จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 881

ในใจหลินหยุนก็ได้วางแผนไว้แล้ว

นอกเหนือจากชางฉองกรุ๊ปแล้ว ก็จะต้องก่อตั้งพลังอำนาจด้านบู๊ขึ้นมาช่วยอีกแรงหนึ่งด้วย

ตั้งชื่อว่าสำนักชางฉอง

อีกทั้งตอนนี้ก็ยังมีพลังอำนาจที่มีอยู่แล้ว

สำนักบู๊แท้แห่งซีเป่ย ถูกหลินหยุนทำลายค่ายกลจิ่วเจ๋ แล้วสังหารเจ้าสำนักและผู้บริหารระดับสูงกลุ่มหนึ่ง

หลังจากนั้น ก็ได้ยึดสำนักบู๊แท้ไว้ จากนั้นก็เปลี่ยนชื่อเป็นสำนักชางเยว่

ด้วยชื่อของหลินชางฉองและเย่เยว่รวมกัน ตั้งเป็นชื่อสำนักขึ้นมา

เมื่อนึกถึงเย่เยว่แล้ว ในใจของหลินหยุนก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมา

“ค่ายกลนิรันดร์กาลได้ปรากฏขึ้นบนโลกนี้แล้ว เยว่เอ๋อ คนคนนั้นจะเป็นคุณหรือไม่นะ?”

ตอนนี้ต้องหยุดความคิดในใจเช่นนี้ชั่วคราวไปก่อน ถ้าคิดอยากจะสืบเสาะตามหาที่อยู่ของเย่เยว่ละก็ สิ่งสำคัญที่ต้องทำตอนนี้ก็คือจะต้องยกระดับพลังความสามารถของตัวเองให้สูงขึ้นโดยเร็วที่สุด

ตามที่คาร์นอตวิลเลียมพูดไว้ เทพธิดาแห่งชีวิตของโลกตะวันตกคนนั้น จะต้องมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเทพจันทราของชาวจีนคนนั้นอย่างเห็นได้ชัด

หลินหยุนจำเป็นจะต้องหาโอกาสไปยังโลกทางตะวันตกสักครั้งหนึ่ง เพื่อติดตามข่าวสารของเทพธิดาแห่งชีวิต

อีกทั้ง ตอนที่อยู่ในสนามล่าเจ็ดเผ่านั้น คนชาวตะวันตกพวกนั้นได้นำเอาหินทิพย์มาจำนวนมากมาย หินทิพย์พวกนั้น ก็คือสิ่งที่หลินหยุนขาดแคลนมากที่สุด

“รอให้สถานการณ์ของประเทศจีนทางนี้มั่นคงเสียก่อน แล้วฉันจะรีบไปโลกตะวันตกสักครั้ง”

หลินหยุนตรงไปที่สำนักชางเยว่ พาผู้คนของสำนักชางเยว่กลับมา หลังจากนั้นก็มอบให้กับโล่เสว่ฉี

ตระกูลโล่เป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในโลกบู๊แห่งเจียงหนาน อีกทั้งพลังอำนาจของตระกูลโล่ก็ไม่เลวทีเดียว

พวกนี้ก็คือพลังอำนาจนักบู๊ที่มีอยู่ในมือของหลินหยุนนั่นเอง

ถ้ารวมทั้งซูจื่อเหลียงและซูหนันเข้าไปด้วย หากไม่นับหลินหยุนแล้ว นี่ก็เป็นพลังอำนาจนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว หลินหยุนเชื่อว่า ก็เพียงพอที่จะไปต่อกรกับพวกสำนักใหญ่ระดับแนวหน้าของโลกบู๊ได้แล้ว

เมื่อกำชับโล่เสว่ฉีแล้ว จากนั้นก็รวมนักบู๊ของสำนักชางเยว่และตระกูลโล่เข้าด้วยกัน เพื่อใช้เป็นรากฐานให้กับสำนักชางฉอง

