หลังจากอ่านแล้ว โม่ซิวอู่มองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “มันไม่ใช่สิ่งของที่มีค่าจริงๆ มันมีแค่ผลไม้คืนชีพสองชิ้นที่หายากสักหน่อย และส่วนที่เหลือหุบเขาเทพยามีหมด”
“เพียงแค่ปริมาณที่คุณต้องการมันเยอะมาก ฉันเกรงว่าในโกดังของฉันจะถูกคุณใช้จนหมด!”
“มันจะเป็นไรไป ถ้าในโกดังหมดก็ให้คนไปหามาอีก แต่ว่า สูตรโอสถล้ำเลิศ หลังจากที่พลาดมันไป มันคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว!” โม่จือมิ่งพูด
“พูดถูกต้อง เปลี่ยนเลย!” โม่ซิวอู่ตัดสินใจ
“เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะแลกเปลี่ยน พวกเราจำเป็นต้องตรวจสอบสูตรโอสถก่อน และขอให้น้องหยุนอย่าถือสา”
หลินหยุนพูดเบาๆ “ไม่เป็นไร”
หลังจากพูดจบ ก็ถือปากกาเขียนต่อไป และหลังจากเขียนเสร็จแล้ว จึงยื่นสูตรโอสถให้โม่ซิวอู่
โม่ซิวอู่มองดูแวบหนึ่ง และพูดด้วยความประหลาดใจ “การใช้วัสดุยาที่ธรรมดาและง่ายๆเช่นนี้ ก็สามารถกลั่นโอสถล้ำเลิศที่มีคุณภาพสูงได้!”
เพียงแต่ว่า ส่วนผสมของยาเหล่านี้ และวิธีการกลั่นนั้น ไม่เคยได้ยินมาก่อน!”
โม่ซิวอู่พูดด้วยท่าทางประหลาดใจ
“ให้ฉันดูหน่อยซิ!” โม่จือมิ่งอดใจรอไม่ไหวแล้วพูดขึ้นมา
“ให้นาย!” โม่ซิวอู่ยื่นสูตรโอสถให้เขา
โม่จือมิ่งทำเหมือนเป็นสมบัติล้ำค่าทันที ใช้สองมือจับไว้ และเริ่มศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง
“ฮ่าๆ วิเศษ วิเศษจริงๆ ที่แท้วัสดุยาเหล่านี้ยังสามารถผสมกันได้!”
“นอกจากนี้ วิธีการกลั่นแบบนี้ ก็สมบูรณ์แบบสุดๆ! ด้วยวีธีนี้จะสามารถถนอมและเก็บรักษาวัสดุยาทั้งหมดได้ดี!”
“เมื่อเทียบกับสูตรโอสถนี้ ฉันเคยเรียนวิชาการกลั่นยามาหลายสิบปี ซึ่งมันไร้ค่ามาก!”
โม่จือมิ่งหัวเราะอย่างตื่นเต้น แสดงสีหน้าท่าทางชอบใจมาก
ผู้อาวุโสสามหัวเราะและพูดว่า “ในเมื่อผู้อาวุโสสามชื่นชอบสูตรโอสถนี้มาก จึงเป็นการดีกว่าที่จะให้คุณจือมิ่งไปทดลองโอสถเม็ดนี้ว่าจริงหรือปลอม!”
โม่ซิวอู่พูดว่า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน!”
“จือมิ่ง นายไปทดลองที่ห้องกลั่นยา เพื่อดูว่าสูตรโอสถนี้ สามารถกลั่นเป็นโอสถล้ำเลิศได้หรือไม่”
“พอดีน้องหยุนก็อยู่ที่นี่ ถ้ามีจุดไหนไม่เข้าใจ ยังสามารถขอคำแนะนำจากเขาได้”
โม่ซิวอู่เรียกเต็มปากเต็มคำว่าน้องหยุน และไม่กล้าที่จะดูถูกหลินหยุนเพียงเพราะอายุน้อยอีก
“โอเค” หลินหยุนตอบเบาๆ
โมซิวอู่พูดว่า “น้องหยุนกรุณารอสักครู่”
“ไม่เป็นไร” หลินหยุนพูด
โม่ซิวอู่มองไปที่โม่จือมิ่ง “ไปกันเถอะ พวกเราไปที่ห้องกลั่นยา!”
“โอเค”
“ฉันจะไปด้วย!” ผู้อาวุโสสามตามไปด้วย
“ให้ฉันได้เห็นเป็นบุญตา!” ผู้อาวุโสใหญ่ก็เดินตามไปด้วย
เป็นผลให้ผู้อาวุโสในห้องโถงทั้งหมด เดินตามโม่จือมิ่งไป
ปรากกว่าคนที่เหลืออยู่บางส่วน แม้ว่าจะเป็นสมาชิกระดับสูงของหุบเขาเทพยา แต่เมื่อเทียบกับบุคคลระดับอาวุโส ก็ยังค่อนข้างแตกต่างกัน
ที่จริงแล้วพวกเขาก็อยากไปดูเช่นกัน แต่ระดับของพวกเขาไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดออกมา เพื่อไม่ให้โม่ซิวอู่ปฏิเสธ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความอัปยศเท่านั้น
หลินหยุนและเสี่ยวจุยนั่งอยู่ในห้องโถง รออย่างเงียบๆ
เกือบสองชั่วโมง ในห้องกลั่นยา ก็มีเสียงหัวเราะของโม่จือมิ่งดังขึ้น
“ฮ่าๆ ทำสำเร็จแล้ว ครั้งที่สองก็ทำสำเร็จแล้ว โอสถชั้นยอด โอสถชั้นยอด!”
