หลินโร่สุ่ยเบ้ปาก ใบหน้าที่สะสวยแสดงออกถึงความรู้สึกดูถูก กำลังคิดจะโต้แย้ง
แต่ว่า ถูกพี่สาวของเธอหลินโร่หลันทำตาถลนใส่ จึงได้แต่หันหน้าไปที่อื่นอย่างไม่พอใจ จงใจไม่ไปมองหน้าเธอ เป็นการประท้วงเงียบ
ชายหนุ่มทั้งสี่คนนั้นล้อมรอบหลินหยุนไว้ เจี่ยงเฉิงมองไปยังหลินหยุนแล้วแสยะยิ้ม “เจ้าหนู ถ้าตอนนี้แกคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน แล้วโขกหัวยอมรับผิดกับฉัน ฉันอาจจะพิจารณาปล่อยแกไปสักครั้งก็ได้นะ!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจ ส่งเสียงดังฮึ่ม แล้วก้าวเท้าออกมา พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้น ทั้งสี่คนนั้นก็ส่งเสียงอู้อี้ รู้สึกเหมือนมีภูเขาลูกใหญ่ถล่มลงมาอย่างกะทันหัน
พวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่มีทางที่จะแบกรับพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่หลินหยุนปล่อยออกมาได้ จึงถูกสะกดอยู่กับที่ทันที ไม่สามารถเดินต่อไปอีกแม้แต่ก้าวเดียว
เมื่อเห็นลูกน้องทั้งสี่คนของตัวเอง สีหน้าดูน่าเกลียด หยดเหงื่อเม็ดโตๆก็ไหลจากหน้าผากไม่หยุดหย่อน ชายหนุ่มหัวล้านคนนั้นก็รีบบุกเข้าไปหาหลินหยุนทันที ชูกำปั้นขึ้นแล้วชกหมัดไปยังตรงหน้าหลินหยุน
เจี่ยงเฉิงยิ้มอย่างสะใจ แนะนำกับหลินโล่เฉินและหลินโร่หลันว่า “นี่คือลูกน้องของฉันที่เก่งที่สุดในบรรดาบอร์ดี้การ์ดทั้งหมด เขาเคยชกวัวตายไปตัวหนึ่งด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว”
“แค่รูปร่างของเจ้าเด็กคนนี้ แม้แต่นิ้วหัวแม่โป้งของเขาก็ยังรับไม่ไหวเลย”
หลินโล่เฉินมองดูชายหนุ่มหัวล้านคนนั้น แต่ก็ไม่พูดอะไร
หลินหยุนมองไปยังชายหนุ่มหัวล้านคนนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในสายตาผู้คนภายนอก ชายหนุ่มหัวล้านคนนั้นว่องไวมาก ชกด้วยหมัดที่หนักหน่วงมาก แต่สำหรับในสายตาของหลินหยุนแล้ว เชื่องช้าราวกับหอยทากที่คลานอยู่บนพื้น
เมื่อรอจนหมัดนั้นใกล้จะประชิดตัวหลินหยุนแล้ว ทันใดนั้นหลินหยุนก็ใช้ฝ่ามือปาดออกไป
โป้ง!
ชายหนุ่มคนนั้นถูกแรงมหาศาลพัดกระเด็นออกไป ชนกับกำแพงด้านหลัง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น จากนั้นก็ตกลงมาบนพื้นอย่างแรง จนสลบไปไม่รู้สึกตัวอีกเลย
“นี่......เป็นไปได้ยังไงกัน!”
เจี่ยงเฉิงหน้าถอดสี มองไปยังชายหนุ่มหัวล้านที่สลบอยู่บนพื้นอย่างไม่อยากจะเชื่อเลย
“ไอ้เด็กเวร แกเล่นขี้โกง!”
เจี่ยงเฉิงสังเกตดูหลินหยุนจากหัวจรดเท้า ก็ไม่พบว่ามีอาวุธอะไรอยู่ในมือของหลินหยุนเลย แต่ว่าเขาก็ไม่เชื่อว่า ลูกน้องที่เก่งกาจเช่นนั้นของตัวเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุนแล้วถึงได้อ่อนหัดขนาดนี้
คนของตระกูลหลินทั้งสาม มองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป
หลินโล่เฉินหรี่ตาเล็กน้อย แล้วมองไปยังหลินหยุนหลายครั้ง
หลินโร่หลันตกตะลึงเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับพลังความสามารถของหลินหยุน
ส่วนหลินโร่สุ่ยกลับถามด้วยสีหน้าที่ใสซื่อว่า “พี่เจี่ยงเฉิงคะ นี่ก็คือลูกน้องที่เก่งที่สุดในบรรดาบอดี้การ์ดของพี่เหรอ? ดูไปแล้วก็ไม่เท่าไหร่เลยนะ!”
เมื่อถูกสาวหน้อยหลินโร่สุ่ยดูถูกเช่นนี้ เจี่ยงเฉิงรู้สึกเสียหน้าบ้างเล็กน้อย
เจี่ยงเฉิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “น้องโร่สุ่ยครับ ไม่ใช่เพราะว่าบอดี้การ์ดของพี่ไม่เก่งแต่เป็นเพราะว่าเจ้าเด็กนั่นใช้วิธีสกปรกอะไรที่พวกเราไม่รู้ต่างหาก”
หลังจากนั้น เจี่ยงเฉิงก็รีบตะโกนใส่บอดี้การ์ดสี่คนที่ยังยืนอยู่พวกนั้น “พวกแกทำไมยังยืนซื่อบื้ออยู่อีก รีบบุกเข้าไปสิ!”
ชายหนุ่มทั้งสี่คนนั้นตอนนี้ไม่สามารถจะขยับเขยื้อนได้เลย พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แข็งแกร่งของหลินหยุน ราวกับภูเขาลูกใหญ่ทับลงบนร่างของพวกเขา พวกเขาสามารถที่จะยืนหยัดต้านทานไว้จนถึงตอนนี้ได้ ก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้ว
หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจต่อความมุ่งมั่นของชายหนุ่มพวกนี้ พวกเขาก็ไม่ได้เป็นนักบู๊แต่กลับสามารถที่จะยืนหยัดต่อต้านพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขาได้นานถึงเพียงนี้
จะเห็นได้ว่า ทั้งสี่คนนี้มีจิตใจมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งมากทีเดียว
ในขณะที่เจี่ยงเฉิงกำลังตะคอกใส่ชายหนุ่มพวกนั้น
หลินหยุนก็เพิ่มพลังมากขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้น ชายหนุ่มทั้งสี่คนก็คุกเข่าลงไปกับพื้นทันที
เอ่อ!
เจี่ยงเฉิงสีหน้าชะงักไปทันที
“ฮ่าๆ!” หลินโร่สุ่ยกลับหัวเราะออกมาทันที ยิ่งทำให้ใบหน้าของเจี่ยงเฉิงรู้สึกร้อนผ่าวมากขึ้น
ท่านหม่าก็ถอนหายใจ มองดูใบหน้าที่โหดเหี้ยมของเจี่ยงเฉิง ในใจก็พูดอย่างจนปัญญาว่า “ฉันก็บอกแต่แรกแล้ว พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา แกก็ไม่เชื่อ ตอนนี้อับอายขายขี้หน้าแล้วสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...