สำหรับเจ้าสำนักชางฉองนั้น ตอนนี้หลินหยุนก็ยังไม่ได้ตัดสินใจจะให้ใครมารับตำแหน่งนี้

ตอนนี้ลูกน้องของเขา ก็มีซูจื่อเหลียงและซูหนันที่มีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุด แต่ว่าทั้งสองคนก็ยังไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้ปกครองสำนักใหญ่ขนาดนี้

แม่ครับหวางซูเฟินกลับเหมาะสมที่สุด แต่เสียดายที่ว่าเธอไม่ใช่นักบู๊

ความจริงแล้ว ในใจของหลินหยุนกลับมีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว นั่นก็คือปู่ของเขา นายทานหลินซื่อเฉิงนั่นเอง

เสียดายที่ว่า หลินซื่อเฉิงเพิ่งจะได้เริ่มฝึกฝนบำเพ็ญเพียรได้ไม่นานนัก ถึงแม้ว่าพรสวรรค์จะไม่เลวเลย แต่ว่าระยะเวลาในการฝึกฝนนั้นก็ยังน้อยเกินไป พละกำลังตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะมารับตำแหน่งเจ้าสำนักได้

เช่นนั้นแล้วหลินหยุนก็ได้แต่รับตำแหน่งเจ้าสำนักชางฉองไปชั่วคราวก่อน รอให้พลังฝึกฝนของหลินซื่อเฉิงได้ยกระดับสูงขึ้นแล้ว ค่อยส่งมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับหลินซื่อเฉิงต่อไป

ลูกศิษย์ของสำนักชางฉองก็มีแล้ว และยังมีซูจื่อเหลียงกับซูหนันยอดฝีมือระดับแดนเทพเช่นนี้คอยบัญชาการอยู่

แต่ว่าตอนนี้จำเป็นจะต้องหาสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นที่ตั้งของสำนักชางฉองแล้ว

สถานที่แห่งนี้ จะต้องอยู่ไม่ไกลจากจงโจวมากนัก ถ้าหากไกลเกินไปแล้วก็จะไม่สามารถคุ้มครองชางฉองกรุ๊ปได้

หลินหยุนจึงได้เช่าสถานที่บริเวณเชิงเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับเขตบริเวณจงโจวไว้

แต่ว่าจงโจวเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่น ชี่ทิพย์เบาบางมาก

หลินหยุนจึงหยิบเอาจำพวกหินหยกและหินทิพย์ห้าธาตุออกมาจากแหวนเก็บของ แล้ววางค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์เอาไว้

แน่นอนที่ว่า ค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์นี้ จะต้องอาศัยแต่พลังจากหินหยกและหินทิพย์ห้าธาตุพวกนั้นจึงจะสามารถวางค่ายกลได้สำเร็จ เมื่อเทียบกับค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์ของทะเลสาบเยว่หยานั้นแล้ว ก็ยังห่างไกลกันมากทีเดียว

แต่ว่าก็เพียงพอที่จะให้ลูกศิษย์ของสำนักชางฉองใช้ในการฝึกฝนพลังได้

หลังจากได้จัดการสถานที่ตั้งของสำนักชางฉองแล้ว โล่เสว่ฉีก็ให้ลูกศิษย์ฝีมือระดับหัวกะทิของโล่จิ้น และยังมีลูกศิษย์สำนักชางเยว่พวกนั้น มารวมอยู่ที่สำนักชางฉองด้วยกัน

พลังอำนาจทั้งสองรวมกันแล้ว ก็มีลูกศิษย์กว่าร้อยคนแล้ว

ด้านพละกำลังนั้น ก็มีระดับปรมาจารย์ 7-8 คนแล้ว

เมื่อรวมซูจื่อเหลียงและซูหนันไปด้วย โลกบู๊ในตอนนี้ ก็ยากที่หาคนมาเทียบเคียงกับพลังอำนาจเช่นนี้ได้อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์