จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 853

สรุปบท บทที่ 853 หมัดฟ้าคำราม: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 853 หมัดฟ้าคำราม – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 853 หมัดฟ้าคำราม ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

จางเทียนเยว่เห็นหานหลิงเอ๋อคำนึงถึงหลินหยุนขนาดนี้ ในใจจึงรู้สึกหึงหวงและริษยาขึ้นมาทันที

เมื่อก่อนหานหลิงเอ๋อไม่เคยอ่อนโยนต่อเขาเลย

ผู้ชายบางคนก็เป็นแบบนี้ ในเมื่อตัวเองไม่ได้ครอบครอง ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะได้ไป

แม้แต่ความเห็นอกเห็นใจจากหานหลิงเอ๋อเพียงเล็กน้อย จางเทียนเยว่ก็ยิ่งไม่เคยได้รับมัน จึงไม่อยากให้หลินหยุนได้รับมันเช่นกัน

“เหอะ ไอ้เด็กที่ไม่รู้จักประมาณตน ยังกล้าเลียนแบบคนอื่นทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม ไม่พิจารณาดูพละกำลังของตัวเอง!”

เฉินซีเยว่ก็มองหลินหยุนอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยพูดด้วยความดูถูก : “นี่ไม่ใช่หาเรื่องตายหรอกเหรอ!””

เว่ยซิวหมิงเหลือบมองหลินหยุน แล้วส่ายหน้า : “ไม่รู้จักคิด!”

ในบรรดานักบู๊คนอื่น ๆ ที่เหลือ มีนักบู๊หญิงจำนวนหนึ่งต่างเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหลินหยุน เพราะในที่นี้มีผู้ชายตั้งมากมาย แต่มีเพียงหลินหยุนที่กล้าเดินออกมา

แม้ว่าจะออกมาตาย แต่ความกล้าหาญของหลินหยุนก็ทำให้บรรดานักบู๊หญิงเหล่านั้นยกย่องนับถือ

“นี่สิถึงจะมีความเป็นลูกผู้ชายหน่อย! หวังว่าเขาจะไม่ตายนะ!”

บรรดานักบู๊หญิงเหล่านั้นต่างแอบสวดภาวนาให้หลินหยุนอยู่ในใจ

ตี๋ซานถิงมองหลินหยุนด้วยสีหน้าถมึงทึง : “ไอ้หนุ่ม แกคิดจะขัดขวางฉันเหรอ?”

หลินหยุนเอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ : “เปล่า”

“แล้วแกเดินออกมาทำไม?” ตี๋ซานถิงเอ่ยถาม

“ฆ่าแกไง!” หลินหยุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับว่ากำลังล้อเล่นอยู่อย่างนั้น

ตี๋ซานถิงอึ้งไปทันที จากนั้นได้แหงนหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม : “อย่างแกเนี่ยนะ คิดจะฆ่าฉัน!”

“น่าขำสิ้นดี!”

“ถึงแม้ฉันไม่รู้ว่าแกใช้วิธีอะไร ปกปิดวรยุทธของตัวเองเอาไว้ แต่ดูแกก็เพิ่งยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น การฝึกฝนวรยุทธในโลกบู๊ของพวกแก ต่อให้แกฝึกบู๊มาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ ตอนนี้สามารถอยู่ในขั้นสูงสุดได้ ถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว”

“แกจะใช้อะไรมาฆ่าฉัน? ใช้ปากเหรอ!”

ใบหน้าตี๋ซานถิงเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม เขาเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ในโลกบู๊โบราณ จะไปเชื่อได้ยังไงว่าเด็กหนุ่มจากโลกบู๊คนหนึ่งสามารถฆ่าเขาได้?

“ฮ่าฮ่า ไอ้หนุ่ม แกนี่มันไม่รู้จักคิดเลยจริง ๆ! ต้องการฆ่าผู้อาวุโสแห่งสำนักชิงชาง คุยโวโอ้อวดเสียจริง!”

