สรุปเนื้อหา บทที่ 936 สังหารมังกรสังหารเสือสังหารพิภพ – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 936 สังหารมังกรสังหารเสือสังหารพิภพ ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
คนกลุ่มหนึ่ง ยืนอยู่บริเวณตรงกลางที่โล่งกว้างของคฤหัสถ์ ขวางทางเดินของหลินหยุนและหลินซื่อเฉิงไว้
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มนั้น รูปร่างเตี้ยล่ำ ผิวหน้าสีดำคล้ำ ก็คือเซินถู
มีหญิงสาวชุดแดงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเซินถู
เมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นแล้ว สายตาของหลินหยุนสั่นไหวเล็กน้อย
หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นหลินหยุนแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจ จากนั้นสายตาก็แสดงความดีใจเล็กน้อยออกมา
หญิงสาวคนนี้ก็คือเจียงย่านหรง คนที่เคยช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหลินหยุนในงานประลองกลั่นยาครั้งนั้น
“แกก็คือเจ้าบ้านตระกูลหลินเหรอ?” เซินถูมองดูหลินซื่อเฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ใช่” หลินซื่อเฉิงพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
แต่ว่าเซินถูกลับส่ายหน้า: “ไม่ใช่แล้ว ด้วยพลังความสามารถของแก เป็นไปได้ยังไงที่จะฆ่าเจ้าเจ็ดได้?”
ขอพูดจบ สายตาของเซินถูก็มองไปยังหลินหยุน
แต่ว่า ในสายตาเขา หลินหยุนเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีแม้แต่ ไม่มีการสั่นไหวของซี่แท้เลยแม้แต่นิดเดียว
“บอกมา ใครเป็นคนฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดของตระกูลเซินเรา?” เซินถูพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “ฉันเป็นคนฆ่าเอง”
“เป็นไปไม่ได้!” เซินถูตะคอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกคิดว่าผู้อาวุโสของตระกูลเซินเรา ไม่ว่าใครก็สามารถจะฆ่าได้งั้นเหรอ?”
“พละกำลังของแกก็เพียงแค่ปรมาจารย์ระดับใหญ่เท่านั้นเอง พลังความสามารถของผู้อาวุโสเจ็ด ยังแข็งแกร่งกว่าแกเสียอีก แกไม่มีทางที่จะฆ่าเขาได้หรอก!”
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “ถ้าแกคิดว่าการตายของผู้อาวุโสเจ็ดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลินเรา แล้วทำไมแกถึงต้องจับลูกหลานตระกูลหลินเรามาด้วยล่ะ?”
เซินถูทำเสียงฮื่อใส่ “แกไม่สามารถฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดได้หรอก แต่ว่าฉันได้สืบแน่ชัดแล้วว่า ผู้อาวุโสเจ็ดตายด้วยน้ำมือของคนตระกูลหลินพวกแก”
“มอบผู้ร้ายตัวจริงออกมา ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันจะถล่มตระกูลหลินพวกแกให้ย่อยยับไปเลย”
เวลานี้เอง เจียงย่านหรงที่ยืนอยู่ข้างหลังเซินถู พูดขึ้นกะทันหันว่า “คุณอาคะ นี่อาจจะเป็นการเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
เซินถูพูดว่า “ไม่ได้เข้าใจผิดหรอก ฉันสืบมาแน่ชัดแล้วว่า เป็นฝีมือของคนตระกูลหลินจริงๆ”
เจียงย่านหรงขมวดคิ้ว เธอคิดอยากช่วยพูดแก้ตัวให้ตระกูลหลินพ้นผิด แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี
หลินซื่อเฉิงพูดอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันเป็นคนฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดของพวกแก นี่เป็นฝีมือของฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลหลินเลย แกก็ปล่อยลูกหลานตระกูลหลินที่แกจับมาก่อนเถอะ!”
เซินถูพูดเยาะเย้ยว่า “ในเมื่อแกยืนยันที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้เพียงคนเดียว งั้นฉันก็จะให้แกสมดั่งใจหมาย”
“ถ้าเอาชนะฉันได้ หญิงสาวคนนั้นฉันก็จะปล่อยเธอกลับไปเอง”
หลินซื่อเฉิงรู้อยู่แล้วว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้กัน จึงยกมือขึ้นคารวะแล้วพูดว่า “เชิญ!”
