เมื่อเสียงดังขึ้น ได้มีผู้หญิงสวยท่าทางอ่อนช้อยนุ่มนวล สวมกระโปรงยาวกึ่งโปร่งแสงสีชมพูคนหนึ่งเดินเข้ามา
มีกลิ่นหอมโชยออกมาด้วย
ป่ายหลี่หลงเซิ่งใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ แล้วเอ่ยพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มชั่วร้าย : “เขาก็คือหุบเขาเทพยาที่เธอพูดถึง? ที่พ่ายแพ้ให้กับสำนักยาตันของพวกเราในตอนนั้น!”
หญิงสาวยิ้มอย่างละมุนละไมพลางอิงแอบแนบชิดที่หน้าอกของป่ายหลี่หลงเซิ่ง เธอส่งสายตาไปให้ป่ายหลี่หลงเซิ่งแล้วเอ่ยพูดด้วยเสียงอ่อนโยน : “ใช่ค่ะ เขาก็คืออาจารย์อาของฉัน เป็นอัจฉริยะแห่งหุบเขาเทพยา โม่จือมิ่ง!”
หลินหยุนพบว่า ตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวขึ้น เสียงหายใจของโม่จือมิ่งก็รุนแรงมากขึ้น และดวงตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำ
ดูท่าทาง ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นคนทรยศคนนั้น
เทพธิดา ซูม่านม่าน
โม่จือมิ่งตะโกนเสียงดัง : “ซูม่านม่าน นังแพศยาอย่างแกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าอาจารย์อาอีกเหรอ! หุบเขาเทพยาดูแลแกเป็นอย่างดี แต่แกกลับทรยศหักหลังหุบเขาเทพยา ทั้งยังขโมยบันทึกเตากลั่นยาที่เป็นสมบัติล้ำค่าแห่งหุบเขาเทพยาไปด้วย จิตสำนึกของแกถูกสุนัขกินไปแล้วหรือไง?”
ซูม่านม่านหัวเราะแบบปิดปากแล้วเอ่ยพูด : “ฉันเรียกแกว่าอาจารย์อา แกก็คิดว่าตัวเองเป็นอาจารย์อาของฉันจริง ๆ น่ะเหรอ? คนขี้แพ้อย่างแก มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน!”
“ติดตามหุบเขาเทพยาของพวกแก มีแต่จะขวางพรสวรรค์ของฉัน ความสามารถแค่นั้นของพวกแกเหล่าหุบเขาเทพยา อย่ามาเสนอหน้าให้อับอายคนอื่นเลย”
“อีกอย่าง คนต้องเดินขึ้นที่สูง น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ เรื่องที่ฉันทำ ไม่มีอะไรต้องละอายใจ ต่อไปเวลาเจอหน้ากัน อย่าทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าขี้โวยวายอีก!”
โม่จือมิ่งโมโหจนหายใจฮึดฮัดหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง : “แกมันนังสารเลว ตอนนั้นพี่ใหญ่ของฉันตาบอดไปจริง ๆ ถึงได้เก็บแกมาเป็นลูกศิษย์!”
ซูม่านม่านแสยะยิ้มพลางเอ่ย : “ถูกต้อง ตอนนี้แกเพิ่งรู้เหรอว่าพี่ใหญ่ของแกตาบอด น่าเสียดายจังเลย ที่รู้ช้าไปหน่อย”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งแสยะยิ้มพลางเอ่ย : “พอได้แล้วม่านม่าน อย่ามัวพูดไร้สาระกับเขาเลย เธอต้องการฝึกฝีมือไม่ใช่เหรอ? โสมป่าพวกนี้น่าจะเพียงพอให้เธอใช้นะ!”
ซูม่านม่านพูดอย่างออเซาะว่า : “พอแล้ว พอแล้ว”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งลูบหน้าสวย ๆ ของซูม่านม่าน แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางเอ่ยพูด : “งั้นคืนนี้เธอควรต้องขอบคุณฉันดี ๆ สักหน่อยแล้วล่ะ!”
“บ้าน่ะ!” ซูม่านม่านแสร้งทำเป็นเขินอาย แสร้งทำเหมือนอยากปฏิเสธ
ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดกับเถ้าแก่ว่า : “ขอบใจนะ!”
เถ้าแก่โค้งคำนับพลางยิ้มแป้น : “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร คุณชายป่ายหลี่ถูกใจ นับว่าเป็นเกียรติของผม”
“ไม่เลว ต่อไปหามีเรื่องอะไร อ้างชื่อฉันไปได้เลย!” ป่ายหลี่หลงเซิ่งเอ่ยพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“เทพธิดาตัวน้อย พวกเราไปกันเถอะ!” ป่ายหลี่หลงเซิ่งโอบซูม่านม่านด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งได้หยิบโสมป่าที่อยู่บนแผงไปทั้งหมด ทำเหมือนหลินหยุนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
หลินหยุนมองไปที่ป่ายหลี่หลงเซิ่งอย่างเย็นชา ถ้าหากไม่ใช่เพราะกลัวว่าพลังตัวเองจะเปิดเผย แล้วจะเอา บันทึกเตากลั่นยา มาไม่ได้ หลินหยุนคงตบชายหญิงที่พลอดรักไปทั่วทุกที่คู่นี้จนตายไปนานแล้ว
“วางลง” หลินหยุนเอ่ยพูดอย่างราบเรียบ
ป่ายหลี่หลงเซิ่งมองหลินหยุนด้วยความประหลาดใจ แล้วแสยะยิ้มพลางเอ่ยพูด : “ทำไม? ผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเทพยาของพวกแกไม่กล้าพูดอะไรแล้ว แกเป็นแค่ลูกศิษย์ตัวเล็ก ๆ ที่คอยติดตามคนหนึ่ง ยังคิดจะมาแย่งของกับคุณชายอย่างฉันเหรอ?”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งเห็นหลินหยุนอายุน้อย จึงคิดว่าหลินหยุนเป็นผู้ติดตามของโม่จือมิ่ง
แม้แต่ซูม่านม่านก็เมินเฉยใส่หลินหยุน
โม่จือมิ่งแสยะยิ้มพลางเอ่ย : “หุบเขาเทพยาของพวกเราไม่มีความสามารถมากถึงขนาดให้คุณชายหลินมาเป็นลูกศิษย์หรอก!”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งแสยะยิ้มพลางเอ่ย : “หุบเขาเทพยาอย่างพวกแกชอบเล่นตุกติก คิดว่าสร้างเรื่องมาพูดแบบนี้แล้วฉันจะกลัวสินะ?”
พูดจบ ป่ายหลี่หลงเซิ่งได้หันหน้าไปมองหลินหยุนอย่างเหยียดหยาม แล้วเอ่ยว่า : “ไอ้เด็กเมื่อวานซืนเนี่ยนะ แกดันเรียกว่าคุณชายหลิน ฉันว่าหุบเขาเทพยาของพวกแก คงพังพินาศจริง ๆ แล้วล่ะ”
ขณะที่หลินหยุนทนไม่ไหวกำลังจะลงมือสั่งสอนป่ายหลี่หลงเซิ่ง จู่ ๆ ด้านหลังได้มีเสียงหัวเราะดังขึ้น : “ป่ายหลี่หลงเซิ่ง แกรังแกคนอื่นอีกแล้วใช่ไหม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...