หลังจากตามซูม่านม่านไปจนได้รับบันทึกเตากลั่นยากลับคืนมา หลินหยุนและโม่จือมิ่งก็ได้กลับออกไปจากเมืองตันโจว
โม่จือมิ่งต้องขอบคุณหลินหยุนเป็นธรรมดา
หลินหยุนมองไปที่บันทึกเตากลั่นยาที่เป็นสมบัติล้ำค่าของหุบเขาเทพยา ที่แท้ นี่เป็นสมุดภาพเล่มหนึ่งที่บันทึกโอสถและเตากลั่นยาเอาไว้มากมาย
แต่ว่า โอสถและเตากลั่นยาที่ถูกบันทึกไว้ในนี้ ล้วนเป็นของที่ค่อนข้างหายากทั้งนั้น
ในโลกบู๊ โอสถและเตากลั่นยาเหล่านี้ที่บันทึกอยู่ในบันทึกเตากลั่นยา เป็นสิ่งที่พบเห็นได้น้อยมาก
มิน่าล่ะ ป่ายหลี่เถ่ถึงอยากครอบครองบันทึกเตากลั่นยาไว้เอง บันทึกเตากลั่นยาเล่มนี้ คือบันทึกลายแทงสมบัติล้ำค่านี่เอง
เมื่อมีบันทึกเตากลั่นยา ก็สามารถหาสมบัติล้ำค่าในโลกกลั่นยาได้มากขึ้น
เตาสามขาอ้านยวนอันนั้นที่อยู่ในมือของป่ายหลี่หลงเซิ่ง ไม่แน่อาจหาที่ซ่อนจากบันทึกเตากลั่นยาเล่มนี้ก็ได้
โม่จือมิ่งเอ่ย : “ปรมาจารย์หลิน ถ้าหากคุณสนใจบันทึกเตากลั่นยาเล่มนี้ ผมมอบมันให้คุณได้นะ”
“ยังไงซะ นี่ก็เป็นสิ่งที่คุณชนะจนเอากลับคืนมาได้!”
หลินหยุนปฏิเสธ
สิ่งของที่อยู่ในบันทึกเตากลั่นยา ไม่มีประโยชน์สำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย
ของในโลกบู๊เหล่านี้ สำหรับนักกลั่นยา อาจเป็นสมบัติล้ำค่า แต่สำหรับหลินหยุน มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เมื่อกลับออกมาจากเมืองตันโจว โม่จือมิ่งได้กลับไปยังหุบเขาเทพยา
ส่วนหลินหยุนก็ได้กลับไปยังคฤหาสน์เย่หยาหู
การไปหมู่บ้านตันโจวครั้งนี้ ได้พบยาเสริมอีกสองชนิดที่เอาไว้ทำยากลั่นทิพย์เพลิงม่วง ตอนนี้ หลินหยุนสามารถทำยากลั่นทิพย์เพลิงม่วงได้แล้ว
มีโอสถชนิดนี้ ทำให้หลินหยุนไม่จำเป็นต้องไปตามหาเพลิงไฟใต้ดินอีก สามารถกลั่นตัวอ่อนยาจางได้เลย
หลินหยุนกลับไปที่ห้อง แล้วสร้างค่ายกลป้องกันขึ้นมา จากนั้นได้เริ่มทำยากลั่นทิพย์เพลิงม่วง
ยากลั่นทิพย์เพลิงม่วงในโลกบำเพ็ญเซียน จัดเป็นโอสถชั้นกลาง ถึงแม้ตอนนี้พลังของหลินหยุนยังไม่ถึงระยะยาทอง แต่การกลั่นโอสถชนิดนี้ ยังถือว่าสบายมาก
เพียงแค่หนึ่งชั่วโมง โอสถโปร่งแสงส่องประกายสีม่วงเรืองรองเม็ดหนึ่ง ได้หมุนเป็นวงกลมอยู่กลางอากาศ
ตรงกลางโอสถ มีเปลวไฟสีม่วงเล็ก ๆ ลอยไปมา
หลินหยุนมองไปที่โอสถนั่น แล้วเผยรอยยิ้มออกมา : “สำเร็จแล้ว ยากลั่นทิพย์เพลิงม่วง!”
หลินหยุนเก็บโอสถไว้ในขวดหยก แล้วปรับลมหายใจ เพื่อให้พลังกลับสู่สภาพสูงสุดเหมือนเดิม
จากนั้น หลินหยุนไปกลืนยากลั่นทิพย์เพลิงม่วงเม็ดนั้นเข้าไป แล้วเริ่มสร้างตัวอ่อนยาจาง
ยากลั่นทิพย์เพลิงม่วง เป็นยาหลักของหญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิง
มังกรคบเพลิง เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียง สามารถจินตนาการได้ว่า พลังของมันไม่ธรรมดาแน่นอน
ในตำนาน เมื่อมังกรคบเพลิงลืมตาขึ้นมาพระอาทิตย์ก็ขึ้น เมื่อหลับตาพระอาทิตย์ก็ตก เป็นสัตว์เทพที่คอยควบคุมเวลา
ยาเผาจิตมังกรคบเพลิง เป็นยาชั้นดีที่กำจัดสิ่งสกปรกในชี่ทิพย์ออกไป
แต่ว่า ยาเผาจิตมังกรคบเพลิงไม่สามารถใช้เดี่ยว ๆ ได้ เพราะสมุนไพรชนิดนี้เติบโตในที่ที่มังกรคบเพลิงหายใจ จึงเต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งจากมังกรคบเพลิง
ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญเซียนระยะยาทอง ก็จะถูกพลังที่แฝงอยู่ในยาเผาจิตมังกรคบเพลิงแผดเผาจนมอดไหม้
ดังนั้น จำเป็นต้องใช้สมุนไพรตัวอื่นมาใช้ร่วมด้วย
ยากลั่นทิพย์เพลิงม่วงได้ถูกกินเข้าไปแล้ว ธาตุไฟอันแข็งแกร่งได้เริ่มทำลายร่างกายของหลินหยุนทันที
หลินหยุนไม่รีรอ ได้รีบผนึกพลังนั้นไว้ที่เส้นลมปราณทันที แล้วกลั่นสิ่งสกปรกในชี่ทิพย์ออกมา ทำให้ชี่ทิพย์ที่อยู่ในร่างกายบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
สุดท้าย พลังของยากลั่นทิพย์เพลิงม่วง ได้เข้าไปในตันเถียนของหลินหยุน แล้วเริ่มกลั่นตัวอ่อนยาจางที่อยู่ในตันเถียน
ยากลั่นทิพย์เพลิงม่วงเป็นเหมือนเตาไฟอันหนึ่ง ส่วนตัวอ่อนยาจางเป็นเหมือนเหล็กหล่อที่อยู่ในเตาไฟ จำเป็นต้องหล่อหลอมอย่างต่อเนื่อง ถึงจะสร้างอาวุธที่ไร้เทียมทานออกมาได้
หลินหยุนมองไปยังที่กลั่นตัวอ่อนยาจางภายในคฤหาสน์เยว่โหลว และตอนนี้ หน้าสำนักแห่งหนึ่งในโลกบู๊โบราณ ณ ดินแดนอูซู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...