จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 895

สามารถพูดได้เลยว่าถ้าป่ายหลี่หลงเซิ่งสามารถกลั่นโอสถระดับสอง เขาก็เป็นคนที่เก่งจริงๆ

แม้แต่ป่ายหลี่เถ่ก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อยเหมือนกัน เขาอดไม่ได้ที่จะมองลูกชายตัวเองหลายครั้ง

"ดูเหมือนฉันประเมินหลงเซิ่งต่ำเกินไปแล้ว!"

โม่จือมิ่งก็รู้สึกอึ้งและตกใจเล็กน้อยเหมือนกัน

ยาเชิญปราณคือโอสถระดับสอง เป็นยาที่เอาไว้ฟื้นฟูพลังชี่ ถ้าโอกาสกลั่นสำเร็จต่ำกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ คนส่วนใหญ่ก็ไม่กล้ากลั่นยาตัวนี้

ดูเหมือนว่าป่ายหลี่หลงเซิ่งจะมั่นใจวิชาการกลั่นยาของตัวเองมากๆ

ผู้ตัดสินคนนั้นมองไปที่หลินหยุน และถามอย่างเคร่งขรึม:"คุณชายป่ายหลี่ต้องการประลองกลั่นยาเชิญปราณ คุณจะรับคำท้าประลองนี้ไหม?"

หลินหยุนพูดเบาๆ:"เริ่มประลองได้เลย!"

"ไม่ต้องรีบร้อน ต้องทำตามขั้นตอน!"ผู้ตัดสินพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แสดงความเป็นธรรมออกมา

สำหรับขั้นตอนนั้น ก็คือการถามทั้งสองฝ่าย หลังจากทั้งสองฝ่ายยอมรับ และแข่งขันกันด้วยความยุติธรรม

หลังจากผ่านการถามแล้ว ผู้ตัดสินคนนั้นก็ประกาศทันที:"เทพโอสถที่อยู่บนสวรรค์ และทุกคนที่อยู่ในโลกกลั่นยาร่วมกันเป็นพยาน ป่ายหลี่หลงเซิ่งกับหลินหยุนเต็มใจที่จะประลองกัน"

"ตอนนี้ฉันขอประกาศ เริ่มการประลองได้!"

จากนั้นก็มีลูกศิษย์ของสำนักยาตัน ได้นำสมุนไพรที่จะกลั่นยาเชิญปราณมาให้หลินหยุนกับป่ายหลี่หลงเซิ่ง และวางลงบนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าของทั้งสองคน

ป่ายหลี่หลงเซิ่งมองหลินหยุนด้วยสายตาที่เย็นชา เขาหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และพูดอย่างเย็นชา:"เด็กหนุ่ม คุณต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!"

เมื่อพูดจบ จู่ๆป่ายหลี่หลงเซิ่งก็หยิบเตาสามขาออกมาจากร่างกายของตัวเอง เตาอันนี้ สีดำสนิท แค่มองก็รู้ว่าเป็นของโบราณที่ไม่ธรรมดา

จู่ๆโม่จือมิ่งก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ:"มันคือเตาสามขาอ้านยวน!"

"เป็นเตากลั่นยาวิเศษที่อยู่ในอันดับที่ยี่สิบเจ็ดของลำดับเครื่องรางเทพ!"

"ไม่แปลกใจเลยที่ป่ายหลี่หลงเซิ่งมั่นใจในตัวเองมากๆ เขามีเตากลั่นยาวิเศษนี่เอง ถ้าเป็นอย่างนี้โอกาสที่เขาจะกลั่นยาเชิญปราณสำเร็จจะเพิ่มสูงมากขึ้น

ทุกคนที่อยู่ด้านล่าง ต่างมีสีหน้าที่ตกใจและอิจฉา

"เป็นอย่างนี้นี่เอง!"

"สำนักยาตันร้ายกาจมากๆ เตากลั่นยาวิเศษแบบนี้ กล้ายกให้ชายหนุ่มอย่างป่ายหลี่หลงเซิ่งครอบครอง!"

"สำนักยาตันรวยมากจริงๆ!"

ชายชราคนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"ถ้าเป็นอย่างนี้ โอกาสที่ป่ายหลี่หลงเซิ่งจะชนะก็สูงขึ้นมากๆ!"

"ฉันคิดว่าเด็กหนุ่มของหุบเขาเทพยาต้องแพ้อย่างแน่นอน"ชายชราอีกคนพูดขึ้นมาทันที

"เฮ้อ มันเป็นเรื่องยากมากๆที่จะมีคนกล้าท้าประลองกับสำนักยาตัน แต่ครั้งนี้น่าจะล้มเหลวอีกครั้งแล้ว"

เจียงย่านหรงมองหน้าป่ายหลี่หลงเซิ่งที่แสดงความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอโกรธและพูดอย่างเย็นชา:"เลวทรามต่ำช้า แค่การประลอง ต้องใช้เครื่องรางเทพด้วยเหรอ!"

"ถึงแม้เขาจะชนะ แต่ก็ไม่ได้ชนะอย่างใสสะอาด!"

ทุกคนคิดว่าป่ายหลี่หลงเซิ่งที่มีเครื่องรางเทพอยู่ในมือมีโอกาสชนะมากกว่า แต่มีเพียงซูม่านม่านที่ไม่คิดอย่างนั้น

"หึ พวกโง่ๆทั้งหลาย พวกคุณก็มองแค่เครื่องรางเทพอย่างเดียว ทำไมไม่ลองคิดดู คนที่กล้าท้าประลองกับเจ้าสำนักยาตัน เขาจะแพ้ให้กับลูกชายเจ้าสำนักที่อาศัยพลังของเครื่องรางเทพเหรอ!"

