จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 613

สรุปบท บทที่ 613 ภูเขาได้รับเกียรติเป็นที่ฝังศพของเหล่าวีรชนผู้กล้า: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 613 ภูเขาได้รับเกียรติเป็นที่ฝังศพของเหล่าวีรชนผู้กล้า จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 613 ภูเขาได้รับเกียรติเป็นที่ฝังศพของเหล่าวีรชนผู้กล้า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ที่ดินผืนนั้นที่บริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดได้ซื้อไว้นั้น อยู่ตรงเชิงเขาของของภูเขาลูกหนึ่งที่ชื่อว่าเขาร่วงสือ ได้ข่าวมาว่าเขาคิดจะสร้างหมู่บ้านจัดสรรคฤหาสน์หรูหราที่มีศูนย์รวมแหล่งบันเทิง และพักผ่อนหย่อนใจอยู่ภายในเขตบริเวณเดียวกัน

เขาร่วงสือ เมื่อก่อนไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่ชื่อว่าเขาชิงสือ เป็นเพราะว่าบนเขานั้นมีหินสีเขียว ก้อนใหญ่เป็นจำนวนมากจึงได้ชื่อนี้มา

แต่ว่า ในช่วงยุคสมัยใหม่ที่ชาวจีนต่อสู้กับการรุกรานของประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เขาชิงสือนี้ถูกระเบิดจนแทบจะราบเป็นหน้ากลอง

ดังนั้น เขาชิงสือจึงไม่ได้มีชื่อตามความเป็นจริงอีกแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวบริเวณนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นเขาร่วงสือ

หยางเทียนโย่วได้พาหลินหยุนมาถึงเขาร่วงสือ ที่นี่กลายเป็นสถานที่เขตพัฒนาแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็ได้อพยพออกไปจนหมดแล้ว อีกทั้งตอนนี้เป็นเวลารุ่งสาง จึงไม่มีผู้คนเลยแม้แต่คนเดียว

ลมหนาวโชยผ่านสวนป่าอันน้อยนิดของเขาร่วงสือ แล้วพัดผ่านกองเศษหินบนพื้นไป ทำให้เกิดเสียงดังโหยหวนขึ้นราวกับเสียงร้องโอดครวญของเหล่าวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว

ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามีลมหนาวเย็นวาบ พุ่งจากฝ่าเท้าไปยังกลางกระหม่อม

หยางเทียนโย่วดึงเสื้อคลุมให้แน่น แล้วพูดด้วยความรู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อยว่า “สถานที่นี้ รู้สึกว่ามีกลิ่นอายไม่ค่อยสู้ดีเลย”

“ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน แกสามารถมองเห็นได้ชัดหรือเปล่า?” หยางเทียนโย่วถาม

“ได้สิ” หลินหยุนตอบพลางกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณนั้น

เขาร่วงสือ ได้ถูกขนานนามว่าเป็นภูเขา เป็นเพราะว่าเศษหินที่ถูกระเบิดกระจัดกระจายมากองรวมกัน ก่อนหน้านั้นภูเขาทั้งลูกเกือบจะถูกระเบิดจนราบเป็นหน้ากลอง แต่ตอนนี้ เป็นเพียงแค่กองเนินเขาที่สูงขึ้นมาเล็กน้อย ด้านบนมีแต่เศษก้อนหินทั้งนั้น

สายตาของหลินหยุนมองจากเชิงเขาข้างล่าง ไปจนถึงด้านบนยอดเนินเขานั้น

เขารู้สึกว่าที่นี่ ดูราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างวนเวียนอยู่ แต่ว่า พลังงานพวกนี้กลับไม่สามารถที่จะสัมผัสได้อย่างละเอียดทั่วถึง

“ในโลกนี้ก็ยังมีพลังงานที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนเลย มันน่าแปลกมากจริงๆ”

