สามวันถัดมา ณ เมืองหลวงของจีน
วันนี้ หน้าคฤหาสน์สภาประเทศ ระฆังแจ้งเตือนที่ไม่ดังมาร้อยกว่าปีได้ดังขึ้น เช้าตรู่วันนี้ จู่ ๆ ก็มีคนตีระฆังขึ้นมา
จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ระฆังแจ้งเตือนดังขึ้น เป็นประธานาธิบดีคนแรกของจีนได้ตีขึ้นเพื่อทำสงครามต่อต้านและช่วยเหลือประเทศ
ทุกครั้งที่เสียงระฆังแจ้งเตือนดังขึ้น จะต้องเกิดเรื่องใหญ่สะเทือนทั่วทั้งประเทศ
ไม่รู้ว่าครั้งนี้ ใครเป็นคนทำให้ระฆังนี้ดังขึ้น
จีนมีกฎอยู่ว่า ทุกครั้งที่ระฆังถูกตี คณะรัฐมนตรีจีน ทหารระดับสูงของกองทัพ ต้องมารวมตัวกันที่คฤหาสน์สภาประเทศอย่างรวดเร็วฉับพลัน
ดังนั้น คฤหาสน์สภาประเทศในคราวนี้ เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันของเหล่าผู้นำระดับสูงของจีน
หงซิงกั๋วผู้อาวุโสห้าแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้ยืนอยู่กลางคฤหาสน์สภาประเทศอย่างเงียบ ๆ
สวมชุดทหาร ท่าทางองผายไหล่ผึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น สีหน้าเคร่งขรึมและดูเย็นชาราวกับน้ำแข็น
มือซ้ายของเขา ถือชั้นวางไม้ที่แขวนเต็มไปด้วยเหรียญสดุดีทหาร มือขวาของเขา ถือโถใส่อัฐิ
ผู้นำตระกูลแห่งสี่มหาตระกูล ได้ยืนอยู่ทางด้านซ้ายอย่างเงียบ ๆ มองไปที่ภาพตรงหน้า ด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา
ทหารระดับสูงของกองทัพจำนวนหนึ่ง ได้ยืนอยู่ทางด้านขวา สีหน้าของคนส่วนใหญ่ แสดงความเห็นอกเห็นใจและโกรธแค้นออกมา
เห็นอกเห็นใจ แน่นอนว่าเป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อตระกูลหง ส่วนโกรธแค้น คือโกรธแค้นต่อหลินหยุน
หงซิงกั๋วได้คุมกองทัพตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นหนึ่งในเจ็ดกองทัพใหญ่แห่งจีน ทหารระดับสูงของกองทัพ ส่วนใหญ่ต่างมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นต่อหงซิงกั๋ว จึงเข้าข้างหงซิงกั๋วเป็นธรรมดา
ประธานาธิบดียืนอยู่บนตำแหน่งผู้นำ มองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีใครรู้ว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจที่ใหญ่สุดของจีนท่านนี้กำลังคิดอะไรอยู่
หงซานเหอยืนอยู่ข้างกายประธานาธิบดี สีหน้าดูแย่มาก เขาโกรธมากที่หลินหยุนไม่ฟังคำเตือนของเขา ไปฆ่าทายาทคนเดียวของตระกูลหง
แต่ว่า เขาโมโหต่อการกระทำเช่นนี้ของหงซิงกั๋วด้วยเช่นกัน
ทั้งคฤหาสน์สภาประเทศ เต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมและเคร่งขรึม
ประธานาธิบดีเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้
“ผู้อาวุโสหงนั่งลงก่อนเถอะ!” ประธานาธิบดีน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ได้เผยความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย ทำให้ผู้คนยากที่จะเดาความคิดจิตใจของเขาได้
หงซิงกั๋วไม่ได้นั่งลง แต่ค่อย ๆ ยกมือซ้ายขึ้น แล้วเอ่ยพูดเสียงขรึม : “ประธานาธิบดีครับ สิ่งเหล่านี้เป็นเหรียญสดุดีที่ท่านและประธานาธิบดีคนก่อนมอบให้ผม”
“เหรียญนี้ ได้รับตอนที่พี่ชายทั้งสองคนของผมได้เสียสละสู้รบที่สนามรบตะวันออก ตระกูลหงของผมได้รับเหรียญรางวัลนี้แทนพวกเขา”
“เหรียญนี้ เป็นเหรียญที่ผมได้รับตอนรบในสงครามซงเจียง”
“เหรียญนี้ ได้รับตอนรบในสงครามแม่น้ำแยงซีเกียง”
“เหรียญนี้......”
ทุกประโยคที่หงซิงกั๋วพูดออกมา น้ำเสียงได้เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอนสุดท้าย แทบจะตะคอกออกมา
“เบื้องหลังเหรียญทุกเหรียญ ล้วนเป็นชีวิตและเลือดเนื้อของตระกูลหงที่เสียไป”
“ตระกูลหงของผมจนถึงตอนนี้ เหลือเพียงทายาทเพียงคนเดียว แต่ตระกูลหงของผมก็ไม่ได้กล่าวโทษ”
“เพราะการเสียสละเพื่อประเทศชาติ เป็นหน้าที่ที่ชายชาติทหารของตระกูลหงควรทำ”
“เพราะการพลีชีพเพื่อชาติบ้านเมือง ถือเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของทหารทุกคน!”
“ชายชาติทหารของตระกูลหงสามารถตายในสนามรบได้ แต่ว่า ไม่ควรต้องมาตายในน้ำมือของคนที่แทบไม่มีคุณงามความดีต่อประเทศชาติ!”
คำพูดของหงซิงกั๋ว ทรงพลังและเสียงดังมาก สะท้อนขึ้นกลางคฤหาสน์สภาประเทศนี้ที่กำหนดชะตากรรมของชาวจีนหลายพันล้านคน
หงซานเหอพูดด้วยเสียงเย็นชา : “ผู้อาวุโสหง ต่อให้ตระกูลหงของคุณทำเพื่อประเทศชาติมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาตะคอกเสียงในคฤหาสน์สภาประเทศ!”
“ตระกูลหงมีคุณงามความดี แต่ประเทศจีนก็ไม่เคยทอดทิ้งหรือเอาเปรียบตระกูลหงเลย คุณงามความดีทั้งหมด ล้วนให้รางวัลอย่างที่สมควรได้ตอบแทนไปหมดแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...