จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 617

ตระกูลหลินแห่งอูซุถึงแม้ก็เป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเขตนั้นก็ตาม แต่ว่าเมื่อเทียบกับสี่ตระกูลยิ่งใหญ่แห่งเมืองหลวงแล้ว ยังห่างไกลกันมาก

เมื่อครั้งหลินโร่หลันยังเด็กอยู่นั้น ภายใต้การอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ ก็ได้สาบานว่าจะต้องอยู่เหนือผู้คนทั้งปวง เข้าไปอยู่ในวงการสังคมชั้นสูงให้ได้

ดังนั้น เธอจึงคิดแต่จะแต่งงานเข้าไปอยู่ในสี่ตระกูลยิ่งใหญ่นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลหวางที่เป็นผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ทั้งหมด

เดิมทีคิดจะอาศัยหลินหยุนเป็นสะพาน เพื่อไปรู้จักกับคนของตระกูลหวางหรือไม่ก็อีกสามตระกูลใหญ่ที่เหลือ ถึงเวลานั้นหลินโร่หลันเชื่อมั่นในตัวเองว่า อาศัยเสน่ห์ความงามของตัวเอง จะสามารถทำให้คุณชายของสี่ตระกูลใหญ่หลงใหลอย่างแน่นอน

แต่สุดท้ายแล้ว คิดไม่ถึงว่าหวางซูเฟินถึงกับแตกหักกับตระกูลหวาง ทำให้หลินหยุนกลายเป็นเสี้ยนหนามในสายตาของตระกูลหวาง

คราวนี้หลินโร่หลันที่คิดแต่จะเข้าไปอยู่ในสี่ตระกูลยิ่งใหญ่แห่งเมืองหลวง โกรธจนเลือดตาแทบกระเด็น

เพื่อแสดงความจริงใจต่อตระกูลหวางแล้ว หลินโร่หลันก็เริ่มพยายามประณามหยามเหยียดและกระทบกระเทือนจิตใจหลินหยุนอย่างไม่หยุดหย่อน ด้วยท่าทีที่แทบจะอยากให้หลินหยุนตายจากกันไปเลย

เมื่อได้ฟังความจริงจากหลินโร่สุ่ยแล้ว ในที่สุดหลินหยุนก็ได้เข้าใจแล้วว่าหลินโร่หลันทำไมจึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนั้น

หลินหยุนรู้สึกเสียใจเป็นเวลานาน

หลังจากนั้น ก็พยายามหลบหน้าหลินโร่หลันมาโดยตลอด ทั้งสองคนจึงไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกเลย

สำหรับน้องสาวของเธอหลินโร่สุ่ยนั้น ถ้าหากดูท่าทีที่พี่สาวปฏิบัติต่อหลินหยุนแล้ว น้องสาวก็จะต้องทำตามอย่างพี่สาวอย่างแน่นอน

แต่แล้ว ความจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

เป็นเพราะว่าหลินโร่สุ่ยไม่เคยทะเยอทะยานมาตั้งแต่เด็ก และไม่พอใจที่พ่อแม่ปลูกฝังให้เป็นคนเหนือคนมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความคิดที่จะต้องแต่งงานเข้าไปอยู่ในสี่ตระกูลใหญ่ให้ได้

ดังนั้น จึงเป็นปรปักษ์กับพ่อแม่มาโดยตลอด ได้คะแนนสอบตกมาตลอด นิสัยวิปฤติไม่เหมือนเด็กทั่วไป พฤติกรรมแปลกประหลาด เป็นเด็กมีปัญหาในสายตาของครูบาอาจารย์ เป็นเด็กเลวในสายตาของพ่อแม่

เมื่อเวลาผ่านไป พ่อแม่ของหลินโร่สุ่ย จึงปล่อยวางไม่คิดจะเยียวยาเธออีกต่อไป แล้วทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างไปที่หลินโร่หลันแทน จนแทบจะละเลยหลินโร่สุ่ยไปเลย

ทำเช่นนี้แล้ว ยิ่งทำให้สาวน้อยหลินโร่สุ่ย มีนิสัยยิ่งวิปฤติและแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น

แต่ว่า กลับสามารถหลีกเลี่ยงความคิดที่เหมือนยาพิษของพ่อแม่ไปได้ สามารถรักษาจิตใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่องเอาไว้ได้

ก็เป็นเพราะว่าจิตใจอันบริสุทธิ์ที่ไม่ได้เปรอะเปื้อนสิ่งชั่วร้าย ทำให้เด็กหญิงหลินโร่สุ่ยไม่พอใจในพฤติกรรมของพี่สาว จึงแอบเปิดเผยความจริงให้หลินหยุนได้รับรู้