“แม้แต่ผู้อาวุโสแห่งสำนักเฟยอวิ๋นและสำนักอัคคี ยังพ่ายแพ้ราบคาบในกระบวนท่าเดียว เขาคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสทั้งสองสำนักงั้นเหรอ?”

“ไอ้หนุ่ม ฉันว่าแกสมองมีปัญหาเยอะอยู่นะ หรือไม่ก็เป็นคนบ้าคนหนึ่ง”

หลินหยุนไม่ได้สนใจคำพูดถากถางของนักบู๊เหล่านี้ สถานการณ์อย่างนี้เขาเจอจนชินชาแล้ว

วิธีที่ทำให้คนพวกนี้หุบปากได้ดีที่สุด คือใช้การกระทำพิสูจน์ความจริง

“หลินหยุนเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความเร็วสูงราวกับหายตัวได้ แล้วกระแทกหมัดไปที่หน้าของตี๋ซานถิงทันที

ตี๋ซานถิงตกใจ : “รวดเร็วมาก!”

แต่ว่า เขายังคงไม่เห็นหลินหยุนอยู่ในสายตา

“เหอะ ไอ้หนุ่ม แกทำให้ข้าหมดสนุก ฉันจะฆ่าแกก่อน จากนั้นค่อยไปฆ่าคนในสำนักและตระกูลของแก”

ตี๋ซานถิงถูกยั่วโมโห จึงลงมือใส่พลังอย่างเต็มที่ พุ่งตรงไปที่หลินหยุน

ปึก!

สองคนแลกหมัดกัน ทำให้เกิดเรื่องที่ทุกคนต้องตกตะลึง

ตอนแรกคิดว่าหลินหยุนจะถูกตี๋ซานถิงฆ่าตายในหมัดเดียวแล้ว แต่เขากลับยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่เป็นอะไรเลย ส่วนตี๋ซานถิงเหมือนกระสอบที่ถูกหมัดกระแทกแตกจนลอยไปไกลสิบกว่าเมตร

สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบสงัด!

ทุกคนต่างตกตะลึงเป็นอย่างมาก!

“เป็นไปได้ยังไงกัน!”

“นี่......ทำไมถึงเป็นอย่างนี้!”

“ไม่จริงหรอก!”

“หรือว่าตี๋ซานถิงรู้จักกับไอ้หนุ่มคนนี้ เลยจงใจอ่อนข้อให้เขา?”

ชิ่งกั๋วถัยและเว่ยซิวหมิงมีสีหน้าช็อกมาก นักบู๊คนอื่นมองไม่ออก แต่ด้วยความสามารถของพวกเขา จึงสามารถมองออก ตี๋ซานถิงไม่เพียงไม่อ่อนข้อให้หลินหยุน ทว่ากลับปล่อยพลังทั้งหมดที่มีออกไป

แต่ฝ่ายหลินหยุน กลับยังดูมีพลังเหลืออยู่

นี่พิสูจน์ให้เห็นว่า

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือความสามารถของหลินหยุนเหนือชั้นกว่าตี๋ซานถิงไปไกลแล้ว!

เว่ยซิวหมิงรู้สึกตกใจกลัวมากทีเดียว : “ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใคร? เก้าสำนักใหญ่ สี่สำนักรอง เจ็ดสาขาในโลกบู๊ ไม่เคยได้ยินว่ามีหนุ่มผู้มีพรสวรรค์อย่างนี้มาก่อนเลย!”

