น้ำเสียงของเหยียนเสวเหวิน เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ก็เหมือนกับได้รับรู้โดยพลันว่า ปรมาจารย์นักบู๊ที่ตนเองยกย่องนับถือนั้น ที่จริงแล้วก็คือคนหลอกลวง
จางเหมิงที่อยู่ข้างกายของเหยียนเสวเหวิน ได้ยิ้มเยาะและพูดขึ้นอย่างน่าประหลาดว่า: “หลินหยุน ในช่วงนี้ คงจะใช้ชีวิตได้ไม่ค่อยราบรื่นล่ะสิ! ”
“อย่างนี้ดีไหม นายขอร้องเสวเหวิน ให้เขาช่วยพูดดี ๆ กับปรมาจารย์เหยียน เพื่อให้ปรมาจารย์เหยียนถ่ายทอดวิชาให้กับนายบ้าง”
หวางหยู่หันยิ้มเยาะ และพูดว่า: “อย่างเขาที่มีความสามารถแค่เพียงเล็กน้อย ปรมาจารย์เหยียนจะเห็นถึงความสำคัญของเขาได้อย่างไร! ”
“ฉันคิดว่า ต่อไปหลินหยุนไม่ควรที่จะอวดอ้างว่าเป็นปรมาจารย์เพื่อไปหลอกลวงคนอื่นอีกแล้ว ตอนนี้มีนักบู๊อยู่เต็มท้องถนนไปหมด นายก็คงจะไม่สามารถหลอกลวงใครได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นมาที่บริษัทของตระกูลเหยียน เพื่อเป็นยามรักษาความปลอดภัยดีกว่า”
“ฮ่าฮ่า......”
คำพูดของหวางหยู่หัน ทำให้เพื่อนนักเรียนที่อยู่ด้านข้างของเหยียนเสวเหวินหัวเราะกันยกใหญ่
เหยียนเสวเหวินเองก็ให้ความร่วมมือมาก โดยรีบพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “เฮ้ย หยู่หัน ยามของบริษัทของฉัน เมื่ออยู่ภายนอก ก็ถือเป็นยอดฝีมือชั้นยอด ซึ่งไม่ใช่ว่าผู้ใดก็จะมีคุณสมบัติที่เหมาะสม”
เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งยิ้มเยาะและพูดขึ้นเสียงดังว่า: “ถ้าพูดแบบนี้ ปรมาจารย์หลินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ตอนนี้แม้แต่คุณสมบัติที่จะเป็นยามก็ยังไม่มีเลยอย่างนั้นเหรอ! ”
“ฮ่าฮ่า......”
ฉินโส่วกับจางซือจู่และคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่โกรธเคือง
จางซือจู่ยิ้มเยาะและพูดว่า: “หวางหยู่หัน ไม่รู้ว่าตอนนั้นใครขอร้องฉันเพื่อต้องการเบอร์โทรศัพท์ของหลินหยุน! ”
“ตอนนี้เธอมาพึ่งพิงตระกูลเหยียน แล้วก็มาดูถูกเหยียดหยามหลินหยุนเลยทันที หญิงเจ้าเล่ห์แบบเธอนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าถึงแม้จะยินยอมปล่อยกายให้กับเหยียนเสวเหวินแล้วเขาเองก็ยังไม่ต้องการตัวเธอ”
พูดถึงการด่าคนนั้น จางซือจู่ถือว่าปากร้ายอย่างที่สุด
คำพูดนี้ เกือบที่จะทำให้หวางหยู่หันกระอักเลือดออกมา
ส่วนเหยียนเสวเหวินเองก็ผะอืดผะอม เหมือนกับว่าพวกเขาทั้งสองมีลับลมคมในอะไรกันอย่างนั้น
จางเหมิงที่อยู่ด้านข้าง ได้ส่งสายตาจ้องเขม็งไปยังเหยียนเสวเหวินในทันที
เหยียนเสวเหวินตกใจจนต้องรีบอธิบายขึ้นทันที: “เหมิงเหมิง คุณอย่าไปฟังเขาพูดซี้ซั้ว ไม่มีเรื่องอย่างนี้แน่นอน! ”
จางเหมิงยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “วางใจได้ ฉันไม่ไปติดกับแผนการทำให้แตกแยกของเขาหรอก ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น”
