คนเราก็มักจะเป็นเช่นนี้ หวางซูเฟินยอมเอาเงินที่ขาดทุนมาหลายปีของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเพื่อช่วยเหลือบริษัทของหานเจียวเจียว
แต่ว่าตอนนี้เพียงแค่พูดเรื่องนี้ออกมาให้ทุกคนรู้เท่านั้นเอง หานเจียวเจียวก็คิดว่าหวางซูเฟินเจตนาที่จะหยามเกียรติเธอแล้ว
บุญคุณคนมักถูกลืมง่าย แต่ว่าความแค้นนี้สิกลับยั่งยืนยาวนานหลายสิบปีแม้กระทั่งอาจถึงร้อยปีก็ได้
ก็เหมือนคำพูดหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องไซอิ๋วที่กล่าวไว้ว่า: เวลารักใครสักคนมันช่างสั้นเหลือเกิน แต่เวลาโกรธแค้นใครสักคนกลับยาวนานถึง 500 ปี
ภายในห้องโถงนั้น ผู้คนตระกูลหลินทั้งหลายก็ยังนั่งตามตำแหน่งเดิมเช่นเมื่อวานนี้
ที่นั่งประธานนั้น หลินซื่อเฉิงก็กวาดสายตาไปยังผู้คน แล้วถามว่า “ตงถิง เตรียมห้องรับแขกไว้เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
หลินตงถิงลุกขึ้นยืน ตอบด้วยความนอบน้อมว่า “เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
หลินซื่อเฉิงก็ลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “งั้นไปเถอะ ไปรวมตัวที่ห้องรับแขกกัน”
ตระกูลหลินในฐานะที่เป็นตระกูลสูงศักดิ์อันดับหนึ่งของอูซู เวลาที่จัดงานเลี้ยงปีใหม่ของทุกปีนั้น ก็มักจะมีผู้คนมากมายมาอวยพรปีใหม่ ในห้องโถงใหญ่มีที่ว่างจำกัด ดังนั้นตระกูลหลินจึงได้สร้างห้องรับแขกขนาดใหญ่หลังหนึ่งขึ้นมาโดยเฉพาะ
ผู้คนตระกูลหลินทั้งหลายก็เดินตามนายท่านหลินซื่อเฉิง เคลื่อนย้ายไปยังห้องรับแขกที่กว้างขวางโอ่โถงนั้น
หลินตงถิงลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “เจ้าบ้านครับ เย่เทียนเหลียง เจ้าบ้านตระกูลเย่แห่งเจียงหนานได้มารอพบอยู่ด้านนอกนานแล้วครับ”
ตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน เป็นพาร์ทเนอร์สำคัญที่ร่วมมือของตระกูลหลินแห่งอูซูมาโดยตลอด แน่นอนที่ว่า ในระหว่างที่ตระกูลหลินร่วมมือกับตระกูลเย่นั้น ตระกูลเย่เป็นฝ่ายที่อ่อนแอกว่า ดังนั้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาตระกูลเย่ก็ได้ประจบประแจงตระกูลหลินมาโดยตลอด
งานเลี้ยงปีใหม่ตระกูลหลินที่จัดขึ้นแทบทุกปีนั้น ตระกูลเย่จะต้องเป็นรายแรกที่มาอวยพรปีใหม่ตระกูลหลิน
มิหนำซ้ำ นายบ้านตระกูลเย่คนปัจจุบัน ยังยกลูกสาวของตัวเองให้กับหลินเห้าอัจฉริยะของตระกูลหลินอีกด้วย
แต่ว่า ตระกูลเย่อยู่ที่เจียงหนานนั้น ก็สามารถอยู่ในลำดับหนึ่งในสิบได้ นับว่าอำนาจบารมีก็ไม่น้อยเช่นกัน
ต่อให้ตระกูลหลินเอง ก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกิน
หลินซื่อเฉิงก็รีบพูดว่า “เร็วๆ รีบเชิญเร็ว!”
“ครับ ผมจะไปต้อนรับด้วยตัวเองครับ!” หลินตงถิงพูดจบ ก็รีบเดินออกไปข้างนอก
เมื่อได้ยินว่าตระกูลเย่มาถึงแล้ว สีหน้าของหลินเห้าก็แสดงความภูมิใจออกมา
หลินเหลยที่นั่งอยู่ข้างกายเขา หัวเราะแหะๆแล้วพูดว่า “พี่ห้าว พี่สะใภ้จื่อเชี่ยนมาถึงแล้ว!”
“ฮึ่ม การประเมินผลงานตระกูลเมื่อวานถูกหลินหยุนเจ้าเด็กนั่นแย่งซีนไปหมดเลย วันนี้รอให้พี่สะใภ้จื่อเชี่ยนมาถึงก่อนเถอะ พี่ห้าวจะต้องแย่งซีนกลับมาให้ได้!”
“ต่อให้เจ้าเด็กนั่นร่ำรวยแล้วทำอะไรได้? เขาสามารถหาเทพธิดาที่มีทั้งชาติตระกูลที่ดีและสวยงามอย่างพี่สะใภ้จื่อเชี่ยนแบบนั้นได้ไหมล่ะ?”
หลินเหลยยกหางหลินเห้าจนเขารู้สึกสบายอกสบายใจ
“หลินหยุนเจ้าเด็กนั่น นับว่าเขาโชคดี ทำให้เขาแย่งซีนฉันไปได้ในการประเมินผลงานของตระกูล วันนี้ฉันจะต้องเหยียบเขาให้จมดินไปเลย!”
ในไม่ช้า หลินตงถิงก็พาผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา
ข้างกายของชายวัยกลางคนนั้น ยังมีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาสวยงาม รูปร่างสูงเพรียวแต่งตัวในชุดกระโปรงสีขาวเดินมาด้วย
เย่เทียนเหลียงพาลูกสาวเย่จื่อเชี่ยน เดินมาถึงตรงหน้าหลินซื่อเฉิง โค้งตัวคำนับ “สวัสดีปีใหม่ครับนายท่านหลิน เย่เทียนเหลียงมาอวยพรปีใหม่ให้กับนายท่านหลินแล้วครับ!”
“คุณปู่หลิน สวัสดีปีใหม่ค่ะ!” เย่จื่อเชี่ยนพูดด้วยเสียงเบาๆ น้ำเสียงสดใสกังวานไพเราะน่าฟัง
หลินซื่อเฉิงก็รีบตอบรับด้วยรอยยิ้มว่า “เทียนเหลียง ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน คุณพ่อสบายดีไหม?”
“ขอบคุณที่นายท่านยังระลึกถึง คุณพ่อร่างกายแข็งแรงดีครับ” เย่เทียนเหลียงพูด
หลินซื่อเฉิงก็มองไปยังเย่จื่อเชี่ยน พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นานแล้วที่ไม่ได้พบเจอ จื่อเชี่ยนดูสวยขึ้นมากเลย”
“ขอบคุณคำชมของคุณปู่หลินค่ะ!” เย่จื่อเชี่ยนพูดด้วยความดีใจ
หลังจากอวยพรปีใหม่แล้ว เย่เทียนเหลียงก็มานั่งอยู่ข้างๆหลินตงถิง
ตามมารยาทแล้ว แขกผู้มีเกียรติที่มาอวยพรปีใหม่นั้น นั่งอยู่ข้างกายของใครก็ถือว่าเป็นเครือข่ายสัมพันธ์ของคนนั้น
ระหว่างเย่เทียนเหลียงกับหลินตงถิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงถือว่าเป็นเครือข่ายสัมพันธ์ของหลินตงถิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...