จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 636

สรุปบท บทที่ 636 วิชาฟ่าเซี่ยงเทียงตี้: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 636 วิชาฟ่าเซี่ยงเทียงตี้ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 636 วิชาฟ่าเซี่ยงเทียงตี้ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลินหยุนมองดูภูเขาทั้งเจ็ดที่บินมาอย่างรวดเร็ว เขาถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ตัวเล็กราวกับมดตัวหนึ่ง

สามารถมองข้ามไปได้ เพราะยอดเขาทั้งเจ็ดยอด ทุกยอดสูงหลายพันเมตร

หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งวิเศษตราฟานเทียนที่มีค่าที่สุดในตำนานของจีน

ตามตำนานเล่าว่า สมบัตินี้เป็นของก่วงเฉิงจื่อแห่งเซียนสิบสององค์สำนักฉ่าน และได้รับการหลอมมาจากภูเขาปู้โจวครึ่งลูก

ภูเขาปู้โจวรู้จักในนามเสาที่รองรับท้องฟ้า น้ำป่าทะลักกระแทกใส่ภูเขาปู้โจว ทำให้เกิดดินถล่มทลาย เทพเจ้าหนี่วาซ่อมฟ้า

จะเห็นได้ว่า ภูเขาปู้โจวสูงแค่ไหน และภูเขาปู้โจวครึ่งลูกนั้น สูงกว่ายอดเขาทั้งเจ็ดยอดหลายร้อยพันเท่า

“ค่ายกลแผ่นดินหมื่นลี้ คล้ายกับวิธีโจมตีของตราฟานเทียน”

นำภูเขาลูกหนึ่ง หลอมให้เป็นอาวุธวิเศษ เมื่อกระแทกตรานี้ออกไป แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่สามารถขวางมันได้

ค่ายกลแผ่นดินหมื่นลี้ ยังใช้ยอดเขาเพื่อโจมตีผู้คน

เพียงแต่ว่า ความแข็งแกร่งของยอดภูเขาลูกนี้ ย่อมเล็กกว่าภูเขาปู้โจวครึ่งลูกนั้นมาก

หากหลินหยุนใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ก็สามารถทำลายยอดเขาทั้งเจ็ดนี้ได้ ท้ายที่สุด สิ่งนี้สร้างขึ้นจากค่ายกลเท่านั้น ไม่ใช่ภูเขาจริง

หากเป็นภูเขาสูงพันเมตร ด้วยความแข็งแกร่งของหลินหยุนในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ก็ไม่สามารถทำลายได้

เพียงแต่ว่า หากทำลายยอดเขาทั้งเจ็ดจนละเอียด ถ้างั้นผู้คนบนยอดเขาเหล่านั้นก็ไม่รอดแน่นอน

นี่คือปัญหาที่หนัก

หลินหยุนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้คนที่อยู่บนยอดเขาไม่ให้มีอันตรายถึงชีวิต เพื่อทำลายค่ายกลแผ่นดินหมื่นลี้

ดูเหมือนว่านักพรตจื่อหยางจะคาดเดาได้ชัดเจน ดังนั้น ทุกครั้งที่เขาโจมตี ก็จะให้หลินหยุนตัดสินใจเลือก

เมื่อมองไปที่ยอดเขาทั้งเจ็ดที่กระแทกใส่หลินหยุน นักพรตจื่อหยางก็เย้ยหยันอย่างมีชัย “ไอ้หนุ่มความมีจิตใตเมตตากรุณาเหมือนผู้หญิงจะทำให้ตายได้ ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกฝน !ทำไมต้องสนใจชีวิตของมนุษย์พวกนี้ด้วย?”

“พวกมัน เป็นแค่มดกลุ่มหนึ่ง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของนักพรตจื่อหยาง ทุกคนก็โกรธมาก

แม้แต่นักบู๊ที่ไม่เคยเห็นคนธรรมดามีค่า ก็ยังรู้สึกโกรธ

ชายและหญิงคู่นั้นมองไปที่หลินหยุน และชายคนนั้นก็รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย “ที่แท้เมื่อสักครู่ที่เขาไม่ได้ตอบโต้ เพื่อต้องการปกป้องผู้คนที่อยู่บนยอดเขา”

สายตาของผู้หญิงคนนั้นที่มองหลินหยุน ในที่สุดก็ไม่ได้ดูแคลน แต่เต็มไปด้วยความเคารพ

“เขายอมให้ตัวเองบาดเจ็บ แต่ก็ยังจะช่วยรักษาชีวิตคนธรรมดาเหล่านั้น ข้อมูลที่ท่านหงให้พวกเรา บอกว่าไอ้หนุ่มคนนี้ไม่แยแสและไม่เห็นอกเห็นใจ และไม่สนใจกับชีวิตคนธรรมดา ดูเหมือนว่าจะเข้าใจผิด”

ชายคนนั้นพูดว่า “บางที ความรู้สึกของท่านหง อาจมีอคติต่อเขามาโดยตลอด!”

ใบหน้าของหลินหยุนเรียบเฉย “แกคิดว่านี่จะทำให้ฉันลำบากเหรอ?”

“คนที่วิสัยทัศน์ไม่กว้างอย่างแก จะรู้ได้ยังไงว่าท้องฟ้ากว้างใหญ่แค่ไหน!”

“แค่ค่ายกลโบราณกาลเล็กๆ ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าในโลกไม่มีใครสามารถเอาชนะตัวเองได้”

“แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการฝึกฝนที่แท้จริงคืออะไร”

“วิชาฟ่าเซี่ยงเทียงตี้!”

เสียงเรียบเฉย ดูเหมือนจะข้ามมาจากสมัยโบราณ

ชั่วขณะที่ยอดเขาทั้งเจ็ดกำลังจะกระแทกใส่หลินหยุน ทันใดนั้นร่างของหลินหยุนก็โตขึ้น

ทันใดนั้น ก็กลายเป็นร่างใหญ่มหึมา

ร่างใหญ่ที่สูงแค่ไหน ยอดเขาทั้งเจ็ดที่อยู่ข้างหน้าเขา เหมือนลูกบาสเก็ตบอลเจ็ดลูก

หลินหยุนเหยียดมือออกไป ยอดเขาทั้งเจ็ดถูกเขาจับไว้อย่างมั่นคง แล้ววางลงบนพื้น

ทุกคนมองไปที่ร่างใหญ่มหึมาที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ตกใจจนอ้าปากค้าง

“นี่ ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า”

“นี่มันเวทมนตร์อะไรเนี่ย!”

“ที่แท้ปรมาจารย์หลินไม่ใชนักบู๊ แต่เป็นปรมาจารย์เวทมนตร์!”

ผู้คนไม่เคยเห็นหลินหยุนแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มาก่อน และคิดว่าคงเหมือนเวทมนตร์ค่ายกลแผ่นดินหมื่นลี้ของนักพรตจื่อหยาง

ชายคนนั้นตกใจและพูดว่า “ดูเหมือนว่า ข้อมูลของท่านหงจะผิดพลาดอย่างมาก!ความแข็งแกร่งของเขา เกรงว่าจะเข้าสู่แดนในตำนาน!”

หญิงสาวแสดงสีหน้าประหลาดใจ “ทักษะบู๊ในตำนานในวัยยี่สิบต้นๆ เป็นไปได้อย่างไร! แม้แต่ตาเฒ่าเหล่านั้นในโลกบู๊โบราณ ก็ไม่สามารถฝึกลูกศิษย์ที่เก่งกาจเช่นนี้ได้!”

นักพรตจื่อหยางมองไปที่ร่างยักษ์ที่อยู่ข้างหน้า ด้วยความตะลึง

“เป็นไปได้ยังไง! นี่มันเวทมนตร์อะไรเนี่ย?”

จู่ๆก็มีออร่าของความสยดสยอง ปรากฏขึ้น

ต่อหน้าพลังนี้ ทุกคนไม่สามารถยืนนิ่ง และมีความรู้สึกอยากคุกเข่าก้มกราบ

นักพรตจื่อหยางมีท่าทางเคร่งขรึม นับตั้งแต่เขาได้ค่ายกลนี้ ครั้งแรกที่มีความรู้สึกถึงอันตราย

“ไม่ไหวแล้ว การโจมตีด้วยกระบี่ครั้งนี้ทรงพลังเกินไป!”

นักพรตจื่อหยางตกใจมาก ด้วยวิสัยทัศน์ของเขา นึกไม่ออกจริงๆว่า ในโลกนี้จะมีการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้

“นี่เป็นการโจมตีที่มนุษย์สามารถทำได้จริงหรือ?”

“สู้เต็มที่!”

“อ๊ะ……”

นักพรตจื่อหยางใช้ชี่แท้ในร่างกายทั้งหมด เพื่อระดมกำลังของค่ายกล ระดมพลังระยะทางหลายหมื่นลี้ของภูเขาแม่น้ำและมหาสมุทรที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อต้านกระบี่ของหลินหยุน

ตูม!

ร่างกายของนักพรตจื่อหยางถูกทำลายด้วยกระบี่เล่มนั้น และความว่างเปล่าที่อยู่ข้างหลังเขา ก็ปรากฏความเอนเอียงไปเช่นกัน

ค่ายกลแผ่นดินหมื่นลี้ลูกนี้ ถูกกระบี่ทำลาย!

เพียงแต่ว่า หลินหยุนมีสีหน้าซีดเซียว ชี่ทิพย์ในร่างกายก็ใช้หมด

เสียงดังกึกก้อง!

ทันใดนั้น แผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน

น้ำป่าที่ท่วมหนัก เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุด ก็เห็นยอดเขาทั้งเจ็ดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นภูเขาเจ็ดลูกที่มีคลื่นติดต่อกัน

หลินหยุนมองดูภูเขาทั้งเจ็ดหลังน้ำท่วมลดลง และพูดในใจว่า “ที่นี่เป็นค่ายกลตามธรรมชาติจริงๆ”

“จบแล้วเหรอ?”

ผู้คนที่ติดอยู่บนภูเขา จ้องมองฉากนี้อย่างตะลึง รู้สึกเหมือนมีชีวิตที่เกิดใหม่

ผู้คนบนยอดเขาหลายลูก รีบลงมา จากนั้น รวมตัวกันบนแผ่นดินเบื้องล่าง

ทุกคนในตระกูลเจี่ยงก็เป็นหนึ่งในนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์