ชายชรารูปร่างผอมบางคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเซินถู ก็เดินออกมารับคำท้า “เจ้าบ้านครับ ฆ่าไก่ไหนเลยต้องใช้มีดอีโต้ฆ่าวัว? ให้ฉันรับมือกับเจ้าบ้านหลินคนนี้ก่อนเถอะ!”
เซินถูพูดว่า “ผู้อาวุโสห้าอย่าได้ประมาทเชียว!”
“เจ้าบ้านโปรดวางใจ แค่ปรมาจารย์ระดับใหญ่เท่านั้นเอง ไม่เกินสิบกระบวนเพลง ฉันต้องเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสห้าก็มายืนอยู่ตรงหน้าหลินซื่อเฉิงในระยะห่างออกไปราวห้าเมตร พูดเยาะเย้ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งว่า “เจ้าบ้านหลิน คิดจะท้าประลองกับเจ้าบ้านพวกเรา ต้องผ่านด่านฉันไปก่อนแล้วค่อยมาว่ากันดีกว่านะ!”
หลินซื่อเฉิงกลับไม่ได้แยแสอะไร ในสายตาของเขาแล้ว จะสู้กับใครก็ได้กันทั้งนั้น
“เชิญ!”
ผู้อาวุโสห้าก็เริ่มลงมือก่อน ดีดตัวกระโดดขึ้น แล้วกระโจนใส่หลินซื่อเฉิง
ความเร็วของผู้อาวุโสห้าว่องไวมาก ก็เหมือนกับลิงตัวหนึ่ง ความเร็วที่ว่องไวนั้น ทำให้มองเห็นเป็นแค่เงาจางแวบผ่านเท่านั้น
หลินซื่อเฉิงเคยมีประสบการณ์การต่อสู้มาก่อนแล้ว ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ปกป้องร่างกายอย่างไม่ให้มีช่องว่างหลงเหลืออยู่เลย จนผู้อาวุโสห้าไม่สามารถฉวยโอกาสโจมตีได้
หลินหยุนยืนดูอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยมาโดยตลอด
พละกำลังของผู้อาวุโสห้าถึงแม้เป็นปรมาจารย์ชั้นสูงสุดแล้วก็ตาม แต่ว่าน่าจะด้อยกว่าหลินซื่อเฉิงเล็กน้อย อาจไม่แน่เริ่มแรกหลินซื่อเฉิงจะถูกความเร็วของฝ่ายตรงข้าม จู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ได้
แต่ว่าหลังจากสามกระบวนท่าผ่านไปแล้ว หลินซื่อเฉิงก็จะต้องเปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกอย่างแน่นอน สุดท้ายแล้วก็จะสามารถเอาชนะผู้อาวุโสห้าได้
ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หลินหยุนได้คาดคิดไว้ก่อนแล้ว ทั้งสองคนประมือกันเพียงแค่สิบกระบวนท่าเท่านั้น
แต่ว่าหลังจากผ่านไปสิบขบวนท่าแล้ว ผู้อาวุโสห้าก็พ่ายแพ้ไป
“เจ้าบ้านครับ ขอโทษครับ ฉันทำให้ตระกูลเซินต้องขายหน้าแล้ว” อาวุโสห้าเอามือปิดตรงหน้าอกไว้ พูดด้วยสีหน้าละอายใจ
สายตาของเซินถูก็ส่องประกายความเหยียดหยาม แต่ว่ากลับพูดอย่างสวยงามมาก “แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของการต่อสู้ ผู้อาวุโสห้าอย่าได้เอามาใส่ใจเลย!”
“คราวนี้ ก็ให้ฉันมาลองดูพละกำลังของตระกูลหลินบ้าง”
“เชิญ!”
เซินถูก็ก้าวเท้าออกไป ชกหมัดออกไปอย่างแรง
“สังหารมังกร!”
