หลังจากสอบถามหวางซูเฟินและหลินซื่อเฉิงแล้ว หลินหยุนก็มาดูอาการของซูจื่อเหลียงในห้อง
ตอนนี้ซูจื่อเหลียงก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว ซูหนานและคาร์นอตวิลเลียมกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นหลินหยุน ซูหนานก็ลุกขึ้นยืน ก้มหน้าลง
คาร์นอตวิลเลียมก็ยักคิ้วให้ แล้วดื่มน้ำชาต่อไป
ซูจื่อเหลียงก็รีบลุกขึ้นยืน แต่มีพลังที่อ่อนโยนแรงหนึ่ง กดห้ามเขาให้นอนลงกับเตียง
“นอนคุยก็ได้นะ!” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ
หลังจากนั้น สายตาหลินหยุนก็มองไปยังซูหนานและคาร์นอตวิลเลียม: “คราวนี้ โชคดีที่มีพวกคุณอยู่!”
ซูหนานพูดด้วยเสียงเข้มว่า: “ทะเลสาบเย่วหยาก็เป็นบ้านของพวกเราเหมือนกัน”
คาร์นอตวิลเลียมกลับหัวเราะแฮะๆ: “คราวนี้ฉันช่วยคุณขนาดนี้แล้ว คุณมีอะไรจะตอบแทนฉันหรือเปล่าล่ะ?”
“เดี๋ยวค่อยคุยกัน ฉันขอดูอาการบาดเจ็บของซูจื่อเหลียงก่อน” หลินหยุนก็เดินไปยังซูจื่อเหลียง
ซูจื่อเหลียงมองไปยังหลินหยุน “ท่านอาจารย์ ศิษย์ไร้ความสามารถ!”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ ว่า “ไม่ต้องโทษตัวเอง คุณได้ทำเต็มที่แล้ว”
หลินหยุนใช้มือข้างหนึ่งวางบนศีรษะของซูจื่อเหลียง จากนั้นก็ค่อยๆเคลื่อนไป เพื่อตรวจดูอาการทั่วไปของร่างกายซูจื่อเหลียง
“อาการบาดเจ็บของคุณไม่น่าเป็นห่วง ฤทธิ์ยาของยาสร้างกระดูกคุณก็ได้ดูดซับไปครึ่งหนึ่งแล้ว ถ้าได้ดูดซับไปจนหมด คุณก็จะเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ทำให้พลังการฝึกฝนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ!”
“เวลาต่อจากนี้ คุณก็อยู่ที่นี่ดูดซับเอาฤทธิ์ยาของยาสร้างกระดูกให้หมดก่อนแล้วค่อยจากไป”
ซูจื่อเหลียงพยักหน้าอย่างนอบน้อม “ศิษย์รับทราบครับ!”
หลินหยุนหันไปมองซูหนาน “วิชาพินาศไม่สิ้นสูญของคุณก็ได้เข้าถึงเรียบร้อยแล้ว แค่ฝึกต่อไปเรื่อยๆก็ใช้ได้แล้ว อีกไม่นานคุณก็จะไปถึงระดับเดียวกับนักบู๊แดนเทพแล้ว”
“ครับ!” ซูหนานพูดพลางก้มหน้าลง
สายตาของหลินหยุนก็มองไปยังคาร์นอตวิลเลียม เจ้าหมอนี่สีหน้าเย่อหยิ่ง ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ มองดูหลินหยุน
ดูเหมือนกำลังรอคอยประโยชน์อะไรบางอย่างอยู่
“พลังแรงของเผ่าโลหิต ได้รับการสืบทอดทางสายเลือด ดังนั้น ระดับชนชั้นของเผ่าโลหิตจะถูกกำหนดจากระดับความแข็งแรงของสายเลือดของเผ่าโลหิตเอง”
คาร์นอตวิลเลียมค้อนใส่ “อันนี้ฉันก็รู้แล้ว ยังต้องให้คุณมาพูดอีกเหรอ?”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย “ถ้าฉันมีวิธีฝึกฝนสำหรับคนเผ่าโลหิตล่ะ? สามารถหลุดพ้นจากข้อผูกมัดจากสายเลือดของชนเผ่าโลหิต แล้วผ่านการฝึกฝนบำเพ็ญตนจนทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
คาร์นอตวิลเลียมกระโดดขึ้นมาทันที ราวกับแมวที่ถูกเหยียบหาง
“คุณพูดจริงหรือเปล่า? คุณอย่าโกหกฉันนะ!”
