จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 850

ทั้งสองพูดว่าลงมือพร้อมกัน ไม่ได้แปลว่าพวกเขาสองคนจะลงมือต่อสู้กับงูยักษ์

แต่ให้ทุกคนลงมือพร้อมกันต่างหาก

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ให้นักบู๊ทุกคนที่อยู่ที่นี่ไปตายแทนพวกเขา

ชิ่งกั๋วถัยมองไปที่ลูกศิษย์ของสำนักอัคคี พูดอย่างเคร่งขรึม:"ลูกศิษย์ทุกคนของสำนักอัคคีฟังคำสั่งของฉัน ทุกคนรวมพลังโจมตีงูยักษ์พร้อมกัน!"

"ถ้าใครกล้าหนีหรือถอยหลัง โทษตายสถานเดียว!"

ลูกศิษย์ของสำนักอัคคีรีบออกคำสั่งให้นักบู๊ที่เขาร่วมทีมของพวกเขาทันที พูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่:"เอาเลย โจมตีพร้อมกัน!"

"ฆ่างูยักษ์ตัวนั้น พวกเราก็จะได้ยาวิเศษ!"

นักบู๊เหล่านั้นก็ไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าคนของสำนักอัคคีส่งพวกเขาไปตายแทน ถึงแม้พวกเขาจะฆ่างูยักษ์ได้ แต่ยาวิเศษมีเพียงต้นเดียว และเป็นไปไม่ได้ที่จะให้พวกเขา

"ฉันไม่ต้องการยาวิเศษ ฉันขอตัวก่อน!"มีนักบู๊คนหนึ่งตะโกนออกมา แล้วหนีทันที

ชิ่งกั๋วถัยส่งสัญญาณให้ลูกศิษย์คนหนึ่งของสำนักอัคคี ลูกศิษย์คนนั้นเข้าใจและพยักหน้าทันที ลูกศิษย์คนนั้นใช้ดาบแทงทะลุร่างของนักบู๊คนนั้นที่คิดจะหนีทันที

"อ๊าก!"

นักบู๊คนอื่นๆตกใจมากๆจนกรีดออกมา

ลูกศิษย์คนนั้นถือดาบที่มีเลือดติดอยู่ และตะโกนด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม:"ยังมีใครคิดจะหนีอีกไหม!"

นักบู๊ทั้งหลายไม่มีใครกล้าพูดอีก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปโจมตีงูยักษ์

ผ่านไปสักพัก มีนักบู๊วัยกลางคนคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา:"สำนักอัคคีทำแบบนี้คือส่งพวกเราไปตายชัดๆ"

"ขอโทษด้วย กูไม่เอาด้วยแล้ว!"

ลูกศิษย์คนนั้นของสำนักอัคคีขมวดคิ้วทันที นักบู๊วัยกลางคนคนนี้ เป็นนักบู๊ขั้นปรมาจารย์ และเขาสู้นักบู๊วัยกลางคนไม่ไหว

เมื่อนักบู๊วัยกลางคนเดินออกมาได้เพียงหนึ่งก้าว จู่ๆชิ่งกั๋วถัยก็ขยับทันที

เห็นเพียงเงาดำแว็บผ่านไป ชิ่งกั๋วถัยก็กลับมาที่เดิมแล้ว

ศีรษะของนักบู๊วัยกลางคนคนนั้น พุ่งขึ้นท้องฟ้าทันที และมีเลือดพุ่งออกมาด้วย

"เขา……เขาคือนักบู๊ขั้นปรมาจารย์!"

"แต่โดนผู้อาวุโสของสำนักอัคคี ฆ่าเขาตายด้วยกระบวนท่าเดียว!"

"คือ……"

นักบู๊ทั้งหมดเกิดความหวาดกลัวทันที!

นักบู๊ขั้นปรมาจารย์รับการโจมตีของชิ่งกั๋วถัยแค่กระบวนท่าเดียวก็ไม่ไหว

แล้วนักบู๊อย่างพวกเขาละ?

