จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 183

บนท้องฟ้า พวกหลวงจีนอู๋ซินที่ได้เห็นกระบวนท่าสังหารของจ้าวเทียน ต่างก็นิ่งเงียบไปอย่างเห็นได้ชัด ความสามารถของจ้าวเทียนอยู่นอกเหนือความเข้าใจของพวกเขาไปแล้ว

ด้วยเวลาเพียงห้าวินาที เขาสังหารผู้อาวุโสเซียนสิบสองคน…

ในความคิดของหลวงจีนอู๋ซินตอนนี้ สมาพันธ์บู๊ลิ้มช่างโง่เง่าสิ้นดี พวกเขาคิดเหรอว่า ถ้าไม่มีต้วนมู่เฉียนจะสามารถเอาชนะประเทศจีนได้

‘ ตอนนี้จ้าวเทียนยังอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นสูงสุด…เขาก็สามารถต่อกรกับครึ่งก้าวเซียนนภาได้สบาย แล้วถ้าเขาบรรลุไปอีกขั้นล่ะ คงไม่ใช่ว่า เขาจะสามารถต่อสู้กับเซียนนภาในตำนานได้หรอกนะ ’

“ พวกเรารีบส่งเด็กๆกลับหมู่บ้านเถอะ…อีกไม่นานการต่อสู้ก็คงจบแล้ว ” คังหลินพูดขึ้นอย่างไร้กังวล ถ้าพวกเขาสามคนช่วยกันไม่ถึงสิบนาทีก็คงเสร็จ

เหตุการณ์ที่พวกเขาเห็นในตอนนี้ คือจ้าวเทียนกำลังต่อสู้กับผู้อาวุโสซู่หยางอย่างดุเดือด อาจเป็นเพราะจ้าวเทียนสูญเสียพลังไปมาก รวมกับอาการบาดเจ็บสะสม ทำให้การต่อสู้กลายเป็นสูสีขึ้นมา

“ แต่ยังเหลือผู้อาวุโสซู่หยางอยู่นะ…เขาเป็นถึงครึ่งก้าวเซียนนภา ” เซียวถิงถิงพูดออกมาได้เพียงครึ่งประโยคก็หยุดลง เพราะเธอเห็นคนอื่นหันมามองเธอเหมือนเป็นตัวโง่งมไม่มีผิด

ทันใดนั้นเธอก็รู้ตัวว่า กำลังเอามาตรฐานของมนุษย์ปกติ ไปใช้กับจ้าวเทียน ซึ่งมันดูไร้สาระมาก

‘ ขนาดว่าฝ่ายตรงข้ามมีสิบสามคน…จ้าวเทียนยังได้เปรียบ แล้วตอนนี้เหลือแค่คนเดียว แบบนี้เขาจะแพ้ได้อย่างไร ’

หลังจากตกลงกันได้ ทั้งสามคนก็เริ่มพาพวกเด็กๆกลับไปส่งที่หมู่บ้านทันที เพียงไม่นานพวกเขาก็กลับมา ซึ่งมันก็พอดีกับที่ผลการต่อสู้ปรากฏ

“ สมาพันธ์บู๊ลิ้มไม่มีทางปล่อยแกแน่…ฉันจะรอแกอยู่ในนรก ” ผู้อาวุโสซู่หยางตะโกนออกมาด้วยความคลั่งแค้น แขนซ้ายของเขาถูกตัดเสมอไหล่ เลือดพุ่งกระจายออกมาเป็นสาย

“ งั้นแกคงต้องผิดหวัง…เพราะฉันจะส่งพวกมันตามแกไปในไม่ช้า ”

ฉัวะ!

กระบี่ราชันสวรรค์ได้แยกร่างอีกฝ่ายเป็นสองส่วน จากนั้นเปลวเพลิงสีทองก็แผดเผาซากศพจนเหลือเพียงแค่แหวนมิติกับกระบี่ไท่จี๋ลอยอยู่

วูป!

