เจียงย่านหรงมองไปที่เถ้าแก่คนนั้นด้วยสายตาเย็นชา แล้วเอ่ยพูดด้วยเสียงไม่พอใจ : “แกเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร เอาของสิ่งเดียวกันขายให้กับคนสองคน ไอ้พ่อค้าหน้าเลือด!”
เถ้าแก่พร่ำบ่นอย่างคับข้องใจ เจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักยาตันต้องการของของเขา เขาจะกล้าปฏิเสธได้ยังไง!
เขาก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้!
เจียงย่านหรงจ้องไปที่ป่ายหลี่หลงเซิ่ง แล้วตะคอกเสียงเย็นชา : “ไสหัวไปซะ! ไม่อย่างนั้น ครั้งต่อไปที่ฉันจะตวัดแส้ใส่ก็คือหน้าของแก!”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งตกใจจนหน้าซีดเผือด พละกำลังของเจียงย่านหรงใกล้แตะระดับปรมาจารย์แล้ว แข็งแกร่งกว่าเขาถึงสองแดน แค่กระบวนท่าเดียวของเจียงย่านหรงเขาก็ต้านทานไว้ไม่ได้
อีกอย่าง เจียงย่านหรงเป็นผู้ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ในโลกบู๊โบราณ ไม่เกรงกลัวสำนักยาตันของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเอาสำนักยาตันมาข่มขู่เธอได้
ความพ่ายแพ้นี้ ป่ายหลี่หลงเซิ่งจำต้องยอมรับมัน
“เจียงย่านหรง แกมันแน่มาก!”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งจ้องเขม็งเจียงย่านหรงด้วยสีหน้าถมึงทึง แล้วหันไปมองหลินหยุนด้วยสีหน้าบึ้งตึงพลางเอ่ยพูด : “ไอ้หนุ่ม ครั้งนี้ถือว่าแกโชคดีไป แต่ครั้งหน้าถ้าตกอยู่ในเงื้อมมือฉันอีก แกไม่ได้โชคดีอย่างนี้แน่!”
หลินหยุนหลับตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย ไม่ได้มองเขาเลยสักนิด ถ้าหากไม่ใช่เพื่อต้องเอาบันทึกเตากลั่นยากลับไป ตอนนี้ป่ายหลี่หลงเซิ่งคงกลายเป็นศพไปแล้ว
“ไสหัวไปซะ!” เจียงย่านหรงแสร้งทำท่าเหมือนจะทำร้าย จนทำให้ป่ายหลี่หลงเซิ่งตกใจจนรีบกุมหัวแล้ววิ่งพล่านเหมือนหนู
“เหอะ ไอ้สวะเอ้ย!” เจียงย่านหรงมองตามแผ่นหลังของป่ายหลี่หลงเซิ่งที่หนีหัวซุกหัวซุน แล้วแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา
จากนั้น เจียงย่านหรงหันกลับมามองหลินหยุน แล้วยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยพูด : “เอาล่ะ ไอ้สารเลวป่ายหลี่หลงเซิ่งนั่นถูกฉันไล่ไปแล้ว ไม่มีอะไรแล้วล่ะ!”
หลินหยุนมองไปที่เด็กสาวผู้รักในความยุติธรรมขนาดนี้ แล้วยิ้มเล็กน้อย : “ขอบคุณนะ”
เจียงย่านหรงโบกปัดมือไปมา : “ไม่ต้องเกรงใจ!”
หลินหยุนเก็บโสมแดงเหล่านั้น แล้วมองไปที่โม่จือมิ่งพลางเอ่ย : “ไปกันเถอะ!”
“ครับ!” โม่จือมิ่งพยักหน้าบอกลาเจียงย่านหรง แล้วเดินตามหลินหยุนออกไป
เจียงย่านหรงปรบมือ แล้วหมุนตัวเดินจากไปอย่างร่าเริงมีความสุข
หลินหยุนแอบคิดในใจว่า : “ดูท่าทาง ในโลกบู๊โบราณ ก็ไม่ใช่คนเลวทั้งหมด”
เดินต่อไปข้างหน้าเรื่อย ๆ จนในที่สุดหลินหยุนได้เจอสมุนไพรที่ต้องการ จากแผงลอยของผู้เฒ่าคนหนึ่ง
เถาจื่อเฟิง แล้วก็หินหานสุ่ย
สมุนไพรสองชนิดนี้ รวมกับหญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิง สามารถทำยากลั่นทิพย์เพลิงม่วงที่มีสรรพคุณเยี่ยมยอดยิ่งกว่ายารวมทิพย์เพลิงแดง
เมื่อมียากลั่นทิพย์เพลิงม่วงนี้แล้ว สามารถทำให้ตัวอ่อนยาจางที่อยู่ภายในร่างกายของหลินหยุนแข็งตัวมากขึ้น โอกาสที่จะกลายเป็นยาทองระดับฟ้าก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
ได้สมุนไพรสองชนิดนี้มา โดยหลินหยุนใช้เพียงยาเสริมจิตสองเม็ดเท่านั้น ยังไงคนในโลกบู๊ ก็ไม่ได้สนใจในสมุนไพรที่ผู้บำเพ็ญเซียนต้องการอยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่เคยพบเห็นสมุนไพรสองชนิดนี้มาก่อน แล้วรู้สึกสนใจขึ้นมา ผู้เฒ่าคนนั้นคงจะไม่เก็บมันกลับมา
ทั้งสองคนยังเดินเล่นอยู่ในตลาดกันอีกสักพัก แต่หลินหยุนไม่ได้พบสิ่งของที่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
จากนั้น ทั้งสองคนได้ออกไปจากตลาด มายังลานที่จัดงานประลองกลั่นยา
ตอนนี้ งานประลองกลั่นยายังไม่เริ่มต้นขึ้น ที่ลานจัดงานมีเพียงคนไม่กี่คนกำลังเดินเล่นอยู่ เพื่อสำรวจเวทีที่สร้างเสร็จแล้วของงานประลองกลั่นยา
โม่จือมิ่งเอ่ยพูด : “งานประลองกลั่นยาเริ่มต้นพรุ่งนี้เช้าอย่างเป็นทางการ วันนี้ที่นี่โดยส่วนใหญ่เป็นการรวมตัวของเหล่านักกลั่นยาที่มีค่อนข้างมีศักยภาพในโลกกลั่นยา!”
หลินหยุนเอ่ยถาม : “คนของสำนักยาตันมาถึงหรือยัง?”
โม่จือมิ่งกวาตามองไปรอบ ๆ แล้วส่ายหน้าพลางเอ่ย : “หนุ่มสองคนที่สวมชุดฉางเผาสีขาวที่กำลังสั่งการทำเวทีอยู่ตรงนั้น คือลูกศิษย์ของสำนักยาตัน ตรงหน้าอกเสื้อของพวกเขา ปักสัญลักษณ์โอสถไว้อันหนึ่ง”
“พวกระดับสูงของสำนักยาตัน วันนี้คงไม่โผล่มาให้เห็น ต้องรอพรุ่งนี้ถึงจะมาที่งาน”
หลินหยุนมองไปยังลูกศิษย์สองคนที่กำลังทำเวทีอยู่ บนเสื้อของพวกเขามีภาพปักโอสถอยู่จริง ๆ ด้วย
“งั้นก็รอแล้วกัน!”
โม่จือมิ่งเอ่ย : “ถ้าคุณไม่อยากเดินต่อ ผมจะพาคุณไปหาที่พักผ่อน”
“ก็ได้” หลินหยุนตอบตกลง
ในเมืองตันโจว มีโรงแรมสำหรับพักผ่อน แต่ว่า โรงแรมที่นี่ ไม่ได้เก็บเงินสดเหมือนอย่างโลกมนุษย์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...