จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 949

สามวันถัดมา ณ เมืองหลวงของจีน

วันนี้ หน้าคฤหาสน์สภาประเทศ ระฆังแจ้งเตือนที่ไม่ดังมาร้อยกว่าปีได้ดังขึ้น เช้าตรู่วันนี้ จู่ ๆ ก็มีคนตีระฆังขึ้นมา

จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ระฆังแจ้งเตือนดังขึ้น เป็นประธานาธิบดีคนแรกของจีนได้ตีขึ้นเพื่อทำสงครามต่อต้านและช่วยเหลือประเทศ

ทุกครั้งที่เสียงระฆังแจ้งเตือนดังขึ้น จะต้องเกิดเรื่องใหญ่สะเทือนทั่วทั้งประเทศ

ไม่รู้ว่าครั้งนี้ ใครเป็นคนทำให้ระฆังนี้ดังขึ้น

จีนมีกฎอยู่ว่า ทุกครั้งที่ระฆังถูกตี คณะรัฐมนตรีจีน ทหารระดับสูงของกองทัพ ต้องมารวมตัวกันที่คฤหาสน์สภาประเทศอย่างรวดเร็วฉับพลัน

ดังนั้น คฤหาสน์สภาประเทศในคราวนี้ เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวกันของเหล่าผู้นำระดับสูงของจีน

หงซิงกั๋วผู้อาวุโสห้าแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้ยืนอยู่กลางคฤหาสน์สภาประเทศอย่างเงียบ ๆ

สวมชุดทหาร ท่าทางองผายไหล่ผึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น สีหน้าเคร่งขรึมและดูเย็นชาราวกับน้ำแข็น

มือซ้ายของเขา ถือชั้นวางไม้ที่แขวนเต็มไปด้วยเหรียญสดุดีทหาร มือขวาของเขา ถือโถใส่อัฐิ

ผู้นำตระกูลแห่งสี่มหาตระกูล ได้ยืนอยู่ทางด้านซ้ายอย่างเงียบ ๆ มองไปที่ภาพตรงหน้า ด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา

ทหารระดับสูงของกองทัพจำนวนหนึ่ง ได้ยืนอยู่ทางด้านขวา สีหน้าของคนส่วนใหญ่ แสดงความเห็นอกเห็นใจและโกรธแค้นออกมา

เห็นอกเห็นใจ แน่นอนว่าเป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อตระกูลหง ส่วนโกรธแค้น คือโกรธแค้นต่อหลินหยุน

หงซิงกั๋วได้คุมกองทัพตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นหนึ่งในเจ็ดกองทัพใหญ่แห่งจีน ทหารระดับสูงของกองทัพ ส่วนใหญ่ต่างมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นต่อหงซิงกั๋ว จึงเข้าข้างหงซิงกั๋วเป็นธรรมดา

ประธานาธิบดียืนอยู่บนตำแหน่งผู้นำ มองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีใครรู้ว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจที่ใหญ่สุดของจีนท่านนี้กำลังคิดอะไรอยู่

หงซานเหอยืนอยู่ข้างกายประธานาธิบดี สีหน้าดูแย่มาก เขาโกรธมากที่หลินหยุนไม่ฟังคำเตือนของเขา ไปฆ่าทายาทคนเดียวของตระกูลหง

แต่ว่า เขาโมโหต่อการกระทำเช่นนี้ของหงซิงกั๋วด้วยเช่นกัน

ทั้งคฤหาสน์สภาประเทศ เต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมและเคร่งขรึม

ประธานาธิบดีเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้

“ผู้อาวุโสหงนั่งลงก่อนเถอะ!” ประธานาธิบดีน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ได้เผยความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย ทำให้ผู้คนยากที่จะเดาความคิดจิตใจของเขาได้

หงซิงกั๋วไม่ได้นั่งลง แต่ค่อย ๆ ยกมือซ้ายขึ้น แล้วเอ่ยพูดเสียงขรึม : “ประธานาธิบดีครับ สิ่งเหล่านี้เป็นเหรียญสดุดีที่ท่านและประธานาธิบดีคนก่อนมอบให้ผม”

“เหรียญนี้ ได้รับตอนที่พี่ชายทั้งสองคนของผมได้เสียสละสู้รบที่สนามรบตะวันออก ตระกูลหงของผมได้รับเหรียญรางวัลนี้แทนพวกเขา”

“เหรียญนี้ เป็นเหรียญที่ผมได้รับตอนรบในสงครามซงเจียง”

“เหรียญนี้ ได้รับตอนรบในสงครามแม่น้ำแยงซีเกียง”

“เหรียญนี้......”

ทุกประโยคที่หงซิงกั๋วพูดออกมา น้ำเสียงได้เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอนสุดท้าย แทบจะตะคอกออกมา

“เบื้องหลังเหรียญทุกเหรียญ ล้วนเป็นชีวิตและเลือดเนื้อของตระกูลหงที่เสียไป”

“ตระกูลหงของผมจนถึงตอนนี้ เหลือเพียงทายาทเพียงคนเดียว แต่ตระกูลหงของผมก็ไม่ได้กล่าวโทษ”

“เพราะการเสียสละเพื่อประเทศชาติ เป็นหน้าที่ที่ชายชาติทหารของตระกูลหงควรทำ”

“เพราะการพลีชีพเพื่อชาติบ้านเมือง ถือเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของทหารทุกคน!”

“ชายชาติทหารของตระกูลหงสามารถตายในสนามรบได้ แต่ว่า ไม่ควรต้องมาตายในน้ำมือของคนที่แทบไม่มีคุณงามความดีต่อประเทศชาติ!”

คำพูดของหงซิงกั๋ว ทรงพลังและเสียงดังมาก สะท้อนขึ้นกลางคฤหาสน์สภาประเทศนี้ที่กำหนดชะตากรรมของชาวจีนหลายพันล้านคน

หงซานเหอพูดด้วยเสียงเย็นชา : “ผู้อาวุโสหง ต่อให้ตระกูลหงของคุณทำเพื่อประเทศชาติมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาตะคอกเสียงในคฤหาสน์สภาประเทศ!”

“ตระกูลหงมีคุณงามความดี แต่ประเทศจีนก็ไม่เคยทอดทิ้งหรือเอาเปรียบตระกูลหงเลย คุณงามความดีทั้งหมด ล้วนให้รางวัลอย่างที่สมควรได้ตอบแทนไปหมดแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์