จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 630

           การปรากฏตัวของจ้าวเทียนครั้งนี้ ไม่ได้ส่งสัญญาณแจ้งเตือนต่อฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด ร่างกายเขาเหมือนผสานเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า ต่อให้เป็นตัวตนระดับผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์หรือขอบเขตจักรพรรดิทั่วไป ก็ไม่สัมผัสการมาถึงของเขาได้

         ‘ หืม  มีการตอบสนองจากแผ่นป้ายสำนักใกล้ๆบริเวณนี้ พวกศิษย์พี่ใหญ่และคนอื่นโดนกักตัวอยู่ด้านในงั้นเหรอ ’

         จ้าวเทียนจ้องมองไปที่หลุมดำเบื้องหน้าอย่างเคร่งเครียด  ดูเหมือนราชันเทพมารอเวจีจะต่อกรด้วยไม่ง่ายอย่างที่คิด  อีกฝ่ายคงกำลังหาเบี้ยไว้ใช้ต่อรองกับเขาแน่นอน

           แต่ทว่า

           ยังไม่ทันที่จ้าวเทียนจะได้บุกเข้าไปในอาณาเขตศัตรู  ก็ได้มีกลุ่มก้อนความมืดขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของดวงวิญญาณหลายล้าน พุ่งทะลวงถาโถมออกมาจากใจกลางหลุมดำเหมือนฝูงผึ้งได้กลิ่นน้ำหวาน

           เพียงพริบตาเดียว พวกมันก็เข้าไปสิงสู่ยึดครองซากศพแล้วฟื้นคืนชีพเป็นนักรบมาร ใช้เวลาไม่ถึงสามลมหายใจ ตรงหน้าจ้าวเทียนก็ปรากฏกองทัพเกราะมารนับล้านที่มีแววตาสีแดงฉานดุจโลหิต

           เหนือสิ่งอื่นใด  กระทั่งมีดวงวิญญาณแห่งความมืดซึ่งดูแข็งแกร่งกว่าตนอื่น กำลังกำหนดเป้าหมายไปที่เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องสำนักดาราสวรรค์ ที่จ้าวเทียนเคยสนิทสนมในชีวิตที่แล้วอีกด้วย

           “ บัดซบ!  อย่าได้หวังไป ”

          

           จิตสังหารของจ้าวเทียนระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้ห้วงมิติโดยรอบสั่นสะเทือนจนปรากฏรอยแตกร้าว ความว่างเปล่าและกฎเกณฑ์ทั้งหมดเริ่มพังทลายลงเพราะแบกรับโทสะของเขาไม่ไหว

           ฮูมมม!

         ร่างกายจ้าวเทียนปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสุริยันอันร้อนแรงที่โหมกระหน่ำ ราวกับมีดวงตะวันนับร้อยปะทุคลื่นพลังทำลายล้างออกมาพร้อมกัน

           ทันใดนั้น

           !! กีซซซ!

          

           สีหน้าของเหล่าวิญญาณแห่งความมืดที่กำลังพยายามยึดครองซากศพ และมารอเวจีจำนวนนับไม่ถ้วนที่เพิ่งถือกำเนิดใหม่ก็ได้เปลี่ยนไป เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ

           ร่างของพวกมันสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าอันเยือกเย็น จนต้องหยุดยั้งทุกสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ทันที เวลานี้ต่อให้ไม่มีคำสั่งจากราชันเทพมาร พวกมันก็รับรู้โดยสัญชาตญาณว่าควรทำเช่นไร

         เปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์!!

         อันตราย!!  ล่าถอย!!

         ไวเท่าความคิด  ทั้งวิญญาณแห่งความมืดและเหล่านักรบมารอเวจีแทบทุกตน พากันพุ่งทะยานหลบหนีเข้าไปในหลุมดำสุดชีวิต

แต่ทว่า…น่าเสียดายที่พวกมันตัดสินใจช้าเกินไปก้าวหนึ่ง

           เพราะพริบตาที่จ้าวเทียนปลดปล่อยจิตสังหารออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็อยู่ในการควบคุมของเขาเรียบร้อยแล้ว

           แวบ!

