ที่ดินผืนนั้นที่บริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดได้ซื้อไว้นั้น อยู่ตรงเชิงเขาของของภูเขาลูกหนึ่งที่ชื่อว่าเขาร่วงสือ ได้ข่าวมาว่าเขาคิดจะสร้างหมู่บ้านจัดสรรคฤหาสน์หรูหราที่มีศูนย์รวมแหล่งบันเทิง และพักผ่อนหย่อนใจอยู่ภายในเขตบริเวณเดียวกัน
เขาร่วงสือ เมื่อก่อนไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่ชื่อว่าเขาชิงสือ เป็นเพราะว่าบนเขานั้นมีหินสีเขียว ก้อนใหญ่เป็นจำนวนมากจึงได้ชื่อนี้มา
แต่ว่า ในช่วงยุคสมัยใหม่ที่ชาวจีนต่อสู้กับการรุกรานของประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เขาชิงสือนี้ถูกระเบิดจนแทบจะราบเป็นหน้ากลอง
ดังนั้น เขาชิงสือจึงไม่ได้มีชื่อตามความเป็นจริงอีกแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวบริเวณนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อให้เป็นเขาร่วงสือ
หยางเทียนโย่วได้พาหลินหยุนมาถึงเขาร่วงสือ ที่นี่กลายเป็นสถานที่เขตพัฒนาแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็ได้อพยพออกไปจนหมดแล้ว อีกทั้งตอนนี้เป็นเวลารุ่งสาง จึงไม่มีผู้คนเลยแม้แต่คนเดียว
ลมหนาวโชยผ่านสวนป่าอันน้อยนิดของเขาร่วงสือ แล้วพัดผ่านกองเศษหินบนพื้นไป ทำให้เกิดเสียงดังโหยหวนขึ้นราวกับเสียงร้องโอดครวญของเหล่าวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว
ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามีลมหนาวเย็นวาบ พุ่งจากฝ่าเท้าไปยังกลางกระหม่อม
หยางเทียนโย่วดึงเสื้อคลุมให้แน่น แล้วพูดด้วยความรู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อยว่า “สถานที่นี้ รู้สึกว่ามีกลิ่นอายไม่ค่อยสู้ดีเลย”
“ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน แกสามารถมองเห็นได้ชัดหรือเปล่า?” หยางเทียนโย่วถาม
“ได้สิ” หลินหยุนตอบพลางกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณนั้น
เขาร่วงสือ ได้ถูกขนานนามว่าเป็นภูเขา เป็นเพราะว่าเศษหินที่ถูกระเบิดกระจัดกระจายมากองรวมกัน ก่อนหน้านั้นภูเขาทั้งลูกเกือบจะถูกระเบิดจนราบเป็นหน้ากลอง แต่ตอนนี้ เป็นเพียงแค่กองเนินเขาที่สูงขึ้นมาเล็กน้อย ด้านบนมีแต่เศษก้อนหินทั้งนั้น
สายตาของหลินหยุนมองจากเชิงเขาข้างล่าง ไปจนถึงด้านบนยอดเนินเขานั้น
เขารู้สึกว่าที่นี่ ดูราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างวนเวียนอยู่ แต่ว่า พลังงานพวกนี้กลับไม่สามารถที่จะสัมผัสได้อย่างละเอียดทั่วถึง
“ในโลกนี้ก็ยังมีพลังงานที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนเลย มันน่าแปลกมากจริงๆ”
หลินหยุนหลับตาลง จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมา แล้วแสดงพลังดวงตาทำลายล้าง ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นข้างหนึ่งสีขาวอีกข้างหนึ่งสีดำ
ท่ามกลางความมืดดำที่ไร้ขอบเขตนั้น มีแสงไฟสีแดงจางๆเป็นชั้น ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้ารอบๆบนเขาร่วงสือ
ภายใต้แสงไฟสีแดงนั้น สามารถมองเห็นเงาร่างรางๆของผู้คนจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
ขณะที่หลินหยุนเพ่งดวงจิตมองสำรวจเงาร่างคนเหล่านั้นอย่างละเอียด สามารถรับรู้จากเงาร่างของคนพวกนั้น ที่แผ่ซ่านพลังจิตอันมุ่งมั่น และพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งออกมา
เงาร่างคนจำนวนนับไม่ถ้วนนั้น ที่รับรู้ได้จากดวงจิตเทพของหลินหยุน ตะโกนออกมาอย่างไร้เสียงว่า “ฆ่ามัน!”