หลินหยุนหลับตาลง จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมา แล้วแสดงพลังดวงตาทำลายล้าง ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นข้างหนึ่งสีขาวอีกข้างหนึ่งสีดำ

ท่ามกลางความมืดดำที่ไร้ขอบเขตนั้น มีแสงไฟสีแดงจางๆเป็นชั้น ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้ารอบๆบนเขาร่วงสือ

ภายใต้แสงไฟสีแดงนั้น สามารถมองเห็นเงาร่างรางๆของผู้คนจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

ขณะที่หลินหยุนเพ่งดวงจิตมองสำรวจเงาร่างคนเหล่านั้นอย่างละเอียด สามารถรับรู้จากเงาร่างของคนพวกนั้น ที่แผ่ซ่านพลังจิตอันมุ่งมั่น และพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งออกมา

เงาร่างคนจำนวนนับไม่ถ้วนนั้น ที่รับรู้ได้จากดวงจิตเทพของหลินหยุน ตะโกนออกมาอย่างไร้เสียงว่า “ฆ่ามัน!”

ภายในดวงจิตเทพของหลินหยุนนั้น รับรู้ถึงสัญญาณความรู้สึกที่พวกเขาส่งต่อออกมา

“เลือดทุกหยดพลีเพื่อผืนแผ่นดิน ชายหนุ่มนับแสนคือชายชาติทหารทุกคน!”

“เขาชิงสือ ก็คือแนวปราการด่านสุดท้ายของอำเภอหนันผิง ตราบใดที่คนยังอยู่ ฐานที่มั่นก็ต้องยังอยู่ สาบานจะยึดฐานที่มั่นไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่!”

“สาบานจะอยู่คู่เขาชิงสือจนกว่าชีวิตจะหาไม่!”

กองทัพทหารนับหมื่น ตะโกนเสียงร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เสียงดังก้องสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งแผ่นฟ้าและแผ่นดิน

บนท้องฟ้ามีแต่เครื่องบินระเบิดของศัตรู ด้านล่างก็มีเพียงรถถังและทหารเดินเท้า ส่วนพวกเขาเหล่านั้น ก็มีเพียงแค่ปืนไรเฟิลเก่าๆที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานเท่านั้น

กระสุนปืนใช้หมดแล้ว ก็หยิบเอามาจากตัวของศัตรู อาหารกินหมดแล้วก็เก็บต้นหมากรากไม้มาประทังชีวิต

พวกเขาอยู่ในสภาวะเช่นนี้ อดทนเฝ้ารักษาฐานที่มั่นนานถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่มีใครหลบหนีไปไหนเลย และไม่มีใครรอดชีวิตออกมาแม้แต่คนเดียวเช่นกัน ทั้งหมดล้วนได้สละชีพอย่างหาญกล้า

ทันใดนั้น หลินหยุนก็เข้าใจแล้วว่านี่คือสถานที่อะไร

เข้าใจแล้วว่าพลังงานพวกนี้เป็นเช่นไร

“ภูเขาได้รับเกียรติเป็นที่ฝังศพของเหล่าวีรชนผู้กล้า วิญญาณผู้กล้าเมื่อไรจะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน!”

นี่ก็คือ จิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่เคยดับของเหล่านักรบผู้หาญกล้านับหมื่น ที่คอยเฝ้าปกปักรักษาอยู่ที่นี่มาโดยตลอด

พวกเขาไม่รู้เลยว่า สงครามในตอนนั้นได้รับชัยชนะแล้ว

แต่ว่า พวกเขาได้รับแต่คำสั่งให้เฝ้าฐานที่มั่นแห่งนี้ให้มั่นคง

ดังนั้น ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดที่จะเฝ้ารักษาที่นี่ไว้เช่นเดิม

เป็นครั้งแรกที่หลินหยุน โค้งตัวลงคำนับ เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงต่อเขาร่วงสือที่ไม่โดดเด่นลูกนี้

หยางเทียนโย่วยังไม่รู้สาเหตุอะไร ได้แต่ถามอย่างสงสัยว่า “เป็นอะไรไปเหรอ?”

