จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 854

สรุปบท บทที่ 854 ช็อกกันหมด: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 854 ช็อกกันหมด – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 854 ช็อกกันหมด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เฉินซีเยว่แสยะยิ้มดีใจเมื่อคิดว่าหลินหยุนจะแพ้ : “เหอะ คิดจะเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม ก็มีราคาที่ต้องจ่าย!”

บรรดานักบู๊ที่เหลือ ต่างก็ดูถูกหลินหยุนกันทั้งนั้น

ถึงแม้เมื่อครู่นี้ที่หลินหยุนสู้กับตี๋ซานถิงเป็นฝ่ายเหนือกว่า แต่พวกเขาต่างคิดว่าหลินหยุนชนะได้เพราะโชคช่วย เพราะตี๋ซานถิงประมาทเกินไป

ตอนนี้ เมื่อตี๋ซานถิงจริงจังขึ้นมา หลินหยุนกลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักนิด

การต่อสู้ของทั้งสองคน กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า

ตี๋ซานถิงที่มีประกายไฟวูบวาบอยู่ทั่วตัว หมัดที่เหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กนั่น ได้ปะทะเข้ากับหมัดที่ไม่มีพลังใด ๆ ของหลินหยุน

โครม!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เหมือนกับระเบิดที่มีอานุภาพมากมายระเบิดขึ้น จนทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน

นักบู๊ทุกคนต่างปิดตาลงอย่างอดไม่ได้ แสงที่ระเบิดออกมานั่นรุนแรงเกินไป จนทำให้ทุกคนแสบตา

แม้แต่งูหลามยักษ์ตัวนั้น ก็ตกใจจนหดคอไปเลยทีเดียว แล้วหมอบอยู่บนยอดเขาหัวโล้น ไม่กล้าชูคอขึ้นมา

“คราวนี้ ไอ้หนุ่มนั่นน่าจะตายแน่ ๆ!”

จางเทียนเยว่แอบมองลอดช่องว่างระหว่างนิ้ว เพื่อดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่เขากลับพบว่า หลินหยุนยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ท่าทางเหมือนไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย

ส่วนตี๋ซานถิงที่อยู่ตรงข้ามกับหลินหยุน กลับลอยกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตร นั่งกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ

“เป็นไปได้ยังไง!” จางเทียนเยว่ร้องออกมาอย่างตกใจทันที ไม่สนภาพลักษณ์ของตัวเองแล้ว

เฉินซีเยว่ก็อ้าปากเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะตกใจกลัว : “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง! หรือว่าเขาปกปิดพลังของตัวเองมาโดยตลอด?”

เว่ยซิวหมิงและชิ่งกั๋วถัยก็มีสีหน้าตกใจกลัวเช่นกัน

“หมัดฟ้าคำราม ก็ยัง......พ่ายแพ้!”

“เป็นไปได้ยังไง!”

ชิ่งกั๋วถัยมองไปยังหลินหยุนที่มีรูปร่างค่อนข้างผอมอย่างเซื่องซึม คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเด็กหนุ่มที่หน้าตาไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง จะเอาชนะท่าไม้ตายของท่านเฒ่าทิงเหลยเมื่อสองร้อยปีก่อนได้

หานหลิงเอ๋อหน้าตาดีอกดีใจ ใบหน้าเรียวเล็กที่งดงามนั่นเปล่งประกายขึ้นมา : “ดีจังเลย! หลินหยุนชนะแล้ว!”

หลินหยุนไม่ได้สนใจที่ทุกคนต่างพากันช็อก น้ำเสียงเรียบเฉยของเขาดังขึ้นอีกครั้ง : “ท่าแยกน้ำ!”

อีกหนึ่งหมัด ที่ดูไม่มีพลังใด ๆ ถูกปล่อยออกไปด้วยท่าทีสบาย ๆ เหมือนคนแก่ที่รำไทเก๊กในสวนสาธารณะตอนเช้า

แต่ว่า ตี๋ซานถิงที่อยู่ห่างออกไปเกินกว่าสิบเมตร กลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

“เป็นไปได้ยังไง! อยู่ห่างกันมากขนาดนี้ เขากลับควบคุมจุดขับเคลื่อนลมปราณของฉันไว้ได้!”

“นี่ นี่มันทักษะอะไรกันเนี่ย!”

“เขา......ตกลงเป็นใครกันแน่!”

ตี๋ซานถิงสงสัยเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาครุ่นคิด เขาสัมผัสได้ว่าหมัดเมื่อครู่นี้ของหลินหยุนมีพลังมากกว่าหมัดก่อนหน้านั้น

“ไอ้เวรเอ้ย ข้าจะสู้กับแกให้ได้เลย!”

ตี๋ซานถิงตะโกนเสียงดัง แล้วรวบรวมพลังที่เหลือ ปล่อยหมัดฟ้าคำรามออกไปสู้กับท่าแยกน้ำของหลินหยุน

โครม!

