเธอ!”
เพียงแต่ว่า หลินหยุนมีวิธีสื่อสารกับเธอ
เสียงหนึ่งแวบเข้าไปในสมองของหญิงสาวโดยตรง
“ทำไมคุณถึงมาคุกเข่าอยู่ตรงนี้ล่ะ”
ใบหน้าของหญิงสาวมีความรู้สึกตกใจ แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เธอหยิบชอล์กออกจากกระเป๋าของเธอ แล้วเขียนลงบนพื้นให้หลินหยุนดู
“ฉันมาขอยา เพื่อช่วยสามีของฉัน”
หลินหยุนมองดูเธอ และพบว่าเธอมีคิ้วและดวงตาที่สวยงาม และเห็นได้ชัดว่าเธอยังบริสุทธิ์ ไม่เหมือนผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเลย
เพียงแต่ว่า หลินหยุนไม่ใช่คนชอบซุบซิบนินทาคน และส่งสัญญาณเสียงกลับไป “สามีของคุณเป็นอะไร?”
หญิงสาวเขียนต่อ “เรื่องมันยาว เขามีปัญหาทางจิต”
ปัญหาทางจิต เกรงว่าหุบเขาเทพยาก็คงช่วยอะไรไม่ได้
หลินหยุนมีใจที่จะช่วยผู้หญิงคนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...