หลินโร่สุ่ยพูดว่า “ทำอย่างนนั้นได้ไง ฉันเตรียมชาชั้นดีไว้เป็นพิเศษ คุณลองชิมดู!”
หลินโร่สุ่ยชงชาให้หลินหยุนอย่างดื้อรั้น แล้วยื่นไปตรงหน้าหลินหยุน
เมื่อดูจากการเคลื่อนไหวที่ชำนาญของเธอแล้ว เห็นได้ชัดว่า แต่ก่อนคงทำงานเหล่านี้บ่อย
คุณหนูใหญ่คนหนึ่ง วันๆทำแต่งานชงชารินชา สามารถจินตนาการได้ว่า โร่สุ่ยอยู่ในตระกูลหลิน ใช้ชีวิตอยู่แบบไหน
หลังจากชงชาให้หลินหยุนเสร็จแล้ว หลินโร่สุ่ยก็นั่งตรงข้ามหลินหยุน
อาจเป็นเพราะครั้งที่แล้วต่อหน้าพี่สาว ได้ระบายความแค้นออกมา เวลาที่เธอพูด ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข
สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าซึ่งสวยและบริสุทธิ์อยู่แล้วของหลินโร่สุ่ย ดูอ่อนเยาว์และแข็งแรงขึ้น
หลินหยุนกำลังดื่มชา และมองหลินโร่สุ่ยที่ดวงตาโตเปล่งแสงเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่า สาวน้อยมีความในใจที่อยากจะพูด
ในดวงตาสีดำขาวกลอกไปมา และถามด้วยรอยยิ้ม “พี่หลินหยุน คุณจำได้ไหม ครั้งก่อนที่ฉันพบคุณที่บริษัทตงหวางกรุ๊ป สิ่งที่คุณพูดเหล่านั้น?”
หลินหยุนแกล้งทำเป็นไม่รู้ “คำไหน?”
“ก็คุณบอกฉันว่ายังไม่ถึงนาทีสุดท้าย ห้ามยอมแพ้ ไม่แน่อาจมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น” หลินโร่สุ่ยพยายามทำให้หลินหยุนจำได้
หลินหยุนรู้ว่าเธอต้องการจะถามอะไร และแน่นอนจะไม่ทำตามความต้องการของเธอ “ฉันเคยพูดแบบนี้หรือ? จำไม่ได้แล้ว”
หลินโร่สุ่ยกลอกตาทันที “คุณขี้ลืมขนาดนี้เลยหรือ? หรือคุณจงใจ”
“ฉันจะบอกคุณ หลังจากที่คุณพูดแบบนั้นแล้ว ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงๆ”
หลินหยุนจิบชา และพูดเบาๆ “โอ้ ถ้างั้นยินดีกับเธอด้วย สิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์นั้น เพียงเพราะโอกาสที่มันจะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก เธอสามารถพบเจอ เป็นความโชคดีจริงๆ”
หลินโร่สุ่ยรู้สึกจนปัญญา “หลินหยุนคนนี้ จงใจหรือเปล่า บ่ายเบี่ยงคำถามฉันทุกครั้ง”
ในที่สุดหลินโร่สุ่ยก็ไม่อ้อมค้อม และถามตรงๆ “พี่หลินหยุน คุณบอกฉันมาตามตรง คุณคือคุณหลินที่ลึกลับคนนั้นหรือไม่?”
พยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ ฉันก็คือคุณหลิน”
“จริงเหรอๆ!” หลินโร่สุ่ยดีใจมาก “ฉันเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นคุณ ในบรรดาคนที่ฉันรู้จัก มีแต่คุณเท่านั้นที่เคยพูดให้กำลังใจฉัน”
“ที่แท้คุณก็คือคุณหลินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง!”
หลินหยุนถามอย่างจริงจัง “ฉันมีชื่อเสียงมากเลยหรือ? ทำไมฉันถึงไม่รู้”
หลินโร่สุ่ยพูดว่า “คุณไม่รู้อยู่แล้ว ตอนนี้ข่าวกำลังแพร่ไปทั่ว คุณหลินเก่งกาจแค่ไหน แค่คนเดียว สามารถเรียกคนระดับสูงในวงการบันเทิงมาได้มากมาย”
หลินหยุนถามอย่างสงสัย “ฉันไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในวงการบันเทิงตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลินโร่สุ่ยผงะ ทันใดนั้นก็ยิ้ม “อย่าล้อเล่น คุณก็ยอมรับแล้วนี่ว่าคุณคือคุณหลิน?”
หลินหยุนพูดว่า “ใช่ ฉันแซ่หลิน ไม่ใช่คุณหลินแล้วคือใคร?”
หลินโร่สุ่ยอ้าปากค้าง นิ้งอึ้ง
ผ่านไปสักพัก หลินโร่สุ่ยก็ลองเชิงถาม “พี่หลินหยุน คุณไม่ใช่คุณหลินจริงๆหรือ?”
หลินหยุนยังคงพูดอย่างจริงจัง “ฉันบอกแล้ว ฉันคือคุณหลิน”
หลินโร่สุ่ยจนปัญญา “ตกลง ข้ามหัวข้อนี้ไปซะ”
หลินหยุนไม่พูด เขาไม่ต้องการให้หลินโร่สุ่ยรู้ว่าเขาช่วยเธอ เขากังวลว่ามันจะส่งผลต่อการเติบโตของหลินโร่สุ่ย
ความแข็งแกร่งของผู้อื่น ยังไงก็ไม่ใช่ของตัวเอง
ถ้าหลินหยุนจากไป หลินโร่สุ่ยจะพึ่งใครได้?
แต่ว่า หลินหยุนก็ไม่ต้องการหลอกลวงหลินโร่สุ่ย ดังนั้น เขาจึงยอมรับว่าตัวเองก็คือคุณหลิน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคุณหลินที่หลินโร่สุ่ยพูดถึงหรือไม่ หลินหยุนไม่ได้อธิบายชัดเจน
ด้วยวิธีนี้ ในอนาคตหากหลินโร่สุ่ยถามถึงอีก ก็ไม่อาจมากล่าวหาว่าหลินหยุนโกหกเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน หลินโร่สุ่ยก็พูดถึงงานเลี้ยงค็อกเทลชนชั้นสูงอีกครั้ง
“จริงสิพี่หลินหยุน งานเลี้ยงค็อกเทลชนชั้นสูงครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่เมืองชั่งเหอได้ยินมาว่าครังนี้จะมีคนอัจฉริยะมากมายจากตระกูลใหญ่มา”
“ก่อนหน้านี้ ฉันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมงานแบบนี้ เพราะคุณหลิน ฉันจึงได้รับเชิญ”
“อีกอย่าง ได้ยินมาว่าคนจากตระกูลนิ่งในเมืองหลวงก็จะมาด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...