สำนักงานใหญ่บริษัท ยามาโนะ กรุ๊ปที่ญี่ปุ่น
สำนักงานใหญ่บริษัท ยามาโนะ กรุ๊ป ตั้งอยู่ที่ภูเขาชิงผู่
ขอบเขตบริเวณรอบๆ ภูเขาชิงผู่กว่าร้อยลี้ เป็นอาณาจักรของบริษัท ยามาโนะ กรุ๊ปทั้งหมด
บริษัท ยามาโนะ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจมากว่าร้อยปี เรียกได้ว่าเป็นราชาของที่นี่
เรียกได้ว่าสำนักงานใหญ่บริษัท ยามาโนะ กรุ๊ป เป็นฐานทัพทางการทหารแห่งหนึ่ง แถมยังเป็นที่ฝึกฝนฆาตกรอีกด้วย
แต่เมื่อคนนอกมาที่นี่ จะดูไม่ออกเลยสักนิด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ เหมือนคฤหาสน์ปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
มีชายแก่คนหนึ่งนั่งดื่มชาเงียบๆ อยู่บนเบาะนั่งพื้น ภายในห้อง
สีหน้าของเขาสงบ บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นอันน่ากลัว อยู่หนึ่งแผล อีกทั้งขาข้างหนึ่งของเขา เป็นขาเทียม
โทโยะจะวะ ยามาโนะ ยืนอยู่ข้างหลังเขา อย่างนอบน้อม ราวกับกำลังรับฟังคำสอนอย่างไรอย่างนั้น
“ขาข้างนี้ รวมถึงแผลเป็นบนหน้า เกิดขึ้นในตอนนั้นที่จีน”
“เขาเป็นนักบู๊ที่มีความสามารถแข็งแกร่ง แม้สุดท้ายเขาจะตายด้วยเงื้อมมือของสองนินจาพิเศษ แต่ก็ยังทำให้ฉันพิการได้”
พูดจบ เขาดื่มชา และไม่พูดอะไรอีก
โทโยะจะวะ ยามาโนะ ทำเพียงยืนอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ ด้วยท่าทีนอบน้อม
“เขาถึงไหนแล้ว” ชายชราถามขึ้น
โทโยะจะวะ ยามาโนะ “ขึ้นฝั่งแล้วครับพ่อ น่าจะใกล้หาเราเจอแล้ว”
ชายชราคนนี้คือมาซาเตะ ยามาโนะ เป็นพ่อของโทโยะจะวะ ยามาโนะ
ถึงมาซาเตะ ยามาโนะดูชรามาก แต่อายุแท้จริงของเขายังไม่มาก
เขากับอิจิโร่ มุรามาสะ กลับตรงกันข้าม อิจิโร่ มุรามาสะดูเหมือนอายุสี่สิบต้นๆ แต่อายุแท้จริงเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว
มาซาเตะ ยามาโนะ วางแก้วชาลง แล้วถามว่า “เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม”
โทโยะจะวะ ยามาโนะพูดว่า “เตรียมพร้อมแล้วครับ”
“พูดมาสิว่าเตรียมอะไรไว้บ้าง”
“เตรียมไว้ทั้งหมดสามด่านครับ ด่านแรกคือนินจาระดับกลางพร้อมอาวุธหนักครบมือจำนวนร้อยคน และนินจาระดับสูงสามสิบคน”
“ด่านที่สองคือนินจาพิเศษห้าคน”
“ด่านที่สามคือวาตานาเบะเซนเซ ลงมือด้วยตัวเองครับ”
มาซาเตะ ยามาโนะพูดว่า “วาตานาเบะเซนเซ เป็นเทพคุ้มครองของบริษัท ยามาโนะ กรุ๊ป ฝีมือเขาอยู่ในนินจาระดับดิน ให้เทียบกับอิจิโร่ มุรามาสะ ก็ฝีมือต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น”
โทโยะจะวะ ยามาโนะพูดว่า “ถ้าสองด่านแรกไม่สามารถสกัดได้ คงทำได้เพียงเชิญวาตานาเบะเซนเซให้ลงมือเอง”
มาซาเตะ ยามาโนะถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ถ้าขนาดวาตานาเบะเซนเซยังแพ้ล่ะ”
โทโยะจะวะ ยามาโนะอึ้งไป เขาไม่เคยคิดว่าวาตานาเบะเซนเซจะแพ้
ในความทรงจำของโทโยะจะวะ ยามาโนะ ความสามารถของวาตานาเบะเซนเซ ยังแข็งแกร่งกว่าเทพกระบี่ เทพสงครามที่ชาวจีนเรียกกัน
ถึงหลินหยุนจะฆ่าเยนหนานเทียนได้ ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวาตานาเบะเซนเซ
แต่พ่อเขาถามได้ถูกต้อง ถ้าวาตานาเบะเซนเซแพ้ล่ะ
งั้นบริษัท ยามาโนะ กรุ๊ปทั้งบริษัท ก็ไม่มีใครขวางหลินหยุนได้แล้ว
“ถ้าขนาดวาตานาเบะเซนเซยังขวางเขาไม่ได้ งั้นคงต้องใช้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนั้น เพื่อข่มขู่เขา” โทโยะจะวะ ยามาโนะ เลวทรามมาก ตั้งแต่ลักพาตัวฉินหลัน เขาก็คิดจะใช้ฉินหลันมาขู่หลินหยุน
แต่ดูเหมือนว่ามาซาเตะ ยามาโนะยังไม่พอใจ เขาถามด้วยสีหน้าราบเรียบ “ถ้าขู่เขาไม่ได้ล่ะ จะให้ชะตาของตระกูลยามาโน ขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนเดียวไม่ได้!”
โทโยะจะวะ ยามาโนะขมวดคิ้ว และใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
“ถ้าขู่เขาไม่ได้ งั้นเราคงต้องถอยเข้าไปในฐานภูเขาชิงผู่ นั่นเป็นแผนป้องกันสุดท้ายของเรา” โทโยะจะวะ ยามาโนะเอ่ยขึ้น
มาซาเตะ ยามาโนะพูดว่า “ถ้าวาตานาเบะเซนเซแพ้ งั้นเราพาผู้หญิงคนนั้น ถอยเข้าไปในฐาน!”
“จะให้เขาบีบเข้ามาไม่ได้”
“ครับ!” โทโยะจะวะ ยามาโนะตอบรับ และโค้งตัว
“แต่ผมว่าพ่ออย่ามองในแง่ร้ายเกินไป ถึงไอ้หมอนั่นจะแข็งแกร่ง แต่นี่คือญี่ปุ่น เขามาตัวคนเดียว ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...