หวางซูเฟินมองไปที่หลินหยุน ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “เธอช่วยเหลือบริษัทตงหวางกรุ๊ปอีกครั้ง โดยปกติแล้ว ฉันควรจะพูดขอบคุณ แต่ว่า ฉันอยากรู้ว่าคุณหลินหยุนเป็นใครกันแน่?”
“ทรัพย์สินหกหมื่นล้าน คุณหลินสามารถหามาได้ในเวลาหนึ่งชั่วโมง เมื่อดูจากคนในประเทศจีนทั้งหมด มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำได้”
“บริษัทตงหวางกรุ๊ปในระดับนี้ สำหรับคุณหลิน คงไม่ได้อยู่ในสายตาเลย!”
“ถ้างั้นฉันอยากจะถามว่า ทำไมหลายครั้งหลายคราวที่คุณหลินต้องช่วยบริษัทตงหวางกรุ๊ปของเรา มีแผนร้ายอะไรหรือเปล่า?”
ฉินหลันตกตะลึง มองไปที่หวางซูเฟินด้วยความประหลาดใจ เธอต้องการพูดแทนหลินหยุน เพราะยังไงหลินหยุนได้ช่วยให้บริษัทตงหวางกรุ๊ปพ้นวิกฤตมาหลายครั้ง ยังไงคงไม่ใช่คนเลว!
แต่ว่า จากการวิเคราะห์ตัดสินใจของหวางซูเฟิน ฉินหลันชื่นชมมาตลอด นอกจากนี้ฉินหลันได้สงสัยในแรงจูงใจของหลินหยุนมานานแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของหลินหยุน และทรัพย์สินทางการเงินที่แสดงออกมาในวันนี้ ต้องไม่ใช่ลูกเศรษฐีธรรมดาอย่างแน่นอน เบื้องหลังของเขา คงจะมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มาก
สุดท้ายฉินหลันก็ไม่ได้พูดอะไร มองหลินหยุนอย่างเงียบๆ รอคำตอบของเขา
หลินหยุนแอบถอนหายใจ เขารู้มานานแล้วสักวันจะต้องมีวันนี้ ด้วยความระมัดระวังของคุณแม่ ไม่ช้าหรือเร็วจะต้องสงสัยในตัวตนของเขาอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่า นำเงินหกหมื่นล้านออกมาในคราวเดียว ซึ่งทำให้คุณแม่ตกใจมาก
หลินหยุนมองหวางซูเฟิน ยิ้มและพูดว่า “ท่านประธาน ผมไม่เคยคิดร้ายกับท่าน ตรงจุดนี้ ท่านวางใจได้!”
“ไม่ว่าผมจะมาจากไหน ผมไม่เคยคิดร้ายกับท่านเลย”
หวางซูเฟินส่ายหัว “ฉันอยู่ในวงการธุรกิจนี้มาหลายสิบปีแล้ว และคุ้นเคยกับการวางกลอุบาย ดังนั้นสิ่งที่ฉันไม่เคยเชื่อก็คือคำพูดที่ไม่มีหลักฐาน”
“ถ้าเธอไม่ได้คิดร้ายกับบริษัทตงหวางกรุ๊ปจริงๆ ถ้างั้นก็บอกตัวตนที่แท้จริง และ ทำไมถึงต้องการช่วยพวกเรา?”
หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า “ฉันมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ อำนาจนั้นใหญ่กว่าตระกูลหวางมาก สำหรับอำนาจนั้นมาจากที่ใดนั้น ผมบอกคุณไม่ได้ โปรดให้อภัยด้วย!”
หวางซูเฟินพยักหน้า “อันนี้ฉันเข้าใจ”
แม้ว่าตระกูลหวางจะแข็งแกร่ง แต่ว่า ในโลกนี้ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตระกูลหวาง คงมีมากมาย
ยิ่งกว่านั้น อำนาจเหล่านี้เป็นความลับ หลินหยุนไม่พูด เมื่อดูเหตุผลแล้วก็สมควรให้อภัย
“และมาฟังคำถามต่อไปของฉัน? ทำไมเธอถึงช่วยพวกเราหลายครั้ง โดยไม่ขออะไรตอบแทน?” หวางซูเฟินจ้องไปที่หลินหยุน ราวกับว่าต้องการมองทะลุผ่านหัวใจของหลินหยุน
อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะหลินหยุนแสดงทรัพย์สินทางการเงินออกมามากเกินไป เธอก็ไม่ต้องการที่จะเจาะจงหาเรื่องคนที่มีพระคุณต่อตัวเอง
เพียงแต่ว่า ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การระมัดระวังไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ในโลกนี้มีแต่คนที่สนิทและคุ้นเคยเท่านั้น ที่จะทำให้เจ็บปวดใจมากที่สุด
หลินหยุนรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย คำถามแรก เขาสามารถแก้ตัวให้ผ่านๆไปได้
นอกจากนี้ เขาก็ไม่ได้หลอกลวงหวางซูเฟิน แต่เดิมสำนักต้าเต๋าก็เป็นมหาอำนาจ ตระกูลหวางอยู่ต่อหน้าสำนักต้าเต๋า แม้แต่มดก็เทียบไม่ได้
และแม้ว่าหลินหยุนจะบอกหวางซูเฟิน เธอก็ไม่เข้าใจ
เพียงแต่ว่า หวางซูเฟินถามว่าทำไมเขาต้องช่วยเหลือบริษัทตงหวางกรุ๊ป อันนี้มันยากสำหรับหลินหยุน
ข้อแก้ตัวอื่นๆ อาจจะหลอกไม่ผ่านแน่นอน
หรือแม้แต่ตัวเองจะบอกว่าเขาชอบฉินหลัน ก็เลยช่วยบริษัทตงหวางกรุ๊ป คิดว่าคุณแม่ก็คงไม่เชื่อแน่นอน
นี่ไม่ใช่นิยายความรัก ในฐานะคุณชายที่ร่ำรวย เบื้องหลังไม่เคยขาดผู้หญิง
ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐีหนุ่มทั่วไป คงจะไม่มีวันเหมือนในนิยายความรัก หมกมุ่นและจริงใจอยู่กับผู้หญิงคนเดียว รักจนต้องตายไปข้างหนึ่ง
พวกเขาจะมีความสุขกับการเอาชนะ
ดังนั้น เหตุผลนี้ จึงคาดว่าน่าจะไม่ผ่าน
แต่ว่า ควรใช้ข้อแก้ตัวอะไร? หรือว่าต้องบอกความจริงออกมา?
ลูกชายช่วยเหลือแม่แท้ๆของตัวเอง นี่ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่ปัญหาคือว่า แม้ว่าหลินหยุนจะพูดออกมาในตอนนี้ หวางซูเฟินก็คงจะไม่เชื่อ และจะยิ่งสงสัยในแรงจูงใจของหลินหยุนมากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะตอนที่หลินหยุนและหวางซูเฟินแยกจากกันนั้น ก็ไม่เคยเห็นหน้าหวางซูเฟินเลย
คงไม่สามารถบอกแม่ของตัวเองว่าได้ อันที่จริงฉันเป็นผู้บำเพ็ญเซียน และฉันเป็นกษัตริย์เซียนมาเกิดใหม่ ดังนั้น ฉันจึงสามารถรู้อดีตและอนาคตได้
ถ้าเป็นเช่นนี้คาดว่าหวางซูเฟินจะต้องส่งเขาไปที่โรงพยาบาลจิตเวชทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...