"ฉันไม่สนใจอะไรมากแล้ว ขอแค่ชนะคุณได้ ฉันก็จะมีชื่อเสียงทันที"
"เมื่อฉันได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักยาตันในอนาคต มันก็จะดูสมเหตุสมผล และไม่มีใครกล้าคัดค้านอีก"
เมื่อนึกถึงอนาคตที่สดในของตัวเอง ป่ายหลี่หลงเซิ่งยิ้มด้วยความดีใจจนลืมตัว จนเกือบจะควบคุมเปลวไฟไว้ไม่อยู่
"……ห้ามคิดฟุ้งซ่านอีก"
ป่ายหลี่หลงเซิ่งตกใจมากๆ เขารีบรวบรวมสมาธิและเริ่มกลั่นยาต่อ
จนกระทั่งป่ายหลี่หลงเซิ่งใกล้จะกลั่นยาสำเร็จ
จู่ๆหลินหยุนก็ขยับตัวทันที
เขาสะบัดมือ สมุนไพรทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะก็บินวนอยู่กลางอากาศ
จากนั้นเขาก็ยืนมือออกมา ก็มีเปลวไฟพุ่งออกมาและห่อหุ้มสมุนไพรพวกนั้นเอาไว้
"นักกลั่นยาตัวจริง ไม่ต้องใช้เตากลั่นยาอยู่แล้ว!"
เมื่อเขาพูดจบ ยาก็ได้กลั่นสำเร็จแล้ว
มีโอสถเม็ดหนึ่งเปล่งแสงจางๆออกมา กลิ่นหอมของโอสถพุ่งกระจายไปทั่วทิศ และโอสถเม็ดนั้นก็หมุดตัวอยู่กลางอากาศ
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงทันที
ทั้งสนามแข่งขันเงียบสงัดทันที
ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่กำลังถึงขั้นตอนสุดท้ายของการกลั่นยา และใกล้จะกลั่นยาสำเร็จ จู่ๆเขาก็ได้กลิ่นหอมของยาโอสถ และเขาก็เหลือบมองไปที่หลินหยุนทันที
จากนั้นป่ายหลี่หลงเซิ่งก็อึ้งไปเลย สีหน้าของเขาเขียวจนน่ากลัว
เขาสูญเสียพลังไปมาก จนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะกลั่นยาสำเร็จ ตอนนี้มีเสียงเคร้งดังขึ้นแล้วมันก็ตกลงที่พื้น
ป่ายหลี่หลงเซิ่งกลั่นยาล้มเหลวแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาเลย
ผู้ตัดสินทั้งหมดที่อยู่ด้านบน ตอนนี้พวกเขายืนขึ้นมาพร้อมกัน และมองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าตกใจ
ผ่านไปสักพัก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูด
น้ำเสียเบาๆของหลินหยุนค่อยๆดังขึ้น:"ประกาศผลแพ้ชนะได้หรือยัง!"
น้ำเสียงนี้ ทำให้ทุกคนที่ตกตะลึงด้วยความตกใจ ได้สติคืนมาทันที
จากนั้นก็เกิดเสียงวุ่นวายขึ้น
"โอ้พระเจ้า! ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม! เขากลั่นยาได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"โอ้พระเจ้า คุณล้อเล่นกับพวกเราอยู่ใช่ไหม! พี่ชายช่วยหยิกหน้าฉันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตัวเองฝันอยู่หรือเปล่า!"
"ใช่แน่ๆเลย วันนี้ฉันเปิดประตูผิดด้านแน่นอน เดี๋ยวฉันกลับไป จะเปิดประตูใหม่อีกหนึ่งครั้ง!"
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง พวกเขาคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
นอกจากนี้ พวกเขาคิดว่าวิชาการกลั่นยาที่ตัวเองฝึกฝนมาหลายสิบปี แต่วันนี้เมื่อเห็นวิธีกลั่นยาของหลินหยุน พวกเขารู้สึกว่าวิชาการกลั่นยาที่ตัวเองร่ำเรียนมานั้น มันเป็นวิชาการกลั่นยาที่ปลอมมากๆ
เมื่อเทียบกับวิธีกลั่นยาของคนอื่นๆ พวกเขาแต่งต่างกันมากๆ ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ร่างกายของผู้ตัดสินแซ่กู่สั่นไหวไปหมด และน้ำเสียงของเขาก็สั่นไปหมด:"สะบัดมือมันก็มาทันที! สะบัดมือก็มาทันที! นี่มันคือสะบัดมือก็มาทันที!"
"แม้แต่นักกลั่นยาระดับเทพที่อยู่ในตำนานก็ทำไม่ได้ คนที่ทำได้ต้องอยู่ระดับสูงกว่านั้นอีก!"
"เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกศิษย์ของใครกันแน่!"
"หุบเขาเทพยาสอนลูกศิษย์ที่เก่งกาจขนาดนี้ได้ยังไง!"
สีหน้าของผู้ตัดสินเหล่านั้นเคร่งขรึมทันที สายตาที่พวกเขามองหลินหยุน ไม่สามารถใช้คำว่าตกตะลึงมาอธิบายได้ ตอนนี้สายตาของพวกเขามีเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความเคารพเท่านั้น
ผู้ตัดสินแซ่กู่หัวเราะด้วยความขมขื่น:"เดิมทีฉันอยากจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ และสอนวิชากลั่นยาทั้งหมดของตัวเองให้เขา และให้เขาเป็นผู้สืบทอดวิชากลั่นยาของฉัน"
"ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันประเมินตัวเองสูงเกินไป วิชากลั่นยาของฉันเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา มันคงไม่มีค่าอะไรเลย!"
เรื่องนี้ทำให้ผู้ตัดสินแซ่กู่กระทบจิตใจมากๆ แต่เขาก็รู้สึกดีใจมากๆเช่นกัน
"อย่างไรก็ตาม การได้เห็นวิชากลั่นยาที่สุดยอดขนาดนี้ ก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ……"
ท่าทางของผู้ตัดสินแซ่กู่ดูบ้าคลั่ง เห็นได้อย่างชัดเจน เขาเป็นคนประเภทเดียวกับโม่จือมิ่ง เขาเป็นนักกลั่นยาที่บ้าคลั่งเรื่องโอสถจริงๆ
สีหน้าของป่ายหลี่เถ่เย็นชาขึ้นมาทันที ถึงแม้สีหน้าของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่จิตใจของเขาสั่นไหวมากๆ และตกตะลึงไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆเลย
ป่ายหลี่เถ่คือนักกลั่นยาที่เก่งกาจที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เป็นเพราะเขาเป็นนักกลั่นยาที่เก่งที่สุด ทำให้ป่ายหลี่เถ่รู้ว่าวิธีกลั่นยาของหลินหยุนนั่นยากแค่ไหน
ในสายตาของเขา วิธีนั้นไม่ใช่ฝีมือที่มนุษย์สามารถทำได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...