คาร์นอตวิลเลียมรีบเดินไปข้างหน้า ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ใครเป็นคนจับคุณมาที่นี่กันแน่?”
“บอกผมมา ผมจะไปฆ่าไอ้เลวบัดซบที่สมควรตายคนนั้น!”
อีหลิงไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด ไหล่ทั้งสองข้างก็สั่นสะท้านไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนว่าตกใจกลัวมาก
ดวงตาของคาร์นอตวิลเลียมก็แดงก่ำไปหมด “คนพวกนั้นรังแกคุณหรือเปล่า? คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“ฉันจะต้องฆ่าพวกเขาให้ได้ ฉันจะต้องฆ่าคนทั้งหมดที่นี่ให้หมดเลย!”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่หลินหยุนมอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้ฉันมา” อีหลิงก็หยิบเอาป้ายหยกตรงหน้าอกที่หลินหยุนเคยให้เธอออกมา
ตอนที่เธอจัดงานวันเกิดนั้น หลินหยุนมอบของขวัญวันเกิดให้เธอ ป้ายหยกชิ้นนี้ เคยต้านท้านการโจมตีจากปรมาจารย์มาแล้ว
เมื่อได้ยินว่าอีหลิงมีป้ายหยกคุ้มกายอยู่ คาร์นอตวิลเลียมก็ใจเย็นลงบ้างเล็กน้อย
“ขอชื่นชมเทพแห่งสว่างที่สมควรตาย หลินหยุน คุณได้ทำเรื่องที่ถูกต้องอย่างแท้จริงแล้ว!”
หลินหยุนพยายามระงับไฟแค้นในใจไว้ แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “รีบออกจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
“อยู่ในนี้ จะทำให้อีหลิงรู้สึกไม่สบายใจ”
คาร์นอตวิลเลียมรีบพยักหน้า “ใช่ รีบออกจากที่นี่ไปก่อน”
“เดินไหวไหมครับ? ถ้าไม่ไหวให้ผมแบกคุณไปเถอะ!” คาร์นอตวิลเลียมมองดูอีหลิงด้วยสีหน้าจริงใจ
อีหลิงหน้าแดง พูดเสียงเบาว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพียงแต่ตกใจเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว”
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ไม่ได้ ให้ผมแบกคุณไปดีกว่า!”
พอพูดจบ ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงแบกอีหลิงขึ้นหลัง แล้วก้าวเดินออกไป
ใบหน้าที่สะสวยของอีหลิง ก็รู้สึกแดงเรื่อ พูดอย่างเขินอายว่า “ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินเองได้!”
“ไม่ได้ รอให้ออกจากที่นี่ไปก่อน ผมค่อยปล่อยคุณลงมา” คราวนี้คาร์นอตวิลเลียมแข็งขืนมาก
หลินหยุนพูอย่างเรียบๆว่า “ให้เขาแบกคุณเถอะ เมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่องกับคุณ เขาก็เป็นห่วงมากจริงๆ”
อีกทั้งความเร็วของพวกเราก็ไวมาก คุณเดินตามไม่ทันหรอก”
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดเตือนเช่นนั้น อีหลิงก็ไม่ปฏิเสธอีก
มองดูเงาร่างของคาร์นอตวิลเลียมแล้ว สายตาของอีหลิงก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลอ่อนโยนขึ้น
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า ชาวตะวันตกที่หน้าตาทะเล้นนิสัยทะลึ่งตึงตังคนนี้ ความจริงแล้วก็เป็นคนที่แสนดีทีเดียว
โดยเฉพาะที่ว่า คาร์นอตวิลเลียมในฐานะที่เป็นเชื้อพระวงศ์ของเผ่าโลหิต ไม่ว่าจะมองจากสายตาของชาวตะวันตกหรือชาวตะวันออกก็ตาม เขาก็ยังเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง
คาร์นอตวิลเลียมแบกร่างของอีหลิงออกจากคฤหาสน์ ภายในลานบ้านนั้น ชายหนุ่มพวกนั้นก็หายสาบสูญไปแล้ว
เมื่อมาถึงประตูทางเข้านั้น หลินหยุนพบว่า แม้แต่คนเฝ้าเวรยามก็ยังจากไปแล้ว
คิดว่าคนพวกนี้น่าจะไปส่งข่าวให้กับคนของตระกูลหงแล้ว
“ฮื่อ นับว่าพวกเขาหนีไปได้เร็ว!” คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความรู้สึกเสียดาย เดิมทีเขาคิดอยากจะฆ่าคนเพื่อระบายความโกรธ ตอนนี้ถึงกับไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว
“วางใจเถอะ พวกเขาหนีไม่รอดหรอก” หลินหยุนสีหน้าไร้ความรู้สึกมองไปยังประตูใหญ่ที่เขียนชื่อสวนแดงสองตัวนั้น แววตาส่องประกายจิตสังหารที่เยือกเย็นออกมา
ที่นี่คือเจียงหนาน หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมก็ส่งอีหลิงกลับไปยังตระกูลอี
ส่วนอีหยุ่นเมื่อรู้ว่าหลินหยุนจู่ๆก็มาหา จึงรีบนำคนตระกูลอีออกมาต้อนรับ
“อีหยุ่นขอคารวะปรมาจารย์หลินครับ!” อีหยุ่นโค้งคำนับหลินหยุนอย่างนอบน้อม
หลังจากนั้น สายตาของอีหยุ่นก็มองไปยังอีหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆหลินหยุน
“ลูกหลิงก็กลับมาด้วย” อีหยุ่นพูดด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่า เขายังไม่รู้เรื่องที่อีหลิงถูกคน จับตัวไป
หลินหยุนพูดว่า “พ่อบ้านอีครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหน่อย”
เมื่อเห็นสีหน้าหลินหยุนที่เคร่งขรึม อีหยุ่นก็รีบพูดอย่างจริงจัง “เชิญตามผมมาครับ!”
อีหยุ่นกก็ให้ผู้คนตระกูลอีถอยออกไปก่อน หลังจากนั้นก็พาหลินหยุนทั้งสามคนมาถึงห้องของตัวเอง
“ปรมาจารย์หลินเชิญนั่งครับ ลูกหลิง รินน้ำชาให้กับปรมาจารย์หลินสิ!” อีหยุ่นก็มองไปยังอีหลิง
หลินหยุนพูดว่า “ไม่ต้องหรอกครับ”
“อีหลิง ใครเป็นคนลักพาตัวคุณไปกันแน่ บอกกับพวกเราได้เลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...