ลูกศิษย์สำนักพยัคฆ์ทั้งหมด ต่างมองหลินซื่อเฉิงด้วยความตกใจ
ชายชราผู้นี้ดูท่าทางโง่ ๆ ซื่อ ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า พลังจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
แม้ว่าพลังของชายหนุ่มเหล่านี้ สู้หลินซื่อเฉิงไม่ได้ แต่พวกเขาก็เป็นนักบู๊แดนพรสวรรค์
นักบู๊แดนพรสวรรค์เจ็ดแปดคนรวมตัวกัน ขอแค่อีกฝ่ายไม่ใช่ระดับปรมาจารย์ หากต้องการเอาชนะพวกเรา อย่างน้อยก็ต้องลงมือเป็นร้อยกระบวนท่า
แต่หลินซื่อเฉิงใช้เพียงท่าเดีย พวกเขาทั้งหมดก็ลอยกระเด็นออก
เห็นได้ชัดว่า ชายชราที่ค่อนข้างแปลกประหลาดคนนี้ อาจจะเป็นผู้สูงส่งที่ไม่เปิดเผยตัวตนก็ได้
หลินซื่อเฉิงมองไปยังชายหนุ่มเหล่านั้นที่มีสีหน้าระแวง แล้วหัวเราะพลางเอ่ย : “ทุกท่าน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ตอนนี้เรียกอาจารย์ของพวกนายออกมาได้หรือยัง?”
ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้า ได้หันไปพูดกับลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง : “แกรีบไปบอกอาจารย์ ว่ามีคนมาหาเรื่อง!”
หลินซื่อเฉิงตกใจ รีบอธิบาย : “ช้าก่อน ฉันไม่ได้มาหาเรื่องจริง ๆ นะ ฉันก็แค่อยากมาหาอาจารย์พวกนายฝึกฝนแลกเปลี่ยนวิชากันหน่อย!”
ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าที่ถมึงทึงอยู่นั้นได้ดูดุดันมากยิ่งขึ้น : “รีบไปบอกสิ!”
“ครับ!” ชายหนุ่มคนนั้นรีบวิ่งไปทันที
หลินซื่อเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ : “เฮ้อ ฉันไม่ได้มาหาเรื่องจริง ๆ นะ!”
ไม่นาน จางเฮยหู่ เจ้าสำนักแห่งสำนักพยัคฆ์ ก็ได้พาลูกศิษย์อีกหลายคนเดินออกมา
จางเฮยหู่เป็นพวกพรานป่า สภาพครอบครัวตอนเด็กไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ แต่ได้รับโอกาสโดยบังเอิญ เพราะช่วยเหลือนักบู๊ที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งเอาไว้
นักบู๊คนนั้นต้องการขอบคุณ จึงได้บอกวิชาเพลงบู๊ให้กับจางเฮยหู่
แต่ว่า ไม่ได้แนะนำเขา
จางเฮยหู่มีความเพียรพยายาม ศึกษาวิชาเพลงบู๊นั้นด้วยตัวเอง จนประสบความสำเร็จ
และความสามารถของจางเฮยหู่ก็ไม่ธรรมดาเลย สี่สิบปีก็กลายเป็นนักบู๊ระดับปรมาจารย์แล้ว หลังจากนั้นยี่สิบปี ได้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น กลายเป็นปรมาจารย์แดนพรแสวง
จางเฮยหู่มองไปที่หลินซื่อเฉิง แล้วเผยสีหน้าเหยียดหยามออกมา พลางเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา : “แกเป็นนักบู๊ที่ยังไม่เข้าขั้นเลยด้วยซ้ำ กลับกล้ามาปากดีท้าทายฉัน!”
“ไม่รู้จักประเมินตัวเองซะเลย!”
หลินซื่อเฉิงหัวเราะพลางเอ่ย : “คุณอย่าเพิ่งโกรธ ฉันไม่ได้อยากมาท้าทายนาย แค่อยากมาฝึกฝนกับนาย เพื่อลองดูว่าตอนนี้พลังของฉันอยู่ในระดับไหนแล้ว”
ได้ยินดังนั้น จางเฮยหู่ก็โกรธจัด : “เหอะ แกกล้าเห็นฉันเป็นตัวทดสอบงั้นเหรอ หาเรื่องตาย!”
พูดจบ จางเฮยหู่ก็ลงมือทันที
พลังของหลินซื่อเฉิง ตอนนี้อยู่ระดับพรสวรรค์สูงสุด ถ้าหากปะทะกับนักบู๊ระดับปรมาจารย์ น่าจะสามารถต้านทานไว้ได้ชั่วคราว
แต่ว่า จางเฮยหู่เป็นปรมาจารย์แดนพรแสวงแล้ว อีกทั้งลงมือด้วยความโมโห นายท่านหลินได้ลงมือไปเพียงสิบกระบวนท่า ก็ถูกจางเฮยหู่กระแทกหมัดใส่หน้าอก
หลินซื่อเฉิง เลือดลมภายในพลุ่งพล่านปั่นป่วน เห็นจางเฮยหู่จะกระแทกใส่อีกหมัด จึงรีบตะโกนออกไปว่า : “หยุด!”
จางเฮยหู่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เป็นโอกาสดีที่จะเอาชนะหลินซื่อเฉิงได้ จึงไม่มีทางหยุดมือ
ปึก!