เพียงแค่จ้าวเทียนโบกมือเบาๆ พวกมันก็ถูกเก็บเข้าไปในแหวนมิติของเขา

‘ การต่อสู้ครั้งนี้กินแรงไม่น้อย…ขีดจำกัดของฉันในตอนนี้ คงรับมือกับยอดฝีมือระดับนี้ได้ทีละสองคน ไม่อย่างนั้นคงเสี่ยงเกินไป ’

‘ หากให้ฉันเปรียบเทียบ…ขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภา น่าจะสามารถแบ่งออกเป็นสี่ระดับ คือต่ำ กลาง สูง และสูงสุด ’

‘ ผู้อาวุโสซู่หยางสมควรถูกจัดอยู่ในระดับกลาง…ส่วนตัวฉันเองก็คงเทียบได้กับระดับสูง สำหรับผู้อาวุโสต้วนมู่นั้น เขาคงอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว ’

“ ศิษย์น้อง…พวกเราไปกันเถอะ สองคนนี้รู้ที่อยู่ของจ้าวหยุนปิง ” คังหลินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ระหว่างการต่อสู้ของจ้าวเทียน เขากับพวกหลวงจีนอู๋ซินได้พูดคุยทำความรู้จักกันแล้ว

“ อาตมาต้องขอบคุณประสกมาก…ที่ช่วยชีวิตพวกเด็กๆเอาไว้ ไม่อย่างนั้น ต่อให้อาตมาตายก็คงตายตาไม่หลับ ” หลวงจีนอู๋ซินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ตอนนี้เขาได้สะบั้นจิตมารของตัวเองแล้ว มีความรู้สึกว่าอีกไม่กี่ปีคงได้บรรลุขอบเขตขั้นถัดไป ส่วนเรื่องที่จ้าวเทียนเก็บธงวิญญาณแค้นไป เขาไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

เขามองออกว่า จ้าวเทียนไม่มีทางใช้มันทำเรื่องชั่วร้ายแน่นอน ดูจากที่เมื่อเกิดการต่อสู้อีกฝ่ายให้ความสำคัญกับชีวิตของเด็กๆเป็นอย่างแรก

“ ไม่เป็นไรหรอกครับ…ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ ที่ไต้ซือช่วยปกป้องเด็กๆพวกนั้น ” จ้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เด็กๆพวกนั้นเป็นประชาชนของประเทศ มันเป็นหน้าที่ของจ้าวเทียนอยู่แล้วที่ต้องปกป้องพวกเขา

ในทางกลับกัน หลวงจีนอู๋ซินและเซียวถิงถิงถึงกับยอมขัดแย้งกับสมาพันธ์ของตัวเองเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง คนแบบนี้ถือเป็นคนที่น่าชื่นชมมาก

ในระหว่างทาง จ้าวเทียนก็ได้รู้รายละเอียดของสมาพันธ์บู๊ลิ้มมากขึ้น ทั้งยังรู้ว่าสำนักไหนบ้างที่ยังเป็นมิตรและสนับสนุนสันติภาพ

ในเวลาเดียวกัน

ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานขนส่งสืออี้นัก เขตอาคมส่งตัวขนาดประมาณสิบตารางเมตร เต็มไปด้วยลังใส่อาวุธล้ำยุคมากมาย ของพวกนี้ได้ถูกรวบรวมโดยตระกูลจ้าวตลอดแปดปีที่ผ่านมา

มีกระทั่งปืนลำแสงที่ถือเป็นความลับสุดยอดของหน่วยพิเศษ ตอนนี้มันกำลังจะถูกส่งไปที่สำนักง้อไบ๊ พร้อมกับคนอีกสองคน

หากไม่ใช่เพราะแหวนมิติของพวกเขามีพื้นที่น้อยเกินไป มันคงจะสะดวกมากกว่านี้

“ แย่แล้ว…พวกเขากำลังมาที่นี่ ” แม่ชีชุดเทาพูดขึ้นอย่างร้อนรน ตอนแรกเธอไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปสำนักด้วย แต่เมื่อใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบผลการต่อสู้ดู เธอก็ตัดสินใจหนีกลับสำนักทันที

‘ ฉันไม่คิดว่า…จ้าวเทียนจะน่ากลัวขนาดนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสซู่หยางก็ยังถูกฆ่าตาย ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ต้องรีบกลับไปรายงานเจ้าสำนัก ’

ปังๆๆๆๆๆ ตูมมๆ

เสียงการต่อสู้ที่ปากถ้ำดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของจ้าวหยุนปิงทันที เขารีบถามขึ้นด้วยความกังวล

“ ผู้อาวุโส…ทำยังไงดี พวกมันมาถึงแล้ว ”

“ เงียบก่อน…ฉันกำลังเร่งมืออยู่ ” แม่ชีชุดเทากัดฟันพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว มือขวาของเธอส่งพลังเข้าไปในแผ่นหยกควมคุมเขตอาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งเวลาให้เร็วขึ้น

เพียงครู่เดียว

แวบ!

