จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 743

เมื่อแจกจ่ายยันต์หยกเคลื่อนย้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้พิทักษ์ของแต่ละชนชาติต่างก็กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง

ผู้อาวุโสชาวผิวขาวที่มีหนวดเครายาวคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นผู้รับผิดชอบพิทักษ์รักษาสนามล่าเจ็ดเผ่านี้ ได้ใช้ภาษาต่างชาติตะโกนประกาศขึ้นเสียงดังว่า: “เตรียมเริ่มต้นเปิดการแข่งขันสนามล่าเจ็ดเผ่าแล้ว! ”

เฉินโก๋ซ่งได้แปลคำพูดของเขาให้กับทุกคน

ห่าวจ้านรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย: “ในที่สุดก็จะเริ่มต้นแข่งขันสนามล่าเจ็ดเผ่าแล้วใช่ไหม? ข้าตั้งหน้าตั้งตารออย่างมากเลย! ”

ผู้พิทักษ์ของแต่ละชนชาติต่างก็ได้นำหินหยกสีเขียวทรงห้าเหลี่ยมออกมา แล้วเดินไปยังด้านหน้าของเสาหินยักษ์เหล่านั้น

จากนั้น เหล่าผู้พิทักษ์ก็ได้นำหินหยกทรงห้าเหลี่ยม วางใส่เข้าไปในช่องห้าเหลี่ยมที่อยู่ด้านล่างของเสาหิน

ทันใดนั้น ราวกับว่ามีเสียงสั่นดังขึ้นเล็กน้อยในระหว่างชั้นฟ้าชั้นดิน และพื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน

พลังงานที่ไร้ตัวตนของสนาม ได้แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะเล็กแห่งนี้

ช่วงระหว่างเสาหินยักษ์เหล่านี้ ได้ถูกพลังงานที่ไร้ตัวตนเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ราวกับใยแมงมุมอย่างไรอย่างนั้น

แต่ว่า สิ่งเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งหลินหยุนเองก็ใช้ประสาทสัมผัสจึงทำให้รับรู้ได้

ตำแหน่งใจกลางของเสาหินนั้น ปรากฏประตูทิพย์บานหนึ่งขึ้นที่มีความกว้างประมาณสองเมตร และยาวประมาณสามเมตร โดยภายในประตูมืดมิดไปหมด และมีกลิ่นอายความตายที่น่าสะพรึงกลัวกระจายออกมาอยู่อย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่าเชื่อมโยงกับความว่างเปล่าที่ไร้พรมแดน

“ประตูพิเศษของสนามล่าสัตว์ได้เปิดขึ้นแล้ว ผู้เข้าแข่งขันแต่ละชนชาติรีบเข้าไปด้านในให้รวดเร็วที่สุด” ผู้นำของเหล่าผู้พิทักษ์รักษากล่าวขึ้นด้วยความจริงจัง

หงซานเหอพูดขึ้นว่า: “เข้าไปกันเลย”

“ไปกันเถอะ! ” เฉินโก๋ซ่งตะโกนขึ้นด้วยความหนักแน่น แล้วทุกคนก็เดินไปยังประตูพิเศษบานนั้น

หลินหยุนก็เดินตามอยู่ด้านหลัง โดยเดินตรงไปที่ประตูทิพย์บานนั้น

เมื่อผู้เข้าแข่งขันของจีนมาถึงด้านข้างประตู และเตรียมที่จะเข้าไปด้านในนั้น ก็ถูกคนเบียดกระเด็นออกมา โดยผู้เข้าแข่งขันของอเมริกาทั้งห้าคน ยืนขัดขวางอยู่ด้านหน้าของผู้เข้าแข่งขันชาวจีนด้วยท่าทางที่กำเริบเสิบสาน

ชายผิวขาวที่นำทีมคนนั้น ยังได้ชูนิ้วกลาง ให้กับเฉินโก๋ซ่งและคนอื่น ๆ พร้อมกับพูดด่าคำที่ไม่สุภาพขึ้นด้วย

ห่าวจ้านโมโหอย่างมาก และถามเฉินโก๋ซ่งขึ้นว่า: “เขาพูดอะไร? ”