"ถึงแม้เครื่องรางเทพจะมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าคนที่ใช้งานมันมีพลังที่อ่อนแอ ก็ไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของเครื่องรางเทพออกมาได้ ทำอย่างนี้อาจจะทำให้เครื่องรางเทพเสียชื่อเสียงด้วย!"

ป่ายหลี่หลงเซิ่งหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ เขาเริ่มกลั่นยาแล้ว

เขาค่อยๆกลั่นสมุนไพรทีละอย่างๆ จากนั้นก็ใส่มันเข้าไปในขวดยานัตถุ์หยก

หลังจากนั้น เขาก็ผสมสมุนไพรที่กลั่นเอาไว้ทั้งหมดเข้ากัน และค่อยๆให้พวกมันหลอมรวมเข้าด้วยกัน

จากนั้นก็ใช้ไฟบู๊ค่อยๆหลอมรวมพวกมันรวมตัวกัน

ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สุดท้ายแล้วมันคงจะกลั่นยาสำเร็จ

ขั้นตอนการกลั่นยาได้รับการยอมรับของโลกกลั่นยาคือ

อันดับแรกคือกลั่นสมุนไพร อันดับสองคือรวมตัวยา อันดับสามคือกลั่นยาสำเร็จ!

ขั้นตอนการกลั่นยาของป่ายหลี่หลงเซิ่งนั้น พูดได้ว่าธรรมดามากๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย

แต่ขั้นตอนการกลั่นยาของเขานั้นไม่ง่ายเลย ถึงแม้เขาจะอาศัยพลังของเตาสามขาอ้านยวน แต่พลังของเขานั้นไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก

ดอกล้างกระดูกนั้นเป็นสมุนไพรที่ขจัดสิ่งแปลกปลอมในสมุนไพร และมันเป็นสมุนไพรที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างสมุนไพรตัวอื่นๆ

ตอนที่มันขจัดสิ่งแปลกปลอมในหญ้ารวมทิพย์นั้น มันก็จะขจัดพลังชี่ในหญ้ารวมทิพย์บางส่วนออกไป

ถ้าใช้ดอกล้างกระดูกมากจนเกินไป ทำให้ยาเชิญปราณที่กลั่นออกมานั้นมีประสิทธิภาพที่ไม่ค่อยดีนัก

บางที มันอาจจะกลั่นยาไม่สำเร็จด้วยซ้ำ

เมื่อทำแบบนี้ และถูกจับได้ ก็สามารถพูดได้ว่าจำผิด

นี่คือแผนการอันชาญฉลาดของสำนักยาตัน

ถ้าเป็นนักกลั่นยาคนอื่นๆก็คงจะหมดหนทางและจนปัญญา

แต่สำหรับหลินหยุน เขาไม่จำเป็นต้องใช้สมุนไพรเยอะขนาดนั้นเลย

การขจัดสิ่งแปลกปลอมในสมุนไพร แค่ใช้การควบคุมเปลวไฟที่แม่นยำ ก็สามารถทำได้เหมือนกัน

นักกลั่นยาที่ฉลาดจะไม่ยอมให้พลังชี่ที่อยู่ในสมุนไพรสูญเสียแม้แต่นิดเดียว

ทำไมหลินหยุนไม่ยอมขยับตัวนั้น เป็นเพราะเขาไม่อยากขยับตัวต่างหาก

ถ้าจะเอาชนะ ก็ต้องเอาชนะได้อย่างสวยงาม ทำให้ป่ายหลี่หลงเซิ่งกลัวตัวเอง ทำให้ตัวเองกลายเป็นฝันร้ายของเขาตลอดไป

เวลาไหนคือเวลาที่คนเสียใจมากที่สุด?

ไม่ต้องสงสัยเลย มันคือเวลาที่เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะเอาชนะได้ แต่จู่ๆเขากลับพ่ายแพ้ เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆ

ความสิ้นหวังนั้นไม่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือการให้ความหวังคนคนหนึ่ง ในขณะที่เขาพยายามจนใกล้จะสำเร็จ แต่เขากลับพบว่า เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นแค่ความหวังของเขาเพียงคนเดียว มันจะทำให้เขาสิ้นหวังในชีวิตมากๆ

ตอนที่ป่ายหลี่หลงเซิ่งใกล้จะสำเร็จ เขาก็คงจะดีใจมากๆ ในตอนนั้นหลินหยุนก็จะทำให้เขาได้ลิ้มรสจากความสุขมากๆกลายเป็นความสิ้นหวังมากๆ

ผ่านไปไม่นาน ป่ายหลี่หลงเซิ่งกำลังกลั่นยาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และใกล้จะกลั่นยาสำเร็จ

เขาแอบมองหลินหยุน แต่เขากลับพบว่าหลินหยุนยังคงยืนอยู่ที่เดิมและไม่ได้ขยับตัว สมุนไพรที่วางอยู่บนโต๊ะ ก็ยังไม่เคยถูกขยับเลย

"ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะค้นพบแล้วว่าจำนวนของสมุนไพรมีปัญหา เขารู้ตัวดีว่าต้องพ่ายแพ้ เขาก็เลยตัดใจและยอมแพ้"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์