เมื่ออาณาเขตแสงสีเงินรูปยี่สิบแปดกลุ่มดาวปรากฏขึ้น  ห้วงมิติทั้งหมดก็เหมือนถูกแช่แข็ง ส่งผลให้กาลเวลาไหลช้าลงจนแทบจะหยุดนิ่ง

           “ จง…หายไปซะ ”

         ครืนนนน! บูมมมมมม!

          

           ดวงอาทิตย์ขนาดยักษ์ระเบิดออกมาโดยมีจ้าวเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีของมันกว้างยิ่งกว่าระบบสุริยะ

จนมองเห็นคลื่นเปลวเพลิงสีทองกวาดไปทั่วทั้งอาณาเขตแดนสุขาวดี เผาไหม้สรรพสิ่งจนแทบหมดสิ้น หลงเหลือเพียงราชันวิญญาณแห่งความมืดที่กล้าแข็งไม่กี่ร้อยตนเท่านั้น

          

           “ เหอะ  ต่อให้ต้านทานเปลวเพลิงสุริยันได้แล้วยังไงล่ะ สุดท้ายพวกแกก็ไม่มีวันหลีกหนีความตายพ้น ”

จ้าวเทียนแค่นเสียงเย็นชา ก่อนที่จะปลดปล่อยฤทธานุภาพแห่งมหาเทพผู้ปกครองแดนสวรรค์ชั้นฟ้า เพื่อควบคุมเจตจำนงของต้นไม้เอกภพภายในภูเขาจักรวาล

“ ทัณฑ์อสนีบาตผลาญวิญญาณ  จงมา! ”

วูป!!  เปรี๊ยะ!ๆๆๆ

วังวนพายุเมฆสายฟ้าจากสามภพภูมิ ได้ถูกประกาศิตของจ้าวเทียนดึงดูดให้มารวมตัวกัน เหนือเหล่าราชันจิตวิญญาณแห่งความมืดและหลุมดำขนาดยักษ์

“ กลิ่นอายนี่มัน หรือว่าจะเป็นทัณฑ์สวรรค์ ”

“ ฝีมือของผู้ใดกัน จักรพรรดินีหลินซินเยว่งั้นเหรอ  ”

“ ไม่มีทาง! จักรพรรดินีหลินซินเยว่ยังไม่ได้เชื่อมต่อกับเจตจำนงแห่งสวรรค์ นางจะเรียกทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดได้อย่างไร ”

เนื่องจากการรวมตัวของพลังงานสวรรค์และปฐพีจำนวนมากมายมหาศาล มันก็ได้ดึงดูดความสนใจของขั้วมหาอำนาจต่างๆทันที  โดยเฉพาะกับเหล่ากองทัพที่เลือกหลบหนีไปตอนที่ร่างอวตารของจ้าวเทียนพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้

ทันใดนั้น

“ มันสายไปแล้ว พริบตาที่ข้าฟื้นคืนพลังแห่งราชันเทพมารโดยสมบูรณ์ จักรวาลทั้งหมดก็อยู่ภายใต้ฝ่าเท้าข้า ทัณฑ์สวรรค์กระจ้อยร่อยเช่นนี้จะทำอะไรได้ ”

บูมมม!

มีภาพมายาเทพอสูรสวมชุดเกราะพุ่งทะลวงออกมาจากใจกลางหลุมดำ  การก้าวเดินแต่ละก้าวของมันราวกับจะเหยียบย่ำชั้นฟ้า เสมือนมีอำนาจอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทั้งปวง

มันสะกดข่มได้แม้แต่มรรคาสวรรค์และปฐพี หรือกระทั่งจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน