“ท่านประธาน ถึงแม้ฉันจะรู้ ฉันทำเช่นนี้ ค่อนข้างไร้ยางอาย แต่ว่า ฉันไม่สามารถทนดูบริษัทตงหวางกรุ๊ปล่มสลายไปเช่นนี้ หากถูกตระกูลหวางซื้อกิจการไป อย่างน้อยก็สามารถรักษาบริษัทไว้ได้” ประธานท่านหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
ประธานอีกท่านหนึ่งพูด “ท่านประธานหวาง พวกเราไม่สนหรอกว่าคุณจะมีบุญคุณและความแค้นอะไรกับตระกูลหวาง แต่ว่า สำหรับพวกเรา พวกเราจะเลือกวิธีที่มีผลประโยชน์ที่สุดต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ป ดังนั้น โปรดอย่าเอาเรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัวของคุณ นำมามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของบริษัท”
คนอื่นๆไม่พูดอะไร คนเหล่านี้ติดตามหวางซูเฟินมาตลอด พวกเขาอยู่ในบริษัทตงหวางกรุ๊ปเคยประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่พวกเขาก็ผ่านพ้นมาได้
ดังนั้น ความรู้สึกผูกพันที่มีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ปนั้น มันลึกซึ้งมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานั้น ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน บริษัทตงหวางก็ยังอยู่ พวกเขารู้สึกว่าความพยายามทุ่มเททำงานอย่างหนักนั้นคุ้มค่า
แต่ว่าตอนนี้ หวางซูเฟินกำลังจะยุบบริษัทตงหวางกรุ๊ป พวกเขาไม่สามารถทนดูบริษัทตงหวางกรุ๊ปล่มสลายไปเช่นนี้
หวางซูเฟินเหลือบมองฝูงชน และถามว่า “พวกคุณทุกคนมีความเห็นเหมือนกันใช่ไหม?”
ทุกคนไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าอย่างเงียบๆ
หวางซูเฟินยิ้มอย่างอย่างชา “พวกคุณคิดว่า ถ้าถูกซื้อกิจการ บริษัทตงหวางจะยังคงอยู่ได้ไหม?”
“สิ่งที่พวกคุณคิดนั้นไร้เดียงสาเกินไป”
ความเกลียดชังที่ตระกูลหวางมีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ป แน่นอนว่าจะไม่อนุญาตให้บริษัทตงหวางกรุ๊ปดำรงอยู่ต่อไป ซึ่งนั่นจะเป็นความอัปยศของตระกูลหวาง
หวางซูเฟินเข้าใจจิตใจที่โหดเหี้ยมของคุณพ่อ หากว่าถูกกว้านซื้อกิจการ บริษัทตงหวางกรุ๊ปจะหายตัวไปอย่างน่าสมเพชที่สุด และ อาจจะมีมลทินเหลือไว้
ประธานท่านนั้นพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ท่านประธานหวาง สิ่งที่ท่านพูดพวกเราก็เคยคิด แต่ว่า ถึงแม้จะมีความหวังเพียงริบหรี่ พวกเราก็ต้องดิ้นรนต่อสู้!”
“ถ้าคุณประกาศในตอนนี้ ปกป้องบริษัทตงหวางกรุ๊ป และต่อสู้จนนาทีสุดท้าย พวกเราจะยืนเคียงข้างคุณทันที และจะไม่ผิดคำสัญญา!”
หวางซูเฟินนิ่งอึ้งและจ้องมาที่พวกเขา ดูเหมือนว่า เธอจะเข้าใจความหมายของคนเหล่านี้ผิดไป
พวกเขาไม่ได้โลภกับเงื่อนไขที่ตระกูลหวางเสนอมา เพียงแค่ต้องการรักษาบริษัทตงหวางกรุ๊ปที่ดิ้นรนต่อสู้มาหลายปี
เมื่อเทียบกับหวางซูเฟิน ความคิดของพวกเขาบริสุทธิ์กว่า
ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกดีๆของพวกเขาที่มีบริษัทตงหวางกรุ๊ป ในบางสิ่งบางอย่าง มันยังมากกว่าหวางซูเฟินซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง
หวางซูเฟินเงียบเป็นเวลานาน คนเหล่านี้ไม่ได้ทรยศ และความรู้สึกดีๆที่พวกเขามีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ป ทำให้หวางซูเฟินรู้สึกละอายใจ
“ท่านประธาน ถ้าคุณหมดความมั่นใจต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ปจริงๆ ผมขอให้คุณปล่อยมือ! แล้วมอบให้พวกเรา ให้พวกเราดำเนินกิจการต่อไป” ท่านประธานหลี่พูดอย่างจริงใจ ด้วยน้ำเสียงแฝงด้วยความอ้อนวอน
“ท่านประธาน ขอร้องท่านยอมตกลง!” คนอื่นๆตะโกนพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมาย ราวกับว่าได้ซ้อมกันมานับครั้งไม่ถ้วน
หวางซูเฟินรู้ พวกเขาไม่ได้ซ้อมกันมา เพียงเพราะมีอุดมคติเดียวกัน
หวางเจ๋อไม่ยอมพูดอะไร มองดูหวางซูเฟินอย่างเงียบๆ แสดงท่าทางสีหน้าแห่งชัยชนะ
เมื่อมองดูสหายเก่าที่เคยทำงานร่วมกันมา และเพื่อนร่วมงานที่จงรักภักดีที่สุดของบริษัทตงหวางกรุ๊ป หวางซูเฟินก็ตกตะลึง
ฉินหลันขมวดคิ้ว จุดประสงค์ของหวางเจ๋อนั้นเรียบง่าย เขาต้องการให้คนภายในของบริษัทตงหวางกรุ๊ปแตกแยกกันเอง
สิ่งนี้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการวางแผนชั่ว แต่เป็นการบีบให้หวางซูเฟินต้องตัดสินใจเลือก
ไม่สนใจคำขอร้องของเพื่อนร่วมงานที่ต่อสู้กับเธอมาหลายปี และยืนกรานที่จะยุบบริษัทตงหวางกรุ๊ป
ยังคงประนีประนอมกับทุกคน ให้ยอมมอบบริษัทตงหวางกรุ๊ป
ทั้งหมดนี้ เป็นความคิดของหวางซูเฟินเอง
การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ในมือของหวางซูเฟิน
ทุกคนมองไปที่หวางซูเฟิน รอคำตอบจากเธอ
“ขอให้ฉันคิดดูก่อน!” หวางซูเฟินตัดสินใจไม่ได้จริงๆ
เธอไม่ต้องการที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานจำนวนมากต้องมาเสียใจ แต่ว่า เธอก็ไม่สามารถปฏิบัติตามความปรารถนาของหวางเจ๋อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...