คนกลุ่มหนึ่ง ยืนอยู่บริเวณตรงกลางที่โล่งกว้างของคฤหัสถ์ ขวางทางเดินของหลินหยุนและหลินซื่อเฉิงไว้
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มนั้น รูปร่างเตี้ยล่ำ ผิวหน้าสีดำคล้ำ ก็คือเซินถู
มีหญิงสาวชุดแดงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเซินถู
เมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นแล้ว สายตาของหลินหยุนสั่นไหวเล็กน้อย
หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นหลินหยุนแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจ จากนั้นสายตาก็แสดงความดีใจเล็กน้อยออกมา
หญิงสาวคนนี้ก็คือเจียงย่านหรง คนที่เคยช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหลินหยุนในงานประลองกลั่นยาครั้งนั้น
“แกก็คือเจ้าบ้านตระกูลหลินเหรอ?” เซินถูมองดูหลินซื่อเฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ใช่” หลินซื่อเฉิงพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
แต่ว่าเซินถูกลับส่ายหน้า: “ไม่ใช่แล้ว ด้วยพลังความสามารถของแก เป็นไปได้ยังไงที่จะฆ่าเจ้าเจ็ดได้?”
ขอพูดจบ สายตาของเซินถูก็มองไปยังหลินหยุน
แต่ว่า ในสายตาเขา หลินหยุนเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีแม้แต่ ไม่มีการสั่นไหวของซี่แท้เลยแม้แต่นิดเดียว
“บอกมา ใครเป็นคนฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดของตระกูลเซินเรา?” เซินถูพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “ฉันเป็นคนฆ่าเอง”
“เป็นไปไม่ได้!” เซินถูตะคอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกคิดว่าผู้อาวุโสของตระกูลเซินเรา ไม่ว่าใครก็สามารถจะฆ่าได้งั้นเหรอ?”
“พละกำลังของแกก็เพียงแค่ปรมาจารย์ระดับใหญ่เท่านั้นเอง พลังความสามารถของผู้อาวุโสเจ็ด ยังแข็งแกร่งกว่าแกเสียอีก แกไม่มีทางที่จะฆ่าเขาได้หรอก!”
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “ถ้าแกคิดว่าการตายของผู้อาวุโสเจ็ดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลินเรา แล้วทำไมแกถึงต้องจับลูกหลานตระกูลหลินเรามาด้วยล่ะ?”
เซินถูทำเสียงฮื่อใส่ “แกไม่สามารถฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดได้หรอก แต่ว่าฉันได้สืบแน่ชัดแล้วว่า ผู้อาวุโสเจ็ดตายด้วยน้ำมือของคนตระกูลหลินพวกแก”
“มอบผู้ร้ายตัวจริงออกมา ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันจะถล่มตระกูลหลินพวกแกให้ย่อยยับไปเลย”
เวลานี้เอง เจียงย่านหรงที่ยืนอยู่ข้างหลังเซินถู พูดขึ้นกะทันหันว่า “คุณอาคะ นี่อาจจะเป็นการเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
เซินถูพูดว่า “ไม่ได้เข้าใจผิดหรอก ฉันสืบมาแน่ชัดแล้วว่า เป็นฝีมือของคนตระกูลหลินจริงๆ”
เจียงย่านหรงขมวดคิ้ว เธอคิดอยากช่วยพูดแก้ตัวให้ตระกูลหลินพ้นผิด แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี
หลินซื่อเฉิงพูดอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันเป็นคนฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดของพวกแก นี่เป็นฝีมือของฉันคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลหลินเลย แกก็ปล่อยลูกหลานตระกูลหลินที่แกจับมาก่อนเถอะ!”
เซินถูพูดเยาะเย้ยว่า “ในเมื่อแกยืนยันที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้เพียงคนเดียว งั้นฉันก็จะให้แกสมดั่งใจหมาย”
“ถ้าเอาชนะฉันได้ หญิงสาวคนนั้นฉันก็จะปล่อยเธอกลับไปเอง”
หลินซื่อเฉิงรู้อยู่แล้วว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องต่อสู้กัน จึงยกมือขึ้นคารวะแล้วพูดว่า “เชิญ!”