เซินถูมีวิทยายุทธ์ที่ทำให้เขาสามารถมีชื่อเสียงโด่งดังได้ ชื่อว่าสามสังหาร
แน่นอนที่ว่า คิดจะสังหารยอดฝีมือทั้งหมดในพิภพนี้ เพียงแค่อาศัยความก้าวร้าวรุนแรงย่อมไม่เพียงพอ จะต้องมีพละกำลังที่แข็งแกร่งเพียงพออีกด้วย
กระบวนท่าหมัดนี้ เมื่อเทียบกับกระบวนท่าทั้งสองก่อนหน้านั้นรวมกันแล้ว ก็ยังแข็งแกร่งกว่าอีกด้วยซ้ำไป
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อยๆยกมือข้างหนึ่งขึ้น ผนึกพลังทิพย์ไว้เต็มฝ่ามือ พร้อมที่จะโจมตีออกไปอยู่ตลอดเวลา เพื่อรับหมัดนี้แทนหลินซื่อเฉิง
แต่ว่า หลินหยุนก็ยังไม่ได้ลงมือเลย ถึงแม้เขารู้ว่าหลินซื่อเฉิงไม่สามารถที่จะรับหมัดนี้ไว้ได้ก็ตาม
อีกทั้ง ยังเป็นไปได้ที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
แต่ว่าหลินหยุนก็ยังไม่ยอมลงมือ
เขาหวังว่า ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้ สามารถทำให้หลินซื่อเฉิงหยั่งรู้ถึงท่าที่สองของสามท่าต้าเต๋าได้
ขอเพียงได้หยั่งรู้ท่าที่สองของสามท่าต้าเต๋าแล้ว ถึงแม้ว่ายังไม่สามารถเอาชนะเซินถูได้ก็ตาม แต่ว่าก็สามารถต้านทานหมัดนี้ไว้ได้
หลินซื่อเฉิงก็รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของกระบวนท่าหมัดนี้ ใบหน้าที่เดิมทีแลดูใจดีมีเมตตา ถึงกับเปลี่ยนเป็นดุร้ายเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าหมัดทรงพลังรุนแรงนั้น กำลังจะใกล้ถึงตัวแล้ว หลินซื่อเฉิงก็เริ่มสั่นไปหมดทั้งตัว
ปลายนิ้วของหลินหยุน ก็เริ่มมีประกายแสงแวบขึ้น พลังทิพย์ที่หนาแน่น ดูเหมือนจะอดรนทนไม่ไหวอีกแล้ว
ในขณะที่หลินหยุนอดทนไม่ไหวแล้ว และกำลังจะลงมือนั้น จู่ๆภายในร่างของหลินซื่อเฉิงก็มีกลิ่นอายที่แปลกประหลาดแผ่ซ่านออกมา
น้ำเสียงของคนชราก็ตะโกนเสียงดังออกมาว่า “ท่าแยกน้ำ!”
มือทั้งสองข้างของหลินซื่อเฉิง ก็ค่อยๆขีดเป็นเส้นแนวขวางเส้นหนึ่งขึ้นมา
ก็เหมือนใช้มือเขียนเลขหนึ่งตามแนวนอน‘——’
แต่ว่า เลขหนึ่งแนวขวางนี้กลับเหมือนเป็นกำแพงขวางกั้น เป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวอย่างไม่ขาดสาย
หลินหยุนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย กระบวนท่าแยกน้ำนี้ไม่เหมือนกับที่เขาเคยถ่ายทอดให้เลย
ท่าแยกน้ำ เน้นในการปลดปล่อยพละกำลังและความเร็วให้มากที่สุด เร็วที่สุดจนสามารถตัดสายน้ำให้ขาดจากกันได้
แต่ว่า ท่าแยกน้ำที่หลินซื่อเฉิงชกออกไปนั้น ดูเหมือนว่าเป็นการสวนทางกับความหมายเดิมของเขา
ช้ามาก แต่มั่นคงมาก ราวกับเป็นกำแพงที่ขวางกั้นไว้
แต่ว่า กลับแข็งแกร่งมาก
กระบวนท่าแยกน้ำนี้ ไม่มีพละกำลังที่เร็วถึงขีดสูงสุด แต่ว่ายั่งยืนราวกับไม่มีวันสิ้นสุด ราวกับกระแสคลื่นแม่น้ำที่โหมกระหน่ำอย่างไม่ขาดสาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าแม่น้ำสายใหญ่นี้ ล้วนไหลตามกระแสน้ำไปจนหมดสิ้น
กระบวนท่าหมัดที่แข็งแกร่งรุนแรงของเซินถูนั้น ก็ถูกกระแสคลื่นแรงของสายน้ำที่ไหลไม่ขาดสายนั้น กลืนกิน หลอมละลาย จากนั้นก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...