ถึงแม้ทุกคนในนี้ร่วมมือกัน ก็คงจะสู้ชิ่งกั๋วถัยคนเดียวไม่ไหว

เดิมทีนึกว่ามีคนเยอะ และสามารถหนีออกไปพร้อมกันได้ ตอนนี้พวกเขาไม่มีใครกล้าขยับเลย

"ยังมีใครอยากจากไปอีกไหม?"ชิ่งกั๋วถัยตะโกนด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม

นักบู๊ที่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ถ้าตอนนี้ใครกล้าพูด ก็คงโดนชิ่งกั๋วถัยฆ่าตายอย่างแน่นอน

"ในเมื่อไม่มีใครอยากจากไป งั้นพวกเราทุกคนก็ไปฆ่างูยักษ์พร้อมกัน จากนั้นค่อยไปแย่งยาวิเศษ!"

ชิ่งกั๋วถัยพูดช้าลง ใช้ยาวิเศษมาเป็นแรงกระตุ้นให้นักบู๊ทุกคนยอมต่อสู้

นักบู๊เหล่านี้รู้สึกลำบากใจมากๆ ถ้าพวกเขาคิดหนี คงโดนชิ่งกั๋วถัยฆ่าตายอย่างแน่นอน

ถ้าไม่หนี และยอมต่อสู้กับงูยักษ์ อาจจะรอดตายก็ได้

"มันก็เป็นแค่สัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้น? พวกเราคนเยอะกว่า สู้ตายกันมันเลย!"

"ใช่ พวกเราสู้ตายกับไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้เลย!"

ทุกคนทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง อันที่จริงพวกเขากลัวมากๆ

หานหลิงเอ๋อรู้สึกสงสารนักบู๊เหล่านี้:"คนพวกนี้น่าสงสารมากๆ ถ้ารู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ ทำไมพวกเขายังต้องมาหายาวิเศษด้วย?"

เฉินซีเยว่หัวเราะอย่างเย็นชา มองนักบู๊เหล่านั้นด้วยสีหน้าดูถูกและพูดอย่างยโสว่า:"คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร คนพวกนี้มาที่นี่ เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะโชคดี และอาจจะได้ยาวิเศษไปครอบครอง?"

"ดังนั้นพวกเขาตายอยู่ที่นี่ ก็ไม่น่าเห็นใจหรอก"

จางเทียนเยว่พูด:"ศิษย์น้องรองพูดถูกแล้ว คนเหล่านี้ ไม่คู่ควรให้เห็นใจหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาอยากได้ยาวิเศษ ก็คงไม่ถูกคนของสำนักอัคคีหลอกใช้"

"แต่ก็เป็นเรื่องดี คนเหล่านี้สามารถทำให้พลังของงูยักษ์ลดลง อาวุโสเว่ยก็จะมีโอกาสฆ่างูยักษ์ได้ และแย่งยาวิเศษมาครอบครอง!"

เว่ยซิวหมิงรอไม่ไหวแล้ว เขามองไปที่ชิ่งกั๋วถัยและพูด:"อย่าเสียเวลาอีกเลย ยาวิเศษเติบโตอย่างสมบูรณ์แล้ว ถ้ายังเสียเวลาอีก อาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดก็ได้"

หลินหยุนมองดูอย่างเย็นชา ลูกศิษย์ของสำนักอัคคีไม่ได้รู้สึกว่าหลินหยุนมีพลังชี่เลย พวกเขาก็เลยนึกว่าหลินหยุนเป็นคนธรรมดาและไม่สนใจเขาอีก

มิฉะนั้น ตอนนี้หลินหยุนก็คงโดนไล่ไปสู้กับงูยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าแล้ว

"งูยักษ์ตัวนี้ พลังของมันน่าจะเทียบเท่านักบู๊ขั้นแดนรวมยา ถ้าอาศัยคนพวกนี้ ฆ่างูยักษ์ไม่ตายอยู่แล้ว"

"ไม่เกินครึ่งชั่วโมง นักบู๊เหล่านี้คงต้องพ่ายแพ้ เมื่อถึงเวลานั้น สองคนนั้นก็คงจะทำอะไรไม่ได้อีก"

หลินหยุนไม่คิดจะลงมือช่วยอยู่แล้ว หญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงไม่เหมือนกับยาวิเศษตัวอื่นๆ มันสามารถเก็บรักษาได้นาน ถ้ามันไม่โดนทำลาย ผ่านไปครึ่งปีหรือหนึ่งปีก็ไม่มีผลต่อฤทธิ์ยาอยู่แล้ว

หานหลิงเอ๋อแอบมองหลินหยุนหนึ่งครั้ง เมื่อเห็นหลินหยุนยืนสองมือไขว้หลัง และมองดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ เธอก็ขมวดคิ้วทันที

"ทำไมเขาถึงไม่ใช้โอกาสนี้หนีไป เขาใจกล้ามากๆ!"

เฉินซีเยว่ก็มองไปที่หลินหยุน สายตาขอเธอมีแต่ดูถูกเหยียดหยาม

"ศิษย์น้อง ไอ้เศษสวะอย่างนั้น เธอไม่ต้องไปสนใจหรอก?"

จางเทียนเยว่ก็พูดว่า:"ใช่ ศิษย์น้องหลิงเอ๋อเหมือนหงส์ที่บินอยู่บนฟ้า ไอ้หนุ่มนั้นก็เหมือนคางคกที่อยู่ในท่อน้ำเน่า เขากับพวกเราไม่ใช่คนระดับเดียวกัน"

หานหลิงเอ๋อไม่ได้พูด ไม่ได้ปฏิเสธ เธอก็หันหน้ากลับมาและไม่มองหลินหยุนอีก

ในเวลานี้ เว่ยซิวหมิงก็โดนหางของงูยักษ์โจมตีจนกระเด็นออกมา เขารีบตะโกนบนอากาศทันที:"พวกเจ้าสามคน อย่าดูเฉยๆ มาช่วยกันสู้กับงูยักษ์หน่อย!"

"ไอ้เดรัจฉานตัวนี้ร้ายกาจมากๆ พวกเจ้าต้องระวังตัวด้วย!"

จางเทียนเยว่พูดด้วยสีหน้าหยิ่งยโส:"ฉันก็อยากรู้ว่าไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้จะร้ายกาจแค่ไหน!"

"ฉันก็จะไปด้วย!"หานหลิงเอ๋อหยิบกระบี่สีน้ำเงินออกมาและพุ่งออกไปทันที

เมื่อทั้งสามคนเข้าร่วมการโจมตี แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับการต่อสู้ครั้งนี้เลย ก็เหมือนหยดน้ำสามหยดที่ไหลลงสู่ทะเล และไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆเลย

ในที่สุด นักบู๊เหล่านั้นก็พ่ายแพ้ และเหลือศพไว้บนพื้นจำนวนมาก

สถานที่นี้กลายเป็นขุมนรกที่เต็มไปด้วยซากศพ

สีหน้าของเว่ยซิวหมิงเคร่งขรึมมากๆและมองไปที่ชิ่งกั๋วถัย เขาถามว่า:"ตอนนี้จะเอายังไงดี?"

สีหน้าของชิ่งกั๋วถัยก็ไม่ค่อยดีนักและพูดอย่างเคร่งขรึม:"คงต้องเรียกคนมาช่วยแล้ว"

ในเวลานี้ จู่ๆด้านหลังก็มีเสียงหัวเราะและดูถูกดังขึ้น:"พวกเศษสวะของโลกบู๊ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานตัวเดียวก็สู้ไม่ไหว พวกคุณไม่รู้สึกอายเหรอ!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์