สำหรับคำพูดคุยของคนในสำนักเฟยอวิ๋น หลินหยุนได้ยินอย่างชัดเจน
แต่หลินหยุนไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้
เมื่อสักครู่เขารับปากว่าจะเข้าร่วมทีมกับหานหลิงเอ๋อ เขาแค่อยากจะช่วยผู้หญิงที่ไร้เดียงสาคนนี้เท่านั้นเอง
เรื่องที่ทำให้หลินหยุนคิดไม่ถึงจริงๆก็คือ ผู้หญิงคนนี้คือคุณหนูใหญ่ของสำนักเฟยอวิ๋น
ตอนนี้เมื่อคนของสำนักเฟยอวิ๋นมาถึงแล้ว หลินหยุนก็ไม่อยากร่วมทีมกับเธออีก
"หลินหยุน คุณรีบขอบคุณศิษย์พี่ของฉันสิ!"หานหลิงเอ๋อมองเฉินซีเยว่ที่เป็นสาวสวยเย็นชาด้วยความซาบซึ้ง และเธอก็พูดกับหลินหยุนทันที
"ไม่จำเป็นแล้ว"หลินหยุนพูดเบาๆ และเขาก็มองไปที่พื้นที่ราบตลอด
"อ๊าว……"หานหลิงเอ๋อรู้สึกตกใจเล็กน้อยและไม่เข้าใจ
"ทำไมล่ะ? กว่าฉันจะเกลี้ยกล่อมให้ศิษย์พี่ของฉันยอมให้คุณเข้าทีมสำนักเฟยอวิ๋นของพวกเราได้ ทำไมตอนนี้คุณถึงพูดปฏิเสธละ?"
หานหลิงเอ๋อรู้สึกว่าความตั้งใจของตัวเอง มันกลายเป็นอากาศธาตุสำหรับหลินหยุน ทำให้เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
เฉินซีเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองหลินหยุนด้วยสายตาเย็นชาและพูดดูถูก:"หนุ่มน้อย คุณรู้ไหมว่ามีคนจำนวนมากเท่าไหร่ที่อยากจะประจบสำนักเฟยอวิ๋นของพวกเรา แต่พวกเขาไม่มีโอกาสได้ประจบ!"
"หลิงเอ๋อใจดีให้คุณเข้าร่วมทีมของพวกเรา เพื่อปกป้องตัวคุณ แต่คุณกลับพูดปฏิเสธ
!"
"ไม่เห็นความตั้งใจของคนอื่น และยังแว้งกัดคนอื่นอีก!"
จางเทียนเยว่หัวเราะอย่างเย็นชา เขาหวังมากๆว่าหลินหยุนจะอยู่ห่างจากหานหลิงเอ๋อ:"ศิษย์น้องหลิงเอ๋อ คนประเภทนี้ ถ้าเข้ามาร่วมทีมกับพวกเราก็จะกลายเป็นภาระเปล่าๆ ในเมื่อเขาไม่อยากร่วมทีมกับพวกเรา เธอก็ทิ้งภาระอย่างเขาไปได้เลย อย่างน้อย เธอก็มีน้ำใจกับเขามากแล้ว!"
หานหลิงเอ๋อรู้สึกว่าหลินหยุนเป็นคนโง่ที่ไม่รู้จักกาลเทศะ เธออดไม่ไหวก็เลยพูด:"หลินหยุน ถ้าไม่มีสำนักเฟยอวิ๋นของพวกเรา มีคุณเพียงคนเดียว อยู่ที่นี่คุณจะทำอะไรก็ลำบากแน่นอน!"
"ถ้าคุณเสียชีวิต มาเสียใจภายหลังก็ไม่มีประโยชน์!"
หลินหยุนมองหน้าเธอและพูดเบาๆ:"ชั่วชีวิตของฉัน ไม่เคยต้องพึ่งใคร และไม่มีใครสามารถทำอะไรฉันได้!"