ภายในดวงจิตเทพของหลินหยุนนั้น รับรู้ถึงสัญญาณความรู้สึกที่พวกเขาส่งต่อออกมา
“เลือดทุกหยดพลีเพื่อผืนแผ่นดิน ชายหนุ่มนับแสนคือชายชาติทหารทุกคน!”
“เขาชิงสือ ก็คือแนวปราการด่านสุดท้ายของอำเภอหนันผิง ตราบใดที่คนยังอยู่ ฐานที่มั่นก็ต้องยังอยู่ สาบานจะยึดฐานที่มั่นไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่!”
“สาบานจะอยู่คู่เขาชิงสือจนกว่าชีวิตจะหาไม่!”
กองทัพทหารนับหมื่น ตะโกนเสียงร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เสียงดังก้องสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งแผ่นฟ้าและแผ่นดิน
บนท้องฟ้ามีแต่เครื่องบินระเบิดของศัตรู ด้านล่างก็มีเพียงรถถังและทหารเดินเท้า ส่วนพวกเขาเหล่านั้น ก็มีเพียงแค่ปืนไรเฟิลเก่าๆที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานเท่านั้น
กระสุนปืนใช้หมดแล้ว ก็หยิบเอามาจากตัวของศัตรู อาหารกินหมดแล้วก็เก็บต้นหมากรากไม้มาประทังชีวิต
พวกเขาอยู่ในสภาวะเช่นนี้ อดทนเฝ้ารักษาฐานที่มั่นนานถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่มีใครหลบหนีไปไหนเลย และไม่มีใครรอดชีวิตออกมาแม้แต่คนเดียวเช่นกัน ทั้งหมดล้วนได้สละชีพอย่างหาญกล้า
ทันใดนั้น หลินหยุนก็เข้าใจแล้วว่านี่คือสถานที่อะไร
เข้าใจแล้วว่าพลังงานพวกนี้เป็นเช่นไร
“ภูเขาได้รับเกียรติเป็นที่ฝังศพของเหล่าวีรชนผู้กล้า วิญญาณผู้กล้าเมื่อไรจะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน!”
นี่ก็คือ จิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่เคยดับของเหล่านักรบผู้หาญกล้านับหมื่น ที่คอยเฝ้าปกปักรักษาอยู่ที่นี่มาโดยตลอด
พวกเขาไม่รู้เลยว่า สงครามในตอนนั้นได้รับชัยชนะแล้ว
แต่ว่า พวกเขาได้รับแต่คำสั่งให้เฝ้าฐานที่มั่นแห่งนี้ให้มั่นคง
ดังนั้น ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดที่จะเฝ้ารักษาที่นี่ไว้เช่นเดิม
เป็นครั้งแรกที่หลินหยุน โค้งตัวลงคำนับ เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงต่อเขาร่วงสือที่ไม่โดดเด่นลูกนี้
หยางเทียนโย่วยังไม่รู้สาเหตุอะไร ได้แต่ถามอย่างสงสัยว่า “เป็นอะไรไปเหรอ?”
หลินหยุนพูดว่า “ไม่มีอะไร ฉันรู้วิธีแก้ปัญหาแล้ว พรุ่งนี้แกไปติดต่อคนของบริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดได้เลย”
หยางเทียนโย่วพูดด้วยความดีใจ “ฉันรู้อยู่แล้วว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ปรมาจารย์หลินแก้ไขไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...