ชายชรารูปร่างผอมบางคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเซินถู ก็เดินออกมารับคำท้า “เจ้าบ้านครับ ฆ่าไก่ไหนเลยต้องใช้มีดอีโต้ฆ่าวัว? ให้ฉันรับมือกับเจ้าบ้านหลินคนนี้ก่อนเถอะ!”
เซินถูพูดว่า “ผู้อาวุโสห้าอย่าได้ประมาทเชียว!”
“เจ้าบ้านโปรดวางใจ แค่ปรมาจารย์ระดับใหญ่เท่านั้นเอง ไม่เกินสิบกระบวนเพลง ฉันต้องเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสห้าก็มายืนอยู่ตรงหน้าหลินซื่อเฉิงในระยะห่างออกไปราวห้าเมตร พูดเยาะเย้ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งว่า “เจ้าบ้านหลิน คิดจะท้าประลองกับเจ้าบ้านพวกเรา ต้องผ่านด่านฉันไปก่อนแล้วค่อยมาว่ากันดีกว่านะ!”
หลินซื่อเฉิงกลับไม่ได้แยแสอะไร ในสายตาของเขาแล้ว จะสู้กับใครก็ได้กันทั้งนั้น
“เชิญ!”
ผู้อาวุโสห้าก็เริ่มลงมือก่อน ดีดตัวกระโดดขึ้น แล้วกระโจนใส่หลินซื่อเฉิง
ความเร็วของผู้อาวุโสห้าว่องไวมาก ก็เหมือนกับลิงตัวหนึ่ง ความเร็วที่ว่องไวนั้น ทำให้มองเห็นเป็นแค่เงาจางแวบผ่านเท่านั้น
หลินซื่อเฉิงเคยมีประสบการณ์การต่อสู้มาก่อนแล้ว ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ปกป้องร่างกายอย่างไม่ให้มีช่องว่างหลงเหลืออยู่เลย จนผู้อาวุโสห้าไม่สามารถฉวยโอกาสโจมตีได้
หลินหยุนยืนดูอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยมาโดยตลอด
พละกำลังของผู้อาวุโสห้าถึงแม้เป็นปรมาจารย์ชั้นสูงสุดแล้วก็ตาม แต่ว่าน่าจะด้อยกว่าหลินซื่อเฉิงเล็กน้อย อาจไม่แน่เริ่มแรกหลินซื่อเฉิงจะถูกความเร็วของฝ่ายตรงข้าม จู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ได้
แต่ว่าหลังจากสามกระบวนท่าผ่านไปแล้ว หลินซื่อเฉิงก็จะต้องเปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกอย่างแน่นอน สุดท้ายแล้วก็จะสามารถเอาชนะผู้อาวุโสห้าได้
ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หลินหยุนได้คาดคิดไว้ก่อนแล้ว ทั้งสองคนประมือกันเพียงแค่สิบกระบวนท่าเท่านั้น
แต่ว่าหลังจากผ่านไปสิบขบวนท่าแล้ว ผู้อาวุโสห้าก็พ่ายแพ้ไป
“เจ้าบ้านครับ ขอโทษครับ ฉันทำให้ตระกูลเซินต้องขายหน้าแล้ว” อาวุโสห้าเอามือปิดตรงหน้าอกไว้ พูดด้วยสีหน้าละอายใจ
สายตาของเซินถูก็ส่องประกายความเหยียดหยาม แต่ว่ากลับพูดอย่างสวยงามมาก “แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของการต่อสู้ ผู้อาวุโสห้าอย่าได้เอามาใส่ใจเลย!”
“คราวนี้ ก็ให้ฉันมาลองดูพละกำลังของตระกูลหลินบ้าง”
“เชิญ!”
เซินถูก็ก้าวเท้าออกไป ชกหมัดออกไปอย่างแรง
“สังหารมังกร!”
เซินถูมีวิทยายุทธ์ที่ทำให้เขาสามารถมีชื่อเสียงโด่งดังได้ ชื่อว่าสามสังหาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...