ภายในป่าดิบชื้นบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ สถานที่ซ่องสุมของเหล่าวายร้ายในเอเชีย อันตรายในป่าแห่งนี้ นอกจากเกิดเพราะฝีมือมนุษย์แล้ว ยังมีสัตว์ป่าดุร้ายและแมลงพิษที่น่าหวาดกลัว ทำให้ผู้ที่หลงเข้ามามีโอกาสรอดไม่ถึง 10%
เมื่อวานนี้ เฉินจิ้ง เจนนี่ โม่ซินหยานและเหล่าลูกศิษย์ ได้รับภารกิจให้มาจัดการกับผู้ก่อการร้ายในฐานทัพของทรงยุทธ โดยเฉินจิ้งและเจนนี่มีหน้าที่ดึงดูดความสนใจ
ส่วนโม่ซินหยานและเหล่าลูกศิษย์มีหน้าที่ลอบสังหาร พวกหัวหน้าหน่วยที่มีอำนาจสั่งการ เพื่อทำให้พวกผู้ก่อการร้ายเกิดความสับสนและวุ่นวาย
เนื่องจากฐานบัญชาการของผู้ก่อการร้าย กระจายอยู่ไปทั่วหลายสิบจุด ดังนั้นเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจได้ เฉินจิ้งกับเจนนี่เลยต้องแยกกันทำงาน
ตอนนี้ บรรดาแกนนำของทรงยุทธถูกฆ่าตายไปเกือบหมดแล้ว สถานที่แห่งนี้จึงเหลือเพียงคนธรรมดากับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
แต่ถึงแม้จะไม่มียอดฝีมือระดับสูงคอยดูแล แค่คนธรรมดาเกือบแสนคนพร้อมอาวุธหนักครบมือก็ทำให้พวกเฉินจิ้งต้องปวดหัวแล้ว
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย…
ที่จริงแล้วจุดประสงค์หลักของภารกิจในครั้งนี้คือ ฝึกฝนพวกทหารหนุ่มสาวที่จะต้องเข้าร่วมการทดสอบในอีก 13 วันที่จะถึง
ดังนั้นหากเฉินจิ้งเลี่ยงได้ก็อย่าลงมือเองเยอะเกินไป เดี๋ยวคนที่ตามมาที่หลัง จะไม่เหลือคู่ต่อสู้ให้ฝึกฝน
ตอนนี้เฉินจิ้งกำลังยืนเอนหลังพิงต้นไม้ขนาดใหญ่ อย่างเหนื่อยล้า เหมือนกับว่าชีวิตของเขาชอบดึงดูดเอาเรื่องยุ่งยากเข้ามาเสมอ
ขณะที่เขากลั้นหายใจ ยืนนิ่งได้ไม่นาน พลังอันเยียบเย็นสายหนึ่ง ก็ได้ไต่ขึ้นมาบนหลังของเขาอย่างเงียบๆ ความรู้สึกนี้ไร้รูปร่างแต่กลับสัมผัสได้
คล้ายกับลิ้นเย็นเยียบของผีร้าย กำลังค่อยๆเลียกระดูกสันหลังของเขาอยู่…
‘ บัดซบ! มันจะมาอีกแล้ว ’
เพียงเสี้ยววินาทีนั้นเอง ความรู้สึกอันตรายที่ร้ายแรง ก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของเฉินจิ้ง หัวใจของเขาเต้นแรง รูขุมขนทั่วร่างลุกชันขึ้นมาทันที
วูป!
เขาก้าวเท้าเอียงตัวหลบไปด้านหน้า เห็นเพียงพื้นด้านหลังที่ว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิต กำแพงมิติพลันสั่นไหว
สุนัขป่าขนดำยาวเกือบสามเมตร ดวงตาเปล่งประกายสีเขียวมรกต กระโดดออกมาจากความว่างเปล่า มันอ้าปากกว้างพุ่งเข้าใส่ลำคอของเฉินจิ้ง
เขี้ยวของมันแหลมคม ยาวเกือบสิบเซนติเมตร เปล่งออร่าสังหารน่าสะพรึงกลัว หากโดนมันกัดเข้าไปแม้แต่เกล็ดมังกรก็คงเอาไม่อยู่
ฟุ่บ!
เพราะเฉินจิ้งจับความรู้สึกอันตรายนั้นได้ก่อน เขาจึงหลบได้แบบฉิวเฉียด คมเขี้ยวของมันเฉียดแก้มเขาไปนิดเดียว
เขาสามารถได้กลิ่นเหม็นคาวออกมาจากปากของมันได้…
‘ ทำไมฉันถึงซวยแบบนี้…ดันไปเจอสัตว์เลี้ยงของทรงยุทธซะได้ ไอ้หมาตัวนี้มันตามฉันมาทั้งคืนแล้ว แม้มันจะอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นต่ำ แต่การสู้กับมันก็ค่อนข้างลำบาก ’
‘ เพราะมันไม่มีกายเนื้อ…การโจมตีทางกายภาพจึงใช้ไม่ได้ผล ต้องใช้เคล็ดวิชาเฉพาะทางเท่านั้นถึงจะกำหลาบมันได้ ช่างน่าปวดหัวเสียจริง ’
“ เพลิงนรกอเวจี! ”
คลื่นเปลวเพลงทมิฬของเฉินจิ้งระเบิดใส่สุนัขป่าตัวนั้นอย่างแรง ด้วยระยะประชิดแบบนี้ทำให้มันทรงอานุภาพสูงสุด
ตูมม!
ต้นไม้ใหญ่หลายต้นถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน ทุกสิ่งทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง เกิดเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ตรงหน้าเฉินจิ้ง
โฮกกก!
เฉินจิ้งเอียงตัวหลบอีกครั้ง คราวนี้สุนัขป่าเล็งโจมตีไปที่ขาของเขา ตามเนื้อตัวของมันปราศจากบาดแผลใดๆ เปลวไฟของเฉินจิ้งโจมตีมันไม่โดนแม้แต่น้อย
สุนัขป่าตัวนี้ สามารถเคลื่อนไหวระหว่างมิติที่สามและมิติที่สี่ได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังเป็นเผ่ามารวิญญาณที่มีร่างกายเหมือควันสีดำ ทำให้ต่อสู้ลำบากมาก
‘ จะว่าไป…หมาตัวนี้น่าจะแพ้ทางหวังซินหยางนะ เพราะเขาสามารถดูดกลืนวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังได้ ’
‘ กลับไป…ฉันคงต้องขอเรียนรู้เคล็ดวิชาแบบนี้ไว้บ้างแล้ว ’
“ มันอยู่นั่น…ล้อมมันไว้”
“ ยิงพลุไฟ เรียกทุกคนมาเร็ว! ”
“ สไนเปอร์อยู่ไหนวะ ยิงมันเลย ”
ผู้ก่อการร้ายมากมาย โผล่ออกมาเข้าล้อมเฉินจิ้งเอาไว้ จำนวนคนน่าจะหลักสองพันได้ เฉินจิ้งจึงรีบฝ่าวงล้อมหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ปัง!ๆๆๆๆๆ
ตูมมม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน