จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 890

ในกลุ่มคนที่อยู่ด้านล่าง เจียงย่านหรงก็มองเห็นหลินหยุนเช่นกัน

เจียงย่านหรงอ้าปากค้างทันที สีหน้าตกตะลึง : “คิดไม่ถึงว่าเขาจะเก่งกาจถึงเพียงนี้!”

“ดูท่าทางต่อให้ฉันไม่ช่วยเขา เขาก็น่าจะจัดการแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง!”

“เหอะ เจ้าหมอนี่มันน่าหมั่นไส้จริง ๆ เมื่อครู่นี้เขาต้องจงใจปิดบังพลังของตัวเองแน่นอน”

ที่จริงการทดสอบครั้งแรก ไม่เพียงเป็นการจุดไฟของนักกลั่นยาเพื่อดูว่าจะสามารถทำให้เปลวไฟลุกโชนได้มากแค่ไหน แต่ยังเป็นการทดสอบศักยภาพของนักกลั่นยาอีกด้วย

หรือพูดได้อีกอย่างว่า มีเพียงนักกลั่นยาที่ฝึกวิชาได้อย่างลึกล้ำเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้เปลวไฟลุกโชนแรงกล้าได้

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมาทดสอบด่านแรกอีกแล้ว ป่ายหลี่เถ่จึงได้ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินมาตรงขอบแท่นสูง แล้วเริ่มเอ่ยพูด : “การทดสอบด่านแรกสิ้นสุดลง ต่อไปเป็นการเริ่มด่านที่สอง”

“เริ่มได้!”

ป่ายหลี่เถ่โบกสะบัดมือ บรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นของสำนักยาตัน ก็เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบครั้งแรกออกไปทันที

จากนั้น ได้นำสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในการทดสอบด่านที่สองออกมา

คราวนี้ สิ่งที่ลูกศิษย์สำนักยาตันยกออกมา คือกล่องไม้ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ากล่องใหญ่จำนวนหนึ่ง ในนั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด

โม่จือมิ่งเอ่ยพูดเสียงเบาว่า : “นี่เป็นด่านที่สองของการประลองยากลั่น แยกแยะยา!”

บนเวที ป่ายหลี่เถ่ได้ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยพูด : “ด่านที่สอง ขอแค่นักกลั่นยาที่เข้าร่วมแข่งขันทุกท่าน สามารถบอกชื่อสมุนไพรที่อยู่ในนี้ออกมาได้สิบห้าชนิด ก็ถือว่าผ่านด่าน”

“แต่ว่า เงื่อนไขคือได้แค่ดูเท่านั้น ไม่สามารถดมกลิ่น และไม่สามารถชิมรสชาติได้”

ผู้คนที่อยู่ด้านล่างจำนวนมากต่างรู้กฎในด่านที่สองอยู่แล้ว จึงไม่ได้แปลกใจอะไร

ป่ายหลี่เถ่มองไปยังกรรมการเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลัง แล้วเอ่ยถาม : “เริ่มได้หรือยัง?”

กรรมการแต่ละคนต่างพยักหน้า

ป่ายหลี่เถ่หันตัวกลับมา ตะโกนพูดกับนักกลั่นยาทุกคนว่า : “ตอนนี้ฉันขอประกาศ เริ่มด่านที่สองได้!”

บนแท่นสิบแท่น แต่ละแท่นจะมีกล่องไม้ขนาดใหญ่วางอยู่หนึ่งกล่อง ทุกครั้งสามารถขึ้นไปได้เพียงสิบคนเท่านั้น

การทำแบบนี้สามารถรับประกันได้ว่าไม่มีใครโกงได้แน่นอน

สมุนไพรในโลกนี้มีมากมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้ด่านที่สองเป็นการทดสอบที่แม้ผ่านมาหลายปีก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ว่า สมุนไพรที่อยู่ด้านในกลับเปลี่ยนแปลงไปทุกปี

ฉะนั้น ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าด่านที่สองจะมีสมุนไพรชนิดใดอยู่ด้านในนั้น

สิบคนแรกได้ขึ้นไปบนแท่นแล้ว

ด่านที่สองมีการจำกัดเวลา ทุกคนมีเวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น เมื่อหมดเวลา ทุกคนต้องบอกชื่อสมุนไพรออกมาให้ได้ โดยเขียนลงในกระดาษ แล้วส่งให้กับกรรมการ

สรุปได้ว่า ด่านทั้งสามด่านนี้ถือว่ายุติธรรม ไม่สามารถคดโกงได้ง่าย ๆ

ผ่านไปสิบนาที สิบคนแรกได้ลงจากแท่น

จากนั้น กรรมการได้ตรวจสอบกระดาษคำตอบ แล้วประกาศคะแนน

แต่น่าเสียดาย ในสิบคนนั้น มีเพียงสี่คนที่สามารถบอกชื่อสมุนไพรสิบห้าชนิดได้อย่างถูกต้อง ส่วนที่เหลือถูกคัดออก

หลังจากนั้น กลุ่มที่สองได้ขึ้นไปบนแท่น

ครั้งนี้ ผ่านการทดสอบห้าคน มากกว่ากลุ่มแรกหนึ่งคน

หลินหยุนและโม่จือมิ่งอยู่ในกลุ่มที่สาม

หลินหยุนเพียงแค่กวาดตามองสมุนไพรที่อยู่ในกล่องไม้ผ่าน ๆ ก็สามารถแยกสมุนไพรออกมาได้ทันที

แต่ว่า ความยากของด่านที่สองนั้น ไม่น้อยเลยจริง ๆ

เพราะว่า สมุนไพรที่อยู่ในนี้ ล้วนเป็นสมุนไพรที่มีลักษณะใกล้เคียงกันสูงมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าหากไม่ใช่นักกลั่นยามากประสบการณ์ คงยากที่จะแยกแยะออกมาได้

ขณะที่คนอื่นยังคงครุ่นคิดอย่างหนัก หลินหยุนได้เอารายชื่อสมุนไพรเขียนลงบนกระดาษ จากนั้นวางไว้บนแท่น แล้วกลับไปรอที่จุดรอ

ป่ายหลี่เถ่และกรรมการคนอื่น ๆ ต่างให้ความสนใจกับหลินหยุน

เมื่อเห็นหลินหยุนกลับไปเร็วขนาดนี้ ก็คิดว่าหลินหยุนสละสิทธิ์ไปแล้ว

ชายชราแซ่กู่ที่เอ่ยชื่นชมหลินหยุนเมื่อครู่นี้ พูดขึ้นมาด้วยความเสียดาย : “เจ้าหนุ่มคนนี้สละสิทธิ์ไปแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ! ฉันคิดว่าโลกกลั่นยาของพวกเราจะมีอัจฉริยะเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนเสียอีก ดูท่าทางเขาคงเป็นเพียงผู้ฝึกบำเพ็ญเพียรที่ไม่เลวคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ผู้ที่มีพรสวรรค์ในการกลั่นยา”

ป่ายหลี่เถ่เอ่ยพูด : “น่าเสียดายจริง ๆ”

“การกลั่นยา ไม่เพียงแต่ต้องใช้ความสามารถเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ความเพียรพยายามด้วย เขายอมแพ้เร็วขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่ไม่มีเพียรพยายามคนหนึ่ง”

“นิสัยแบบนี้ ต่อให้มีความสามารถ ก็เป็นนักกลั่นยายอดฝีมือไม่ได้หรอก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์