หานหลิงเอ๋อรู้สึกโกรธและพูด:"ทำไมคุณถึงชอบอวดดีอย่างนี้? ถึงแม้คุณจะเป็นนักบู๊ขั้นปรมาจารย์ อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย"
"คุณลองดูสิ ตรงนี้มีปรมาจารย์บู๊อย่างน้อยยี่สิบกว่าคน ส่วนใหญ่ก็อยู่ปรมาจารย์ระดับใหญ่และปรมาจารย์ระดับสูงสุด"
"คุณมีแค่คนเดียว จะทำอะไรได้?"
หลินหยุนยืนสองมือไขว้หลังและมองหานหลิงเอ๋อ เขาพูดเบาๆ"นักบู๊ขั้นปรมาจารย์ในสายตาของฉัน ไม่ต่างอะไรกับมดตัวเล็กๆ"
"คุณไม่ต้องพูดอีกแล้ว เรื่องของฉัน คุณไม่ควรมายุ่ง"
เพราะหลินหยุนมองออกว่าหานหลิงเอ๋อเป็นห่วงตัวเองจริงๆ เขาก็เลยยอมพูดกับเธอ มิฉะนั้นด้วยนิสัยของหลินหยุน เขาไม่อยากสนใจเธออยู่แล้ว
เฉินซีเยว่พูดอย่างเย็นชา:"ศิษย์น้องหลิงเอ๋อ พวกเราไปกันเถอะ! คนประเภทนี้ พวกเราไม่สมควรช่วย!"
จางเทียนเยว่ก็พูดอย่างเย็นชา:"ใช่แล้ว คนที่ไม่กลัวตายอย่างเขา จะไปสนใจเขาอีกทำไม!"
เว่ยซิวหมิงที่เป็นผู้อาวุโสรองของสำนักเฟยอวิ๋นที่อยู่ข้างๆก็มองหลินหยุนด้วยความดูถูกและพูดอย่างเย็นชา:"คนอย่างคุณ ยังกล้าพูดจาโอหังอย่างนี้อีกเหรอ!"
"ปรมาจารย์เหมือนมดตัวเล็กๆ แม้แต่ฉันก็ไม่กล้าพูดอย่างนี้!"
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสรองไม่พอใจกับคำพูดของหลินหยุน หานหลิงเอ๋อรู้สึกโกรธและจ้องมองหลินหยุน:"ในเมื่อคุณชอบอวดดีแบบนี้ งั้นก็แล้วแต่คุณเลย!"
เมื่อพูดจบ หานหลิงเอ๋อก็เดินตามหลังเฉินซีเยว่กับจางเทียนเยว่ เดินไปอยู่ข้างๆเว่ยซิวหมิง และเธอก็ไม่สนใจหลินหยุนอีก
ชิ่งกั๋วถัยของสำนักอัคคีก็มองมาที่หลินหยุนด้วยสายตาดูถูก:"อวดดีมากเกินไปแล้ว! ปรมาจารย์เป็นแค่มดตัวเล็กๆ กล้าพูดออกมาได้ไง!"
ในเวลานี้ พื้นที่ราบที่อยู่ตรงหน้า เปลวเพลิงได้พุ่งขึ้นสูงถึงสามฟุตแล้ว
ในฝูงชน ชายชราคนนั้นตะโกนออกมาทันที:"เพลิงไฟใต้ดินได้พุ่งขึ้นสูงสุดแล้ว ยาวิเศษได้เติบโตอย่างสมบูรณ์แล้ว เดียวปรากฏการณ์ธรรมชาติก็จะหายไป ทุกคนเตรียมตัวแย่งชิงยาวิเศษได้เลย!"
ถึงแม้ชายชราจะอยู่ขั้นแดนพรสวรรค์ แต่คำพูดของเขาถูกทั้งหมด ทำให้นักบู๊จำนวนมากที่อยู่ตรงนี้เชื่อใจเขา
ตอนนี้เมื่อเขาพูดว่ายาวิเศษเติบโตสมบูรณ์แล้ว ปรากฏการณ์ธรรมชาติกำลังจะหายไป ทำให้นักบู๊ทุกคนเตรียมตัวที่จะแย่งชิงยาวิเศษทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...