เฉินโก๋ซ่งสีหน้าทาทางจริงจัง: “ก็เป็นพวกคำพูดยั่วยุท้าทาย ไม่ต้องไปสนใจเขา ปล่อยให้พวกเขาเข้าไปก่อน! ”

หลินหยุนมองไปที่คนอเมริกาที่พูดยั่วยุคนนั้น โดยในชาติที่แล้วที่เขาเป็นมหากษัตริย์ชางฉอง สามารถเข้าใจในหลากหลายภาษา แม้แต่ภาษาโบราณของเผ่าปีศาจเขาเองก็เคยผ่านตามาบ้าง ซึ่งสามารถที่จะฟังเข้าใจคำพูดของคนอเมริกานั้นได้อย่างแน่นอน

เขาพูดว่า จะฆ่าไอ้พวกชาวจีนผิวเหลืองที่สมควรตายให้สิ้นซาก

ชัดเจนว่า นี่คือผู้ที่เหยียดเชื้อชาติ

หลังจากที่เดินตามพวกคนอเมริกา หลินหยุนกับพวกทั้งห้าคนก็ได้เข้าสู่ประตูพิเศษแล้ว ด้านหน้ามืดมิดไปหมด และประสาทสัมผัสทั้งหกก็ได้สูญหายไปเช่นกัน

รู้สึกว่าคล้ายกับผ่านพ้นเวลาที่ยาวนานนับหนึ่งศตวรรษ และก็รู้สึกคล้ายกับว่าเพิ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วินาที หลินหยุนกับคนอื่น ๆ ก็พบว่า ได้มาถึงดินแดนที่แปลกหูแปลกตาแห่งหนึ่งแล้ว

ชาวอเมริกาเหล่านั้นหายสูญไปแล้ว ซึ่งน่าจะถูกส่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง

ท้องฟ้าของที่นี่ มีสีแดงเข้ม มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ พื้นดินมีสีน้ำตาล ราวกับสีของเลือดที่แห้งแข็งตัว

ภายในอากาศเต็มไปด้วยพลังงานที่รุนแรง รวมถึงยังมีกลิ่นอายของควันไฟที่เกิดขึ้นหลังจากการเผาไหม้

บนพื้นดิน กลาดเกลื่อนไปด้วยซากกำแพงที่พังทลายลง รวมถึงเศษชิ้นส่วนที่ผุพังของพวกสิ่งของไฮเทคต่าง ๆ

“นี่มันคือสิ่งของอะไรกัน? ” ห่าวจ้านเดินไปยังด้านหน้าวัตถุทรงครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง แล้วใช้เท้าเตะแผ่นเหล็กที่มีความหนาอย่างน่าตกใจ

แต่ว่า วัตถุทรงครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ชิ้นนั้น กลับมีน้ำหนักเบามาก ถูกห่าวจ้านเตะจนหล่นลงมา

แต่ว่า วัสดุของสิ่งของชิ้นนี้กลับมีความแข็งแรงทนทานสุด ๆ โดยที่วางทับอยู่บนวัตถุแหลมคม ก็ยังไม่เกิดรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย

ส่วนวัตถุที่แหลมคมชิ้นนั้น คือทวนกรีดนภา

เฉินโก๋ซ่งและคนอื่น ๆ ส่ายศีรษะ: “ข้าเองก็มองไม่ออก จากระดับของเทคโนโลยีบนโลกของพวกเราแล้ว น่าจะยังไม่สามารถประดิษฐ์สิ่งของชิ้นนี้ขึ้นได้”

ยิ่งตงไหลพูดว่า: “ข้ามองรูปลักษณ์ภายนอกของสิ่งของชิ้นนี้แล้ว มันคล้ายกับอากาศยานลำหนึ่ง”

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เขาเองรู้จักสิ่งของชิ้นนี้ ซึ่งเคยพบเห็นบนดาวเคราะห์ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำกว่าบนโลกนี้เป็นร้อยเท่า ซึ่งเรียกว่ารถยนต์ลอยฟ้าพลังงานแม่เหล็ก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์