คราวนี้ จบสิ้นอย่างรวดเร็ว

เสียงกระดูกหักดังสะท้อนอยู่กลางอากาศ ตี๋ซานถิงที่ยโสโอหังต่อหน้าทุกคนเมื่อครู่นี้ เป็นเหมือนว่าวที่หักท่อน แล้วถูกหลินหยุนซัดจนกระเด็นออกไป

จากนั้น ร่วงหล่นลงบนพื้นแข็ง ๆ อย่างแรง จนไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ท่าแยกน้ำ ไม่ใช่เป็นการแยกน้ำ แต่เป็นการแยกพลัง

ทำลายสิ่งรอบข้าง โจมตีแกนกลางโดยตรง นี่เป็นความแข็งแกร่งของท่าแยกน้ำ

แม้ว่าพลังของตี๋ซานถิงแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อเทียบกับหลินหยุนแล้ว ยังห่างชั้นกันอีกมาก

โดยเฉพาะหลินหยุนที่ได้เข้าสู่แดนรวมยาแล้ว ตี๋ซานถิงก็แค่ระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุด สามารถต่อสู้กับหลินหยุนได้สามกระบวนท่า ถือว่าไม่เลวแล้ว

อีกอย่าง สามกระบวนท่านี้ หลินหยุนใช้พลังสิบส่วน เพื่อปล่อยพลังสิบแปดท่าต้าเต๋า

ถ้าหากเปลี่ยนเป็นชิ่งกั๋วถัยและเว่ยซิวหมิง คงไม่จำเป็นต้องใช้สิบแปดท่าต้าเต๋า ใช้แค่กระบวนท่าธรรมดาสักท่าก็สามารถฆ่าพวกเขาได้แล้ว

สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบสงบ!

มีเพียงเสียงหายใจที่ทุกคนพยายามอดกลั้นเอาไว้

สามหมัดจัดการตี๋ซานถิงได้ ช่างน่าตกตะลึงจริง ๆ

“ขอให้แกถูกงูหลามยักษ์นั่นจับกินซะ จะได้คลายความโกรธแค้นในใจฉันไปได้!”

จางเทียนเยว่แอบสังเกตท่าทีของหานหลิงเอ๋อ เขาพบว่าสายตาของหานหลิงเอ๋อ จับจ้องอยู่ที่หลินหยุนตลอด

สายตาแบบนั้น นอกจากรู้สึกขอบคุณ ยังมีความชื่นชมยกย่องและเลื่อมใสศรัทธาอีกด้วย

นั่นเป็นสายตาที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อนเลย แม้ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนต่อหน้าหานหลิงเอ๋อ แต่ก็ไม่เคยได้รับสายตาแบบนั้นจากเธอเลย

จางเทียนเยว่ยิ่งอิจฉาริษยาหลินหยุนมากขึ้นไปอีก

แต่ว่า หลินหยุนแข็งแกร่งมาก เขาจึงได้แต่สาปแช่งหลินหยุนอยู่ในใจ ต่อหน้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับหลินหยุน

เว่ยซิวหมิงถอนหายใจออกมา ย้อนนึกถึงคำพูดของหลินหยุน ตอนที่หานหลิงเอ๋อชวนให้หลินหยุนเข้ามาเป็นกองกำลังของสำนักเฟยอวิ๋น

“มิน่าล่ะตอนนั้นเขาถึงได้พูดจาอวดดีขนาดนั้น ว่าสำหรับเขาปรมาจารย์ก็เป็นเหมือนกับมดเท่านั้น”

“เดิมทีคิดว่าเขาเป็นพวกคุยโวโอ้อวด คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องจริง”

“อย่าว่าแต่ปรมาจารย์เลย ต่อให้เป็นปรมาจารย์แดนพรแสวง เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น!”

ตี๋ซานถิงแน่นิ่งไม่ขยับตัวอยู่นาน เห็นได้ชัดว่าตายไปแล้ว

หลินหยุนมั่นใจในหมัดนั้นของตัวเองมาก

หลินหยุนมองไปที่หานหลิงเอ๋อ หานหลิงเอ๋อก้มหน้าลงทันที ไม่กล้าสบตาหลินหยุน

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เพราะยังไงทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน ที่ช่วยเธอ เพราะเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว

หลินหยุนหันไปมองที่งูหลามยักษ์

ทันใดนั้น เหล่านักบู๊พวกนั้นก็ใจสั่นขึ้นมา รีบถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับหลินหยุน

นี่เป็นการแสดงความเคารพผู้แข็งแกร่งของผู้ที่อ่อนแอ

หานหลิงเอ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย : “เขาไม่พูดอะไรกับฉันสักคำเลยเหรอ?”

หลินหยุนเดินไปข้างหน้า บรรดานักบู๊เหล่านั้นก็ค่อย ๆ ถอยหลังออกไป เพื่อหลีกทางให้กับหลินหยุน

“เขาจะหาเรื่องพวกเราหรือเปล่า? เมื่อครู่นี้พวกเราต่างหัวเราะเยาะเขา”

นักบู๊คนหนึ่งเอ่ยพูดกับคนข้าง ๆ ด้วยเสียงที่เบาและสั่นเครือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์