หวางจิงหลงเอ่ยพูด : “ผู้อาวุโสหงไม่ต้องเกรงใจหรอก ช่วยคุณ ก็เท่ากับช่วยตัวผมเอง”
“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสหงจะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่?”
หงซิงกั๋วครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า : “เดิมทีผมไม่อยากรอแม้แต่วินาทีเดียว ฉันต้องการเอาเลือดของไอ้เวรนั่น มาบูชาหลานชายผมที่ตายไป”
“แต่ว่า ไอ้หมอนั่นมันไม่ธรรมดา ผมจำเป็นต้องไปวางแผนให้รอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าจะฆ่ามันได้แน่นอน”
“แต่ช้าสุดก็ภายในสามวันนี่แหละ ไม่ว่าจะเตรียมการเป็นยังไง ผมก็จะเริ่มดำเนินการทันที ถึงเวลานั้น ผมหวังว่าผู้นำตระกูลทุกท่านจะมาร่วมเป็นสักขีพยาน”
หวางจิงหลงเอ่ย : “ผู้อาวุโสหงวางใจเถอะ ต่อให้คุณไม่เชิญ พวกเราก็จะไปอยู่แล้ว”
จ้าวโม่เย้นผู้นำตระกูลจ้าวเอ่ยพูด : “ผู้อาวุโสหงวางใจเถอะ พวกเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้หมอนั่นมันเก่งกาจสักแค่ไหน ศึกครั้งนี้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ก็น่าจะหาไพ่ตายของไอ้หมอนั่นได้”
“ต่อให้ครั้งนี้คุณพ่ายแพ้ พวกเราก็ไม่ปล่อยไอ้หมอนั่นไปหรอก”
หงซิงกั๋วทำมือคารวะผู้นำทั้งสี่คน : “เมื่อเป็นเช่นนี้ กระผมขอขอบคุณท่านทั้งสี่เป็นอย่างมาก!”
“ขอตัวลาก่อนครับ!”
“ไม่ไปส่งนะ!”
หลังจากที่หงซิงกั๋วกลับไป จ้าวโม่เย้นได้มองไปที่หวางจิงหลง แล้วเอ่ยถาม : “ผู้นำตระกูลหวาง คุณคิดว่าครั้งนี้จะมั่นใจตระกูลหงได้สักแค่ไหน?”
หวางจิงหลงส่ายหน้า : “ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถ้าหากตระกูลหงมีแค่ให้เจียงร่อโจ๋ออกหน้า ผมคิดว่าไม่มีทางชนะได้เลย”
จ้าวโม่เย้นขมวดคิ้ว : “ผมคิดว่าหงซิงกั๋วไม่ใช่คนประมาท ต่อให้แค้นจนหน้ามืดตามัว ยังไงก็ต้องมีความมั่นใจอยู่บ้างแหละ”
จางฉางเกิงผู้นำตระกูลจางได้เอ่ยว่า : “หรือว่า ตระกูลหงมีไพ่ตายอย่างอื่นอีก”
หวางจิงหลงพยักหน้า : “สามวันหลังจากนี้ จะได้รู้ทุกอย่างเองแหละ”
“อืม”
......
หนึ่งวันถัดมา หลินหยุนที่อยู่ ณ บ้านตระกูลอีแห่งเจียงหนาน ได้รีบจดหมายท้ารบจากเมืองหลวง
จดหมายนั้นส่งมาจากตระกูลหง แต่ว่า ผู้ท้ารบ กลับเป็นเทพสงครามที่เลื่องชื่อมากสุดของจีน เจียงร่อโจ๋
ในห้องโถงตระกูลอี หลินหยุนได้ถือจดหมายด้วยมือข้างหนึ่ง
เนื้อหาในจดหมายฉบับนี้สั้นมาก มีเพียงตัวอักษรหนึ่งบรรทัดเท่านั้น เขียนว่า : ปรารถนาที่จะสู้รบกับคุณ
ลงชื่อ : เจียงร่อโจ๋
อ่านจดหมายจบ หลินหยุนได้ยื่นจดหมายให้กับอีหยุ่นที่อยู่ข้าง ๆ
“เทพสงคราม เจียงร่อโจ๋!”
“เขา เขาจะลงมือ!”
สิ่งที่อีหยุ่นกลัวมากสุดคือหงซิงกั๋วขอให้เจียงร่อโจ๋มาช่วย ถึงแม้เขาคิดว่าต่อให้เป็นเจียงร่อโจ๋ก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะหลินหยุนได้
แต่ว่า ชื่อเสียงของเทพสงครามของจีนนั้น เลื่องชื่อลือชามากเหลือเกิน
ชื่อเสียงที่ได้มา ไม่มีทางเป็นเรื่องหลอกลวงแน่นอน
อีกอย่าง เจียงร่อโจ๋อยู่ในเมืองหลวงมายี่สิบกว่าปี คอยปกป้องประตูเมืองของจีนเอาไว้ ทำให้ศัตรูจากรอบทิศไม่กล้ามาย่างกราย
ถ้าหากไม่มีความสามารถจริง ๆ จะทำถึงขนาดนี้ได้ยังไง!
สายตาของหลินหยุนมองออกไปไกล ๆ เขาเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “เทพสงครามของจีน”
อีหยุ่นเห็นท่าทางนิ่งเฉยของหลินหยุน ก็เอ่ยเตือนอย่างจริงจัง : “ในเมื่อตระกูลหงเชิญเทพสงครามมาช่วย ก็น่าจะไม่ใช้กองกำลังทหารแล้วล่ะ”
“แต่ว่า เทพสงครามปกป้องประตูประเทศจีนมานานหลายปีขนาดนี้ ความสามารถต้องไม่ธรรมดาแน่นอน คุณอย่าประมาทเด็ดขาดนะ!”
“วางใจเถอะครับ ผมรู้ตัวเองดี” หลินหยุนเอ่ยอย่างเรียบ ๆ
ฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียมเอ่ยพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยาม : “เทพสงครามแห่งจีนอะไรกัน ก็คือไอ้หนุ่มชาวจีนแซ่เจียงคนหนึ่งไม่ใช่หรือไง?”
“ตอนนั้น ฉันก็เคยได้ปะทะฝีมือกับมัน ความสามารถของมันก็งั้น ๆ แหละ”
หลินหยุนประหลาดใจ : “นายเคยปะทะฝีมือกับเจียงร่อโจ๋ด้วยเหรอ?”
ฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียมเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “มีอะไรน่าตกใจ ตอนนั้นฉันได้ตามดยุกแดร็กคิวล่ามา แล้วเคยสู้รบกับเทพสงครามคนนั้นที่พวกนายพูดถึง แต่ว่า มันก็เป็นเรื่องเมื่อหลายปีมาแล้วล่ะ”
“ตอนนี้ ไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นจะเก่งกาจขึ้นหรือยัง?”
หลินหยุนหมดคำพูด สามารถเรียกเจียงร่อโจ๋ว่าไอ้หมอนั่นได้ คงมีแค่เผ่าโลหิตที่มีชีวิตยืนยาวนี่แหละที่ทำได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...