อีกหนึ่งหมัด กระแทกเข้าใส่หน้าอกของหลินซื่อเฉิงอย่างจัง จนทำให้หลินซื่อเฉิงกระอักเลือดกระเด็นออกไป
ส่วนจางเฮยหู่นั้น เห็นได้ชัดว่าต้องการเอาชีวิตของหลินซื่อเฉิง จึงจะกระแทกเข้ามาอีกหมัด
คราวนี้หลินซื่อเฉิงกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ก่อนหน้านี้หลินหยุนเคยบอกไว้ว่าโลกบู๊อันตรายมาก โหดร้ายมาก แต่เขายังไม่เชื่อ คิดว่าหลินหยุนเพียงแค่ขู่เขาเท่านั้น
แต่ตอนนี้ ได้เห็นว่าจางเฮยหู่ต้องการเอาชีวิตเขา นายท่านหลินจึงเข้าใจถึงความโหดร้ายแห่งโลกบู๊ได้จริง ๆ สักที
“อ๊า!”
หลินซื่อเฉิงใช้พลังที่เหลืออยู่ทั้งหมด กระแทกหมัดออกไป จากนั้น ตัวเขาก็กระเด็ดออกไปอีกครั้ง
แต่หลินซื่อเฉิงรีบฉวยโอกาสตอนได้รับแรงกระแทก หลบหนีไปอย่างสะบักสะบอม
ยังไงก็เป็นวิชาของโลกบำเพ็ญเซียน ทำให้พลังของหลินซื่อเฉิง ห่างชั้นกับนักบู๊คนอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน จึงหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว
จางเฮยหู่ไม่ได้คิดจะฆ่าให้สิ้นซาก เมื่อเห็นหลินซื่อเฉิงหนีไปอย่างรวดเร็ว ก็ไม่คิดจะตามเขาไป
“เหอะ ไม่เจียมตัว!”
พูดจบ ก็ได้พาลูกศิษย์กลับไปที่ประตู
สำหรับพลังของหลินหยุน ตระกูลหลินทุกคนต่างรู้กันดี
ตอนนี้ ฐานะของหลินหยุนในตระกูลหลิน ได้เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าพลิกดินมานานแล้ว
เมื่อเห็นหลินหยุนกลับมา ลุงหลินตงถิงได้นำทุกคนในตระกูล ก้มหัวให้กับหลินหยุน
ต่อให้เป็นหลินซื่อเฉิงที่เป็นผู้นำตระกูล รวมถึงผู้อาวุโสทั้งสี่แห่งตระกูลหลิน ก็ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน
หลินโล่เฉินและคนอื่น ๆ ถึงแม้ไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เมื่อนึกถึงภาพตอนนั้นที่หลินหยุนฆ่าเยนหนานเทียน พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น
ยังมีพวกอายุน้อยในตระกูลหลินอีกจำนวนหนึ่ง เช่น หลินโร่สุ่ย ต่างก็เลื่อมใสศรัทธาหลินหยุนมาก
สายตาที่พวกเขามองหลินหยุน ตื่นเต้นยิ่งกว่าเห็นไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบเสียอีก
สายตาของหลินหยุน ไม่ได้สนใจผู้คนในห้องรับแขกเลยแม้แต่น้อย เขาได้มองไปที่หลินตงถิง : “คุณปู่เป็นยังไงบ้าง?”
หลินตงถิงเอ่ย : “อาการไม่ค่อยดีนัก นายรีบไปดูเถอะ!”
พูดจบ หลินตงถิงได้เดินนำไป แล้วพาหลินหยุนมาที่ห้องของคุณปู่หลินซื่อเฉิง
ภายในห้อง หลินโร่หลันกำลังดูแลคุณปู่หลินซื่อเฉิงอยู่ คุณปู่กำลังนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าแดงก่ำ
เมื่อเห็นหลินหยุน ใบหน้าอันงดงามของหลินโร่หลันดูไม่ค่อยเป็นปกตินัก
ที่ผ่านมาก เธอถูกเลี้ยงแบบไข่ในหินและเป็นคนที่เย่อหยิ่งสุดในตระกูลหลิน รองจากหลินโล่เฉิน
ทั้งยังได้แฟนเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ หลินหยุนเป็นคนที่เธอดูถูกมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ คนที่เธอดูถูกดูแคลนมากที่สุดคนนั้น ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก กลายเป็นคนสูงส่งที่เธอไม่อาจแตะต้องได้
ความรู้สึกแย่ ๆ แบบนี้ แม้จะผ่านไปนานแล้ว แต่หลินโร่หลันก็ยังไม่ชินอยู่ดี
แม้ว่าเธอจะปลอบใจตัวเองไม่หยุด แต่เมื่อได้พบกับหลินหยุน เธอก็ยังคงไม่สามารถเผชิญหน้าและไม่รู้สึกสะทกสะท้านได้
หลินโร่หลันลุกขึ้น แล้วทำความเคารพหลินตงถิง จากนั้นเดินออกไปเงียบ ๆ โดยไม่เอ่ยพูดอะไร
หลินหยุนก็ไม่ได้สนใจเธอ เขาเดินตรงไปที่เตียงของหลินซื่อเฉิง ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง แล้ววางอยู่เหนือหน้าผากของหลินซื่อเฉิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...