หลินหยุนพูดว่า “ไม่มีอะไร ฉันรู้วิธีแก้ปัญหาแล้ว พรุ่งนี้แกไปติดต่อคนของบริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดได้เลย”

หยางเทียนโย่วพูดด้วยความดีใจ “ฉันรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ปรมาจารย์หลินแก้ไขไม่ได้”

หยางเทียนโย่วรู้สึกฉงน เขาคิดว่าหลินหยุนจะแสดงวิธีให้ดูว่าจะแก้ไขปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดของเขาร่วงสือได้อย่างไร?

หยางเทียนโย่วรีบวิ่งตามหลินหยุน แล้วกลับไปพร้อมกับเขา

ท่านหม่ามองดูเงาร่างของทั้งสองคนจากไป แล้วยิ้มตรงมุมปาก “ชักสนุกแล้วสิ ฉันก็หวังอย่างมากเลย หลังจากสามวันแล้วพวกเขาสามารถที่จะแก้ไขปัญหาปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดของเขาร่วงสือได้จริงเหรอ?”

ลูกน้องคนหนึ่งพูดว่า “ท่านหม่าครับ ต้องไปคอยจับตาดูพวกเขาหรือเปล่า?”

“ไม่ต้องหรอก พ่อของเขายังอยู่ในมือของพวกเรา ถ้าพวกเขาจัดการปัญหาของเขาร่วงสือไม่ได้ละก็ ย่อมต้องมาหาฉันอย่างแน่นอน” ท่านหม่าพูด

“ท่านหม่าปราดเปรื่องยิ่งนัก!” ลูกน้องพูดประจบสอพลอ

เมื่อกลับมาถึงบ้านของหยางเทียนโย่วแล้ว หยางเทียนโย่วถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมไม่จัดการแก้ไขปัญหาของเขาร่วงสือ ต่อหน้าคนแซ่หม่าไปเลยล่ะ?”

หลินหยุนมองหน้าเขาแวบเดียว แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า “มีบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่สมควรให้พวกคนธรรมดาทั่วไปได้เห็นจะดีกว่า”

หยางเทียนโย่วก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ “ฉันเข้าใจแล้ว”

ในค่ำคืนวันนั้นเอง หลินหยุนก็พาหยางเทียนโย่ว ไปยังเขาร่วงสืออีกครั้งหนึ่ง

ในที่สุดหยางเทียนโย่วก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยว่า “ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมเมื่อเริ่มขุดดินก็จะเกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ำ แล้วยังฝนตกอีกด้วย?”

หลินหยุนมองดูเขาร่วงสือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ที่นี่เป็นหลุมฝังศพของวีรชนทหารกล้านับหมื่น!”

“อะไรนะ!” หยางเทียนโย่วสีหน้าตกตะลึง

“แกหมายความว่า มีวิญญาณทหารปกป้องคุ้มครองอยู่!”

หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย “วิญญาณทหารเหรอ? ใช้ชื่อนี้ก็เหมาะสมดีนะ!”

“ในโลกฮวงจุ้ยของพวกเรา สถานการณ์เช่นนี้เขาเรียกว่าวิญญาณทหาร” หยางเทียนโย่วพูด

ทันใดนั้น หยางเทียนโย่วก็รู้สึกสงสัย “แต่ว่า ถ้าที่นี่มีวิญญาณทหารปกป้องอยู่ละก็ ด้วยความชำนาญในวิชาชีพของพ่อฉัน น่าจะดูออกแล้ว ทำไมเขากลับบอกว่าไม่รู้ล่ะ?”

หลินหยุนมองยังทางที่ห่างไกลออกไป พูดด้วยเสียงเบาว่า “อาจไม่แน่ว่า เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของวีรชนผู้กล้าเหล่านี้ก็ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์