แม้ว่านี่ไม่ใช่ทัณฑ์ฟ้าผ่า แต่ก็ทำให้งูหลามยักษ์คลุ้มคลั่งขึ้นได้เหมือนกัน จึงส่งเสียงคำรามข่มขู่

สายฟ้าเส้นหนึ่งที่มีความหนาเท่าแขนได้ฟาดลงมาจากท้องฟ้า ทะลุผ่านร่างของตี๋ซานถิง ตี๋ซานถิงตัวสั่นไปทั้งตัวอยู่ครู่หนึ่ง บนหัวมีควันสีเงินพวยพุ่งขึ้นมาเล็กน้อย

สุดท้าย สายฟ้าเส้นนั้น ได้มารวมอยู่บนแขนของเขา

หมัดข้างนั้นของเขา ถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้า มีเสียงฟ้าคำรามครืน ๆ ดังขึ้น ท่าทางเหมือนไม่มีใครสามารถต้านทานได้

ดูเหมือนชิ่งกั๋วถัยจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงร้องออกมาอย่างตกใจทันที : “นี่เป็นท่าไม้ตายของท่านเฒ่าทิงเหลย”

“มิน่าล่ะเจ้าตี๋ซานถิงถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของท่านเฒ่าทิงเหลย”

ท่านเฒ่าทิงเหลย เป็นผู้แข็งแกร่งแห่งยุคเมื่อสองร้อยปีก่อน มีชื่อเสียงอยู่ในแดนเทพ ท่าหมัดฟ้าคำรามของเขา ตอนนั้นได้เอาชนะคนที่อยู่ในโลกบู๊จนไม่มีใครสามารถต่อกรได้ จนถูกเรียกว่าเป็นตำนานของโลกนี้

แต่ว่า ในตอนที่เขากำลังอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิต จู่ ๆ กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย

มีคนลือกันว่า ท่านเฒ่าทิงเหลยฝึกวิชาจนธาตุไฟเข้าแทรกแล้วตาย แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของท่านเฒ่าทิงเหลย ที่จริงคือลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลตี๋แห่งโลกบู๊โบราณ

หลังจากที่ท่านเฒ่าทิงเหลยมีชื่อเสียงขึ้นมา ตระกูลตี๋ถึงได้รับเขาให้กลับมาอยู่ในตระกูลอีกครั้ง

และตี๋ซานถิง ก็เป็นคนในตระกูลตี๋ หมัดฟ้าคำรามที่ได้เรียนมา ก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากท่านเฒ่าทิงเหลยในตอนนั้น

แต่ว่า ถึงตระกูลตี๋ในตอนนั้นแข็งแกร่งเพียงใด

เมื่อผ่านสงครามร้อยปีของชาวจีนไป ไม่ว่าโลกบู๊โบราณหรือโลกบู๊ ต่างได้รับความเสียหายกันอย่างหนักหนาสาหัส

ผู้สืบทอดจำนวนมากสูญหาย ศักยภาพโดยรวมถดถอยกว่าเมื่อสองร้อยปีก่อนมาก

ก็ไม่รู้ว่า หมัดฟ้าคำรามที่ตี๋ซานถิงได้เรียนมานั้น เมื่อเทียบกับท่านเฒ่าทิงเหลยในตอนนั้นแล้ว อานุภาพจะเป็นอย่างไร!

“อ๊า ฮ่า!”

หนวดเคราและผมของตี๋ซานถิงสยายออก เขายกมือขึ้นเหมือนถือดวงอาทิตย์ดวงเล็กอยู่ แล้วซัดเข้าไปที่หลินหยุนอย่างดุเดือด

หมัดนั้นของหลินหยุน เมื่อเทียบกับตี๋ซานถิงแล้ว พลังห่างชั้นกันราวฟ้ากับดินเลยทีเดียว

เหมือนอีกาเทียบกับหงส์ เหมือนหิ่งห้อยเทียบกับดวงจันทร์

หัวใจของหานหลิงเอ๋อแทบจะกระดอนขึ้นมาอยู่ที่ลำคอ เธอกำมือแน่นทั้งสองข้าง : “หลินหยุน นายห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาดนะ!”

จางเทียนเยว่แสยะยิ้ม : “ไอ้หนุ่ม รอบก่อนถือว่าแกโชคดี! แต่รอบนี้ แกไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อนแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์