จางซือจู่ยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “คุณไม่โง่? เหอะเหอะ คาดว่าบนโลกใบนี้คงจะไม่มีใครที่โง่ไปกว่าคุณอีกแล้ว”
“นึกถึงในตอนนั้น ที่คุณไปล่วงเกินคนอื่น แล้วหลินหยุนก็มาช่วยเหลือตระกูลพวกคุณ แต่คุณกลับคิดว่าเหยียนเสวเหวินช่วยเหลือคุณ ซึ่งเกือบที่จะมอบตัวมอบใจให้กับเหยียนเสวเหวินแล้ว”
“ตอนนี้ เห็นว่าตระกูลเหยียนมีปรมาจารย์บู๊ คุณก็มาใกล้ชิดสนิทสนมกับ เหยียนเสวเหวิน คุณก็คือหญิงเจ้าเล่ห์ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งไม่แตกต่างกันกับหวางหยู่หันสักเท่าไร”
จางเหมิงทั้งร้อนใจและโมโห อับอายจนหน้าตาแดงก่ำ: “จางซือจู่ นายกำลังพูดสุ่มสี่สุ่มห้า ฉันจะสั่งให้คนมาตบปากซะให้เข็ด! ”
จางซือจู่ยิ้มอย่างเหยียดหยาม และชี้ไปยังพวกเพื่อนนักเรียนเหล่านั้นที่มาพึ่งพิงเหยียนเสวเหวิน
“คุณ คุณ แล้วก็พวกคุณ! ”
“ยังจำกันได้ไหมว่าตอนนั้นคุกเข่านอบน้อมต่อหน้าหลินหยุนอย่างไร? ”
“ตอนนี้เห็นว่าตระกูลเหยียนมีนักบู๊ ก็คิดว่าสามารถที่จะพึ่งพาตระกูลเหยียนได้ แล้วก็มาดูถูกเหยียดหยามหลินหยุน? ”
“ในเมื่อหลินหยุนเคยทำให้พวกคุณหมอบคลานและตัวสั่นต่อหน้าของเขา ต่อไปก็ยังคงสามารถที่จะทำให้พวกคุณต้องคุกเข่าอ้อนวอนอีกครั้งได้เช่นกัน”
คำพูดของจางซือจู่ ทำให้ฉินโส่วและคนอื่น ๆ ระบายความอัดอั้นออกมาอย่างมาก
หยางเทียนโย่วยกนิ้วโป้งขึ้น: “ไอ้หมอ พูดได้ดีมาก! ”
เทพฟ้าผ่าตบไปที่ไหล่ของจางซือจู่: “ฉันนับถือนายจริง ๆ! ”
หลินหยุนกวาดสายตามองไปที่พวกเพื่อนนักเรียนทุกคน ในท่าทางที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก
ตอนนั้นที่สถานะปรมาจารย์หลินได้ถูกเปิดเผย หลินหยุนในสายตาของพวกเขานั้น ราวกับบุคคลที่ยิ่งใหญ่ดั่งเทพมังกรบนฟ้า
พวกเพื่อนนักเรียนเหล่านี้ ทำได้เพียงแค่เลื่อมใส ทุก ๆ คนทั้งตัวสั่น
แต่ว่า ความอิจฉาและความไม่พอใจในจิตใจของพวกเขา กลับถูกฝังลึกลงไปอย่างมาก
จนกระทั่งปรมาจารย์ตระกูลเหยียนปรากฏตัวขึ้น ทำให้ตำนานของหลินหยุนถูกทำลายลง สถานะตกร่วงลงมา
นั่นเป็นเพราะว่า พวกเขาเหล่านี้ ได้เคยแสดงรอยยิ้มที่อ่อนน้อมถ่อมตนอย่างที่สุด ต่อหน้าของหลินหยุน
ดังนั้น ตอนนี้จึงพยายามที่จะเอาคืนให้อย่างมากที่สุด
เห็นว่าคนของฝั่งตนเอง ได้ถูกอิทธิพลของจางซือจู่ทับถมลงไป ใบหน้าของเหยียนเสวเหวินจึงเกิดความหม่นหมองขึ้น
หลี่หงถูที่กำลังโอบอยู่กับเถียนชุ่ยชุ่ย ยิ้มเยาะ และพูดว่า: “มีคำหนึ่งที่ว่าวีรบุรุษจะไม่เอ่ยถึงเรื่องความเก่งกาจกล้าหาญในอดีต ต่อให้ปรมาจารย์หลินจะโด่งดังมากขนาดไหน นั่นก็คือเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต”
“ตอนนี้ ยุคสมัยใหม่ได้ใกล้ที่จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกคนต่างก็สามารถเป็นนักบู๊ได้ และทุกคนต่างก็สามารถเป็นปรมาจารย์ได้ทั้งนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...