“พอได้แล้ว”
ในที่สุดประธานาธิบดีก็เอ่ยพูด
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ประธานาธิบดี
สี่มหาตระกูลที่นำโดยหวางจิงหลง ได้รอดูท่าทีของประธานาธิบดีมาตลอด
คนของกองทัพ ก็รอดูท่าทีของประธานาธิบดีเช่นกัน
แม้แต่หงซิงกั๋ว ที่จริงก็รอดูท่าทีของประธานาธิบดีด้วย
ประธานาธิบดีมองไปที่สองคนนั้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ยังคงดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
“ทั้งสองท่านล้วนเป็นเสาหลักของประเทศจีน ทำไมถึงต้องทะเลาะกันอย่างไร้ประโยชน์ที่นี่ด้วย?”
“ผู้อาวุโสหง สำหรับการตายของหลานคุณ ผมขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็เหมือนกับที่จอมพลหงพูด นี่เป็นเรื่องความแค้นส่วนตัว จะให้มากระทบถึงประเทศชาติได้อย่างไร?”
“ถ้าหากผู้อาวุโสหงอยากให้ผมใช้กองกำลังทหารไปจัดการหลินหยุน คงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน”
พูดจบ ประธานาธิบดีได้เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางหวางจิงหลง จากนั้นเอ่ยพูดอย่างสงบนิ่งว่า : “ส่วนที่ผู้นำตระกูลหวางกล่าวว่าหากไม่กำจัดหลินหยุน จะทำให้วีรบุรุษผู้กล้าที่เสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติเหล่านั้นปวดใจ”
“ผมคิดว่านี่เป็นเพียงสิ่งที่ผู้นำตระกูลหวางคาดเดาเท่านั้น”
“วีรบุรุษผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติเหล่านั้น จะมาปวดใจกับเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?”
“การเสียสละทุ่มเทของวีรบุรุษ ไม่เคยเรียกร้องผลตอบแทน”
พูดถึงตรงนี้ ประธานาธิบดีก็ไม่พูดอะไรต่ออีก
ถึงแม้ประธานาธิบดีไม่ได้พูดออกมาชัดเจนว่าสนับสนุนใจ แต่เชื่อว่าทุกคนในที่นี้ต่างฟังเข้าใจดีแล้ว
หงซิงกั๋วสีหน้าถมึงทึงด้วยความไม่ยอม : “ประธานาธิบดีครับ คุณหมายความว่า ปล่อยให้หลินหยุนฆ่าหลานชายผมโดยไม่สนใจไยดีงั้นเหรอครับ?”
ประธานาธิบดีหัวเราะออกมา : “ผู้อาวุโสหง หลานชายของคุณลักพาตัวเด็กสาวคนนั้นของตระกูลอี เพื่อจะทำอะไร คุณเองน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ”
“หลินหยุนฆ่าเขาตาย แม้ทำเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นโทษร้ายแรงอะไรเลย”
“ผมคุมประเทศจีนทั้งประเทศ จะใช้กองกำลังทหารของประเทศไปจัดการคนคนหนึ่งเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร”
คำพูดนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าประธานาธิบดีปฏิเสธหงซิงกั๋ว
แต่ว่า สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ หงซิงกั๋วกลับไม่โมโหออกมา ได้แต่มองไปที่ประธานาธิบดีแล้วเอ่ยว่า : “ในเมื่อประธานาธิบดีไม่ยินดีช่วยตระกูลหงเรียกร้องความยุติธรรม งั้นผมก็ไม่สามารถไปบังคับได้”
“แต่ผมหวังว่าตอนที่ผมแก้แค้น ประธานาธิบดีอย่ามาขัดขวางผม”
ประธานาธิบดีเอ่ย : “ผู้อาวุโสหงวางใจเถอะ เรื่องนี้ ผมไม่ช่วยใครทั้งนั้น”
“ครับ!”
“ผมจะจำคำพูดของประธานาธิบดีเอาไว้ ว่าจะไม่ช่วยใครทั้งนั้น!”
“งั้นผมขอตัวลาครับ!”
พูดจบ หงซิงกั๋วก็หมุนตัวเดินจากไป
หวางจิงหลงยกมุมปากขึ้น แล้วมองไปที่ประธานาธิบดีพลางเผยรอยยิ้มได้ใจออกมา จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
ผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ ที่เหลือ ก็ตามหวางจิงหลงออกไป
เหล่าทหารจากกองทัพ ก็ทยอยบอกลาประธานาธิบดี
ผู้นำต่างกลับไปหมดแล้ว คนที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
เมื่อรอให้ทุกคนกลับไปจนหมด คราวนี้หงซานเหอได้ตะเบ็งออกมาด้วยความโมโห : “มีอย่างที่ไหน!”
“หงซิงกั๋วนี่ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือน วันนี้ถึงกับมาตีระฆังแจ้งเตือน!”
“ถือโถอัฐิมาที่คฤหาสน์สภาประเทศ เขาเห็นคฤหาสน์สภาประเทศเป็นบ้านของเขาหรือไงกัน!”
“ในประวัติศาสตร์รอบร้อยปีของจีน เขาถือว่าเป็นคนแรกเลย!”
“ที่น่าโมโหไปกว่านั้นคือ เขาคิดเพ้อเจอ จะให้ประธานาธิบดีใช้กองกำลังทหารช่วยเขาแก้แค้นส่วนตัว!”
ประธานาธิบดีมองไปทางที่หงซิงกั๋วและคนอื่น ๆ จากไปด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แล้วค่อย ๆ เอ่ยพูดว่า : “จอมพลหง ที่จริงพวกเขาไม่ได้อยากให้ฉันช่วยเขาแก้แค้นตั้งแต่แรกแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...