ตีนเขาภูเขาฟูจิอันมีชื่อเสียง ที่ญี่ปุ่น
ข้างแม่น้ำเล็กๆ สายหนึ่ง มีบ้านที่สร้างจากไม้ไผ่ธรรมดาอยู่หลังหนึ่ง
บริเวณรอบๆ ล้อมด้วยรั้ว ทำให้เป็นลานขนาดเล็ก
กลางลานมีเก้าอี้ไม้ไผ่วางอยู่ตัวหนึ่ง และโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมจตุรัสตัวหนึ่ง
บนโต๊ะไม้มีกาน้ำชาดินเหนียวกับแก้วเล็กๆ สี่ใบ
เงียบ สงบ เยือกเย็นและห่างเหิน
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าเช่นนี้ มีเฉพาะปราชญ์ที่สันโดษจริงๆ ถึงจะอาศัยอยู่ในที่แบบนี้
แต่ว่าในลานที่เงียบเช่นนี้ กลับโดนวัยรุ่นในชุดสูทสีดำกลุ่มหนึ่ง ทำลายจนหมดสิ้น
โทโยะจะวะ ยามาโนะพาลูกน้องมายืนอยู่นอกลานอย่างเงียบๆ เขาก้มหน้าเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึม
เขายืนอยู่ตรงนี้ มาครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกอย่าง ลานไม่มีประตู
แต่ว่าเจ้าของบ้านไม้ไผ่ยังไม่พูดอะไร เขาจึงไม่กล้าก้าวเข้าไปในลานแม้แต่ก้าวเดียว
“มุรามาสะซัง บริษัท ยามาโนะ กรุ๊ป โทโยะจะวะ ยามาโนะ มาเยี่ยมเยียน หวังว่าคุณจะออกมาเจอ!”
โทโยะจะวะ ยามาโนะ พูดประโยคนี้ซ้ำๆ ทุกสิบนาที
รวมครั้งนี้ เขาพูดไปสามครั้งแล้ว
ในที่สุด มีชายวัยกลางคนเดินออกมาจากบ้านไม้ไผ่
เขาสวมชุดซามูไรสีขาว ผมยาวเริ่มกลายเป็นสีดอกเลา เขายืนมองโทโยะจะวะ ยามาโนะอยู่หน้าประตู
“เข้ามาสิ!” เขาพูดอย่างราบเรียบ และเดินมาที่เก้าอี้ไผ่กลางลาน ด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ
“ขอบคุณครับ!” โทโยะจะวะ ยามาโนะโค้งตัวลง และสั่งให้ลูกน้องยืนรอข้างนอก ส่วนตัวเองเดินเข้าไปในลาน
อิจิโร่ มุรามาสะนั่งบนเก้าอี้ และรินน้ำให้ตัวเอง
โทโยะจะวะ ยามาโนะ ยืนข้างๆ อย่างนอบน้อม สีหน้าของเขาเคร่งขรึม
“นั่งสิ!” อิจิโร่ มุรามาสะดื่มชา และพูดอย่างราบเรียบ
“ขอบคุณครับ!” โทโยะจะวะ ยามาโนะจึงกล้านั่งลง แต่ก็ยังนั่งตัวตรงเรียบร้อย
“มาหาฉันมีเรื่องอะไร” อิจิโร่ มุรามาสะเอ่ยถาม
โทโยะจะวะ ยามาโนะสีหน้าเคร่งขรึม ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร “ก่อนผมจะตอบคำถามคุณ ผมมีเรื่องอยากถามคุณ”
อิจิโร่ มุรามาสะมองเขา และดื่มชารวดเดียวจนหมด “พูดมา!”
“ครับ!” โทโยะจะวะ ยามาโนะรินชาให้อิจิโร่ มุรามาสะจนเต็มแก้วอีกครั้ง
จากนั้นจึงพูดว่า “ไม่ทราบว่าคุณ รู้เรื่องโลกบู๊ของชาวจีนมากน้อยแค่ไหน”
แววตาของอิจิโร่ มุรามาสะ เหมือนกำลังนึกย้อนไป “ครั้งสุดท้ายที่ฉันไปจีน คือเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันอยากไปสู้กับเทพกระบี่เยนหนานเทียน แต่น่าเสียดาย ตอนฉันไป เขาทำตัวสันโดษไปแล้ว”
“ผ่านมาหลายปี ก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของเยนหนานเทียน ไม่รู้เขายังสบายดีหรือเปล่า”
สีหน้าของโทโยะจะวะ ยามาโนะ ไร้ความรู้สึก “ก่อนหน้านี้ไม่นาน เยนหนานเทียนออกมาดวลตัดสินกับคน แต่โชคร้ายที่เขาสู้จนตาย!”
“ได้ยินว่าช่วงสุดท้าย ความสามารถของเยนหนานเทียน ทะลุไปเป็นตำนานบู๊”
อิจิโร่ มุรามาสะหรี่ตาลง “หลังทะลุขีดจำกัด เยนหนานเทียนยังแพ้เหรอ”
โทโยะจะวะ ยามาโนะพยักหน้า “ใช่ครับ”
อิจิโร่ มุรามาสะถามว่า “ใครฆ่าเขา”
โทโยะจะวะ ยามาโนะตอบว่า “ปรมาจารย์หลิน!”
อิจิโร่ มุรามาสะพูดอย่างหดหู่ “ชาวจีนมีประวัติศาสตร์ยาวนาน คนมีความสามารถแท้จริงเกิดขึ้นเรื่อยๆ!”
“ตอนนั้นฉันถามตัวเอง ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเยนหนานเทียนได้ คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขาทะลุขีดจำกัด กลับโดนคนฆ่าตาย”
โทโยะจะวะ ยามาโนะถามว่า “งั้นถ้าคุณสู้กับเยนหนานเทียนที่ทะลุขีดจำกัดแล้ว ใครจะเป็นฝ่ายชนะเหรอครับ”
อิจิโร่ มุรามาสะรีบช้อนตาขึ้นมองโทโยะจะวะ ยามาโนะ ใบหน้าดูมีความมั่นใจมาก “ถึงเยนหนานเทียนทะลุขีดจำกัดแล้ว เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”
โทโยะจะวะ ยามาโนะรีบลุกขึ้น และโค้งคำนับอิจิโร่ มุรามาสะ “มุรามาสะซัง พ่อส่งผมมาบอกคุณ”
“ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังจะเกิดภัย หวังว่าคุณจะออกไปพลิกสถานการณ์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...