หงซานเหอพูดอธิบายอยู่ด้านข้าง: “เนื่องจากทีมฝ่ายตะวันตกกดดันได้เปรียบจีนมาโดยตลอด ทำให้สนามล่าเจ็ดเผ่าในอดีตโดยส่วนใหญ่นั้น จีนก็จะเป็นอันดับสุดท้าย”
“มีเพียงแค่ครั้งนั้นที่เทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋เข้าร่วม ผลงานออกมาดีสักหน่อย แต่ก็มีผลงานอยู่ในอันดับที่สามจากท้ายเท่านั้น”
หลินหยุนสามารถเข้าใจได้ว่า ต่อให้จีนจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่สามารถที่จะอาศัยกำลังของตนเองเพียงอย่างเดียว เพื่อที่จะไปสู้รบกับสี่เผ่าพันธมิตรได้
แม้ว่าคนของรัสเซีย จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับประเทศตะวันตกสักเท่าไหร่ แต่ว่าในทางชาติพันธุ์แล้วพวกเขาก็ไม่แตกต่างอะไรกับประเทศตะวันตกมากเท่าไร
มีเพียงแค่จีน ที่ไม่ว่าจะเป็นด้านความสัมพันธ์หรือว่าชาติพันธุ์แล้ว ต่างก็จะต้องโดนประเทศตะวันตกนั้นดูถูกเหยียดหยาม
“ดูเหมือนว่า ครั้งนี้ที่เลือกฉันเป็นผู้บัญชาการ ถือว่าเป็นภาระหน้าที่อันหนักหนาเลยทีเดียว! ”หลินหยุนเหมือนกับว่าเข้าใจถึงความหมายของประธานาธิบดีจีนแล้ว
หงซานเหอถามขึ้นว่า: “ผู้อาวุโสทั้งสองท่านมีอะไรที่จะต้องกำชับหรือไม่อย่างไร? ”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งกวาดสายตามองไปที่ห้าคน และพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: “ภายในสนามล่าเจ็ดเผ่า ในทุกที่ต่างก็แฝงไว้ด้วยอันตรายความเสี่ยงที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ พวกนายจะต้องออกล่าสัตว์พร้อมกันจึงจะเป็นการดีที่สุด ห้ามกระทำการตามลำพังโดยเด็ดขาด”
“ถ้าหากพบกับสัตว์ประหลาดที่จัดการไม่ได้ อย่าได้ดึงดันโอ้อวดโดยเด็ดขาด”
“อีกสักครู่ทุกคนจะได้รับยันต์หยกหนึ่งชิ้น นั่นคือกุญแจสำหรับการเข้าสู่สนามล่าเจ็ดเผ่า และก็คือสิ่งของที่ใช้ปกป้องรักษาชีวิตของพวกนาย ซึ่งจะต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี ห้ามหล่นหายอย่างเด็ดขาด! ”
ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งพูดเสริมขึ้นว่า: “ยันต์หยกนี้ในตอนที่พวกนายประสบกับอันตราย เพียงแค่บีบให้แตกละเอียด แบบนี้แล้ว พวกนายก็จะถูกพลังงานพิเศษในสนามนำตัวส่งออกมา”
“ซึ่งในตอนที่พวกนายใช้ยันต์หยกนี้ ก็หมายความว่าได้สละสิทธิ์การแข่งขันในครั้งนี้ด้วย จำไว้นะว่าเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญเท่านั้น จึงจะใช้ยันต์หยกนี้”
หงซานเหอมองไปที่ทุกคน และถามขึ้นว่า: “ต่างก็ฟังเข้าใจกันแล้วใช่ไหม? ”
เฉินโก๋ซ่งและทุกคน อกผายไหล่ผึ่ง และพูดขึ้นพร้อมกันว่า: “เข้าใจ! ”
หงซานเหอมองไปที่หลินหยุน และได้กำชับอีกครั้งว่า: “สุดท้ายข้าขอกำชับกับพวกนายอีกครั้งว่า หลังจากที่เข้าสู่สนามล่าเจ็ดเผ่าแล้ว จะต้องทำตามกำลังของตน ห้ามโอ้อวดดึงดันเด็ดขาด ถึงแม้หน้าที่เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่การรักษาชีวิตเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด! ”
“มีชีวิตเข้าไป และต้องมีชีวิตกลับออกมา! ”
“นายพลหงวางใจได้ พวกข้าจดจำเอาไว้แล้ว! ” เฉินโก๋ซ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
หงซานเหอมองไปที่หลินหยุน โดยที่ไม่พูดจา แต่ว่า หลินหยุนสามารถรับรู้ได้ถึงความหมายของเขา
เขาได้กล่าวเตือนกับหลินหยุนว่า ห้ามโอ้อวดดึงดัน ต้องระมัดระวังอย่างมากในทุกเรื่อง
หลินหยุนรู้สึกว่า แม้ว่าหงซานเหอจะไม่ค่อยชอบพอเขาในทุก ๆ เรื่อง แต่เมื่อประสบกับปัญหา ในใจของหงซานเหอ ก็ยังคงมีตนเองอยู่
“ออกเดินทาง ไปสนามแข่งขันกันเถอะ! ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งก้าวเดินไปพร้อมกับพูดขึ้น
“ตามไปกันเถอะ! ” หงซานเหอมองไปที่ทั้งห้าคน แล้วก็ก้าวเดินตามกันไป
ทั้งคณะ ภายใต้การนำของผู้พิทักษ์รักษาสนามล่าสัตว์ ก็มาถึงลานกว้างด้านหน้ากลุ่มเสาหินขนาดใหญ่
ในบริเวณลานกว้าง มีคนยืนอยู่จำนวนมากแล้ว ซึ่งเมื่อนับรวมกับพวกของหลินหยุนด้วย ก็รวมทั้งหมดเป็นเจ็ดทีม โดยต่างก็มีผู้อาวุโสในชุดคลุมสีดำสองคนเป็นผู้นำมา
หงซานเหอพูดแนะนำขึ้นว่า: “คนชุดดำเหล่านั้น ก็คือผู้พิทักษ์รักษาสนามล่าเจ็ดเผ่าของแต่ละชนชาติ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาสนามล่าเจ็ดเผ่านี้”
“พวกนายลองสังเกตดู สมาชิกของแต่ละชนชาติ ซึ่งคนเหล่านี้ก็คือคู่ต่อสู้ของพวกนาย”
ไม่ต้องให้หงซานเหอกล่าวเตือนขึ้น สายตาของหลินหยุนและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้สังเกตไปที่คนของแต่ละทีมเหล่านั้นตั้งแต่แรกแล้ว
บนร่างของสมาชิกแต่ละชนชาติ ต่างก็มีตราสัญลักษณ์ประจำแต่ละชาติ ซึ่งทำให้แยกแยะออกได้โดยง่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...