พละกำลังของเผ่าโลหิตได้มาจากสายเลือดโดยกำเนิด เมื่อเทียบกับผู้บำเพ็ญพิเศษจากโลกตะวันตก หรือนักบู๊โลกตะวันออกแล้ว ก็จะได้เปรียบกว่ากันมากเลย
แต่ว่า ถ้าเผ่าโลหิตคิดอยากจะเพิ่มพูนพละกำลังของตัวเอง ก็ต้องอาศัยการหยั่งรู้ทางสายเลือดเป็นเวลาที่ยาวนาน ดังนั้นชนเผ่าโลหิตโดยทั่วไปที่มีพละกำลังแข็งแกร่ง ก็ล้วนเป็นตัวประหลาดที่มีอายุยืนยาวมาก
ประเด็นนี้ เผ่าโลหิตก็จะสู้นักบู๊โลกตะวันออกไม่ได้ เพราะนักบู๊สามารถอาศัยวรยุทธ์ในการฝึกฝนบำเพ็ญตน ถ้ายิ่งมีพรสวรรค์ติดตัวมาด้วยล่ะก็ ในระยะเวลาอันสั้นก็จะสามารถมีพละกำลังมากพอที่จะเอาชนะผู้แข็งแกร่งจากเผ่าโลหิตได้แล้ว
แต่ว่า ถ้าเผ่าโลหิตสามารถฝึกฝนบำเพ็ญตนด้วยล่ะก็ ความสำเร็จในอนาคตข้างหน้า ควรที่จะฝืนลิขิตฟ้าได้ขนาดไหน!
เพียงแค่คิดฝัน คาร์นอตวิลเลียมก็แทบจะบังคับความตื่นเต้นในใจไม่ไหวแล้ว
“ถ้าฉันก็สามารถฝึกฝนบำเพ็ญเพียรด้วยล่ะก็ ฉันก็จะรีบกลับไปที่บ้านตระกูล ไปซัดตาแก่แดรกคูล่านั่นให้ฟันร่วงหมดปากไปเลย!”
หลินหยุนขี้เกียจไปพูดมากกับเขา ใช้นิ้วชี้ไปยังหว่างคิ้วของคาร์นอตวิลเลียม
วิชาบู๊ลึกลับซับซ้อนที่เข้าใจยากตอนหนึ่ง ก็ได้ประทับอยู่ในสมองของคาร์นอตวิลเลียม
มองดูคาร์นอตวิลเลียมที่งงเป็นไก่ตาแตก หลินหยุนก็พูดอย่างเรียบๆว่า: “จะฝึกฝนได้สำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่บุญวาสนาของคุณแล้วนะ”
คาร์นอตวิลเลียมดูเหมือนกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาบู๊ที่ลึกลับซับซ้อนเข้าใจยากนั้น ไม่ได้สนใจหลินหยุนเลย
หลินหยุนก็ไม่ไปรบกวน นั่งมองเขาอย่างเงียบๆบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง
ก็เห็นสีหน้าของคาร์นอตวิลเลียมกระปรี้กระเปร่ามาก ใบหน้าที่หล่อเหลาจนไม่เหมือนหน้าคนนั้น ประเดี๋ยวก็ขมวดคิ้ว ประเดี๋ยวก็เกาหูเกาคาง
ผ่านไประยะหนึ่ง เขาจึงถอนหายใจเฮือก ตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...