อีกอย่าง ก็ยังคอยช่วยเหลือหลินหยุน และปกป้องหลินหยุนไม่ให้ถูกคุกคามมาโดยตลอด

เพราะว่าเธอมีพี่สาวที่แสนดีคนนี้ คนรุ่นใหม่ในตระกูลหลิน ส่วนใหญ่แล้วก็จะต้องไว้หน้าเธอทั้งนั้น

เพราะว่าหลินหยุนได้รับความช่วยเหลือจากหลินโร่สุ่ย จึงไม่ได้ถูกทุบตีมากนัก

ดังนั้น สำหรับหลินโร่สุ่ยแล้ว หลินหยุนเห็นเธอเป็นน้องสาวแท้ๆคนหนึ่งเลยทีเดียว

มองดูทั้งสามคนนี้ ในใจหลินหยุนฮึกเหิมลำพอง “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ในชาตินี้ถึงกับได้พบกับอัจฉริยะของตระกูลหลินทั้งสองคนในที่นี้อย่างกะทันหัน!”

เมื่อชาติที่แล้ว หลินโล่เฉินกับหลินโร่หลัน ล้วนเป็นไอดอลที่หลินหยุนได้แต่ชะเง้อมองทั้งนั้น

ในชาตินี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้พบหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง แต่จิตใจของหลินหยุนกลับนิ่งเฉยราวกับสายน้ำ ไม่มีความหวั่นไหวใดๆเลย

“ทั้งสองคนเคยเป็นอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลหลิน ในชาติที่แล้ว ฉันได้แต่แหงนหน้ามองอย่างเดียว แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว ก็เป็นได้เพียงแค่นี้เอง”

ด้วยสายตาอันกว้างไกลของหลินหยุนในตอนนี้แล้ว ความเป็นอัจฉริยะในชาติที่แล้ว ในที่สุดก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง

มหากษัตริย์ชางฉองอันเกรียงไกรไปทั่วทั้งจักรวาล ย่อมไม่รู้สึกต้องตาต้องใจกับคนธรรมดาคนหนึ่งอย่างแน่นอน

สอดคล้องกับคำพูดที่ว่า ชาติที่แล้ว แกดูถูกฉัน ในชาตินี้ ฉันจะทำให้แกได้แต่มองตามอย่างไม่เห็นฝุ่นเลย

แต่ว่า หลินหยุนรู้จักพวกเขา ส่วนพวกเขากลับไม่รู้จักหลินหยุน

เพราะว่าตอนนี้หลินหยุนก็ยังไม่ได้พบกับพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเอง

หลินหยุนจำได้ว่า เมื่อชาติที่แล้วครั้งแรกที่ได้พบหลินโล่เฉินและหลินโร่หลันนั้น เป็นวันที่จัดงานวันตรุษจีนของตระกูลหลิน

“ดูไปแล้ว ในชาตินี้ ประวัติศาสตร์บางอย่างอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว”

เมื่อชาติที่แล้ว หลินหยุนไม่ได้ช่วยเหลือหยางเทียนโย่ว ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่จะได้พบกับหลินโล่เฉินทั้งสามคนล่วงหน้าก่อนถึงเวลา

ในชาตินี้ หลังจากที่พลังความสามารถของหลินหยุนถูกเปิดเผยในวิทยาลัยแล้ว หยางเทียนโย่วได้ขอให้เขามาช่วยเหลือ ดังนั้นจึงได้มีโอกาสมาพบกับหลินโล่เฉินทั้งสามคนนี้ล่วงหน้าก่อนถึงเวลา

ชายหนุ่มคนนั้นที่นอนอยู่บนโซฟา ก็คือเจ้าของบริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ชื่อว่าเจี่ยงเฉิง

เจี่ยงเฉิงขมวดคิ้วมองดูหลินหยุนและหยางเทียนโย่ว ถามด้วยความรำคาญว่า “เจ้าหม่า แกพาสองคนนี้มาทำอะไร? ไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังคุยกับแขกอยู่?”

ท่านหม่าสีหน้าเคอะเขิน “คุณชายเจี่ยงครับ พวกเขามาเพื่อจะตามหาคนจากคุณไงล่ะ!”

เจี่ยงเฉิงไม่ได้รู้จักกับหยางเทียนโย่ว จึงยิ้มอย่างแปลกประหลาดแล้วพูดว่า “ถึงกับกล้ามาตามหาคนจากฉันที่นี่เชียวรึ พวกแกสองคนอาจหาญมากเลยนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์