ในมือโม่จือมิ่งในมือถือโอสถเม็ดสีขาวราวกับหยก ด้วยท่าทางตื่นเต้น
โม่ซิวอู่และคนอื่นๆที่เฝ้าอยู่ข้างนอก ก็เดินเข้าไปทันที
“สำเร็จแล้วเหรอ?” โม่ซิวอู่ถามด้วยความสงสัย
“นายดูสิ!”
ผู้อาวุโสสามพูดว่า “ในเมื่อไอ้หนุ่มคนนี้เต็มใจที่จะเอาสูตรโอสถล้ำเลิศมาแลกเปลี่ยน เป็นไปได้ว่า ในความเห็นของเราสูตรโอสถล้ำเลิศที่สุด สำหรับไอ้หนุ่มคนนั้น เป็นเพียงสิ่งของสำหรับการแลกเปลี่ยนเท่านั้น”
“หรือบางทีสำหรับไอ้หนุ่มคนนั้น สูตรโอสถที่เขานำมาแลกเปลี่ยนกับพวกเรา อาจเป็นแค่เศษขยะในสายตาของเขา”
หลายคนเงียบไปครู่หนึ่ง แม้ว่าคำพูดของผู้อาวุโสสามจะไม่น่าฟัง แต่มันอาจเป็นเรื่องจริง
เนื่องจากหลินหยุนสามารถเสนอเป็นการแลกเปลี่ยนได้ จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าหลินหยุนไม่ได้ขาดแคลนสูตรโอสถชนิดนี้
เมื่อเห็นว่าหลายคนเงียบ ผู้อาวุโสสามรู้ว่า คำพูดของเขาเริ่มทำให้หลายคนครุ่นคิดแล้ว
“ถ้าพวกเราสามารถรั้นไอ้หนุ่มคนนั้นให้อยู่ที่นี่ต่อ สิ่งของทั้งหมดของเขา ก็จะเป็นของพวกเราแล้วไม่ใช่หรือ?” ผู้อาวุโสสามพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
หลายคนไม่ได้พูด การแสดงออกแตกต่างกันไป
สูตรโอสถที่อยู่ตรงหน้ามีค่ามากจริงๆ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งของที่ซ่อนอยู่ในตัวหลินหยุน ไม่ต้องคิด ก็รู้ว่ามันต้องมีความแตกต่างอย่างมาก
หากสามารถรั้นให้หลินหยุนอยู่ที่นี่ หุบเขาเทพยาย่อมมีวิธีให้เขาพูดทุกอย่างออกมา
“ฮึ่ม ลูกผู้ชายอยากได้ของล้ำค่า ก็ต้องใช้วิธีมีคุณธรรม! คุณทำเช่นนี้ มันไม่ต่างอะไรกับโจร! ในหุบเขาเทพยา จะไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด!” โม่จือมิ่งตะโกนอย่างโกรธจัด
ผู้อาวุโสสามหน้าแดง และรีบห้ามปราม “คุณจือมิ่ง คุณอย่าพึ่งโกรธเลยคุณลองคิดดูว่าหากไอ้หนุ่มคนนั้นสามารถอยู่ต่อ ในตัวเขาจะซ่อนสูตรโอสถที่ยอดเยี่ยมไว้มากขนาดไหน? หรือ จะดีกว่าวิชาการกลั่นยาอัศจรรย์ของพวกเรา! "
“เป็นไปได้ไหม ที่ใจคุณจะไม่หวั่นไหวเลย?” ผู้อาวุโสสามพูดดึงดูดใจ
โม่จือมิ่งเงยหน้าขึ้นมอง และมีความชอบธรรม “หากสิ่งที่ได้มาด้วยวิธีที่สกปรก ฉันจะไม่เอาแน่นอน”
ผู้อาวุโสสามยังคงต้องการเกลี้ยกล่อม แต่ว่า โม่ซิวอู่ได้แอบส่ายหัวให้เขา
ผู้อาวุโสสามไม่พูดต่อ
โม่ซิวอู่พูดว่า “จือมิ่ง นายไปเตรียมวัสดุยาสำหรับไอ้หนุ่มคนนั้นก่อน! พวกเราก็จะรีบออกไปทันที!”
โม่จือมิ่งเหลือบมองโม่ซิวอู่ และพูดด้วยสายตาที่ดื้อรั้น “ฉันบอกไว้ก่อนนะ ถ้าสิ่งของนั้นได้มาโดยไม่ชอบธรรม ฉันจะไม่เอาเด็ดขาด!”
“แม้ว่ามันจะเป็นวิชาการกลั่นยาที่อัศจรรย์แค่ไหน ฉันก็ไม่สนใจแน่นอน”
แววตาของโม่ซิวอู่มีความลำบากใจแวบเข้ามา เขาก็ยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ฉันรู้จักขอบเขตของตัวเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...