ผู้ตัดสินแซ่กู่ตบน่องตัวเองด้วยความตื่นเต้นและหัวเราะออกมา:"อัจฉริยะ สุดยอดอัจฉริยะจริงๆ!"
"ปล่อยเปลวไฟผ่านอากาศ ฉันพูดแล้วว่าเขาต้องเป็นอัจฉริยะของโลกกลั่นยาในอนาคตอย่างแน่นอน!"
"น่าตื่นเต้นมากๆ การมาดูการแข่งขันในครั้งนี้ มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ!"
"ใช่จริงๆ สามารถเห็นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมดกับปล่อยเปลวไฟผ่านอากาศ และพลังสองอย่างที่แตกต่างกันนี้กลับปรากฏในตัวชายหนุ่มเพียงคนเดียว ความสำเร็จของเขาในอนาคต ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน!"
ผู้ตัดสินหลายๆคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย สายตาที่พวกเขามองไปที่หลินหยุนเต็มไปด้วยความร้อนแรง
ผู้ตัดสินแซ่กู่หัวเราะออกมา:"คนคนนี้ ฉันต้องเอามาเป็นลูกศิษย์ให้ได้!"
"ไอ้กู่ คนคนนี้เกรงว่าคุณจะเอาไปเป็นลูกศิษย์ไม่ได้ ด้วยความอัจฉริยะของเขา พวกเราไม่แย่งไม่ได้?"ชายชราอีกคนพูดด้วยรอยยิ้ม
ผู้ตัดสินแซ่กู่ชี้ไปที่คนคนนั้น และด่าออกมาทันที:"หึ ถ้าเป็นป่ายหลี่เถ่ ฉันอาจจะต้องเกรงใจบ้าง แต่ชายชราอย่างพวกคุณคิดจะมาแย่งลูกศิษย์กับฉันเหรอ พวกคุณฝันไปเถอะ!"
"เพื่อเด็กหนุ่มคนนี้ ถึงแม้ฉันต้องหมดเนื้อหมดตัว ฉันก็ต้องทำให้เขามาเป็นลูกศิษย์ของฉันให้ได้!"
ความตื่นตกใจของทุกคน แต่สำหรับคนที่เข้าแข่งขันบนเวทีเก้าคนนั้น กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกงงมากๆ เพราะป่ายหลี่เถ่ยกธงแดงมาสักพักแล้ว และเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนธงด้วย
ทำให้เปลวไฟของเตาสัมฤทธิ์ทั้งสิบใบลุกโชนอยู่ตลอดเวลา การลุกโชนของเปลวไฟอย่างนี้ มันสูญเสียพลังมากๆ ไม่มีใครทนไหว!
โม่จือมิ่งรู้สึกประหลาดใจ เขาแอบดูหลินหยุนครั้งหนึ่ง การดูครั้งนี้ ทำให้โม่จือมิ่งตื่นตระหนกตกใจทันที
"ปล่อยเปลวไฟผ่านอากาศ!"
"โอ้พระเจ้า ปรมาจารย์หลินสุดยอดมากๆ เขาทำได้ทุกอย่างได้จริงๆ!"
โม่จือมิ่งนับถือหลินหยุนมากๆจากใจจริง
"อะแฮม!"
มีคนเตือนป่ายหลี่เถ่ด้วยเสียงไอ ทำให้ป่ายหลี่เถ่ได้สติคืนมาทันที และพึ่งรู้ว่าตัวเองกระทำเรื่องที่เสียมารยาทมากๆ
อย่างไรก็ตาม ป่ายหลี่เถ่เป็นคนฉลาด เขายิ้มเบาๆและพูด:"ทุกคนมีความอดทนที่ดีเยี่ยม หลังจากนี้ฉันจะลดเวลาลง"
คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขา ปกปิดการกระทำเสียมารยาทของตัวเองทันที และทำให้นักกลั่นยาที่เข้าแข่งขันเกิดความประทับใจในตัวเขาทันที
หลังจากนั้น ความสนใจทั้งหมดของป่ายหลี่เถ่ก็คือหลินหยุนเพียงคนเดียว
แน่นอนว่าหลินหยุนก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นไฟบุ๋นหรือว่าไฟบู๊ เขาก็สามารถควบคุมเปลวไฟได้ดีกว่านักกลั่นยาที่เหลืออีกเก้าคนหลายๆเท่า
ผ่านไปไม่นาน การแข่งขันด่านที่สามก็สิ้นสุดลง
ผู้ตัดสินหลายๆคนปรึกษากันและกำลังจะประกาศคะแนน
ไม่ต้องสงสัยเลย หลินหยุนได้อันดับหนึ่งอยู่แล้ว
การแข่งขันทั้งสามด่าน เขาสามารถเอาชนะได้อย่างเหนือชั้น
โม่จือมิ่งก็ผ่านการแข่งขันทั้งสามด่าน แต่คะแนนของเขาอยู่ระดับกลางๆเท่านั้น
เนื่องจากเขาต้องการซ่อนพลังที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ มิฉะนั้นด้วยความสามารถของโม่จือมิ่ง ถึงแม้เขาไม่สามารถเอาชนะหลินหยุนได้ แต่นักกลั่นยาคนอื่นๆที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้เหมือนกัน
เพราะโม่จือมิ่งเป็นอัจฉริยะของหุบเขาเทพยามาโดยตลอด
ผู้ตัดสินหลายๆคนปรึกษากันเสร็จแล้ว จากนั้นป่ายหลี่เถ่ก็หันหลังและเดินไปที่ขอบเวทีอีกครั้ง
เมื่อมองเห็นผู้คนที่มีความคาดหวังอยู่ด้านล่าง ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมาและประกาศเสียงดังทันที:"ครั้งนี้นักกลั่นยาที่สามารถผ่านการแข่งขันทั้งสามด่านได้ มากกว่าครั้งที่แล้วสามเท่า!"
"และการแข่งขันงานประลองกลั่นยาในครั้งนี้ ก็ปรากฏอัจฉริยะด้วยหนึ่งคน!"
"ฉันเชื่อว่า ฉันไม่ต้องพูด ทุกคนก็น่าจะเดาออกว่าอัจฉริยะคนนั้นเป็นใคร!"
"อัจฉริยะคนนั้นก็คือนักกลั่นยาหลินหยุน และฉันจะบอกเรื่องหนึ่งให้ทุกคนได้รับรู้ นักกลั่นยาหลินหยุนคนนี้ อายุน้อยมากๆ!"
"อนาคตข้างหน้าของเขา ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน!"
ทุกคนที่อยู่ด้านล่าง ต่างมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าอิจฉา
มีชายชราคนหนึ่งถอนหายใจ:"คนที่ได้คำชมจากเจ้าสำนักสำนักยาตัน หลายปีที่ผ่านมา มีเพียงเด็กหนุ่มคนนี้คนเดียวเท่านั้น!"
"ใช่จริงๆด้วย เขาเก่งมากๆจริงๆ ถ้าเขาเกิดในยุครุ่งเรืองของโลกกลั่นยา เขาก็ยังคู่ควรกับคำว่าอัจฉริยะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...