เขตอาคมทั้งหมดเปล่งแสงออกมา ม่านพลังสีขาวได้ปกคลุมพวกเขาทันที มันกำลังจะย้ายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านใน ไปยังสำนักง้อไบ๊ภายในโลกใบเล็ก

“ พวกเรารอดแล้ว ” จ้าวหยุนปิงพูดขึ้นอย่างดีใจ เขารีบประคองแม่ชีชุดเทาเอาไว้ เพราะอีกฝ่ายเสียพลังไปเยอะ

ทันใดนั้น

“ จ้าวหยุนปิง…ตายซะ! ”

จ้าวเทียนเหินร่างเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่เขามาช้าไปเพียงนิดเดียวเพราะเขตอาคมเริ่มทำงานแล้ว ตอนนี้ร่างของพวกจ้าวหยุนปิงเริ่มพร่าเลือน เป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังจะทำสำเร็จ

‘ ปล่อยให้มันรอดไปไม่ได้…มันรู้ความลับเยอะเกินไป ไม่อย่างนั้นแม่จะเป็นอันตราย ’

แขนขวาของจ้าวเทียนเกร็งขึ้น พลังมหาศาลระเบิดออกมา คมกระบี่ราชันสวรรค์มีเปลวไฟสีทองลุกโชนขึ้น

“ สังหารมันให้ฉัน! ”

วิ้งงง ครืนนน

เหมือนจิตวิญญาณกระบี่ได้ตื่นขึ้น มันหายไปจากมือจ้าวเทียนเหมือนทะลุมิติ

เปรี้ยง!

ม่านพลังเขตอาคมถูกเจาะเข้าไปในพริบตา คมกระบี่อยู่ห่างจากจ้าวหยุนปิงแค่คืบเดียวเท่านั้น มันกำลังจะสังหารเขา ตามบัญชาของผู้เป็นนาย

แต่ทว่า

ฉึกกก! ตูมมม!

ร่างหนึ่งถูกกระบี่เสียบทะลุไปปักตรึงอยู่ที่ผนังถ้ำด้านหลัง เลือดสีแดงสาดกระจายออกมา

“ แก…ทำไม ” แม่ชีชุดเทาพูดออกมาด้วยความสับสน และคลั่งแค้น

เธอไม่นึกว่าจ้าวหยุนปิงจะใช้ตัวเธอเป็นโล่ป้องกันเพื่อเอาตัวรอดแบบนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอทำดีกับอีกฝ่ายมาตลอด ทั้งยังเคยเสี่ยงตายพาเขาหนีจากจ้าวเทียนอีกด้วย

ทั้งที่เป็นแบบนั้น สุดท้ายสิ่งที่เธอได้รับคือการทรยศอย่างโหดร้าย

วูปป!

เขตอาคมเคลื่อนย้ายทำหน้าที่ของมันสำเร็จ จ้าวหยุนปิงได้หายไปแล้ว

“ บัดซบ…ไอ้สารเลวนั้น ” จ้าวเทียนระเบิดความโกรธออกมา เขาไม่ได้สนใจแม่ชีชุดเทาที่ตายไป เพราะนั้นมันก็สมควรอยู่แล้ว

แต่เขาแค้นที่ไม่สามารถสังหารจ้าวหยุนปิงได้ แบบนี้ไม่เท่ากับส่งเสือเข้าป่างั้นเหรอ ยังมีเรื่องของแม่เขาอีก หากอีกฝ่ายจับตัวเธอไปล่ะ

แม้แต่กงเสี่ยวเหมยก็อาจได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะเธอก็อยู่ในสำนักโบราณ

‘ ฉันไม่ยอมให้จบแบบนี้แน่ ’

วูป!

หินวิญญาณระดับเทพก้อนสุดท้ายปรากฏขึ้น จ้าวเทียนรีบดัดแปลงเขตอาคมทันที

“ ศิษย์น้อง…ฉันจัดการเอง ” คังหลินรีบลงมืออย่างรวดเร็ว

เรื่องเขตอาคมในสำนักดาราสวรรค์ นอกจากท่านอาจารย์แล้ว คังหลินคือผู้ที่เชี่ยวชาญที่สุด จ้าวเทียนเองก็รู้ดีจึงถอยหลบออกมา

“ ประสกทำแบบนั้นไม่ได้นะ…เขตอาคมนี้จะเชื่อมต่อกับสำนักง้อไบ๊โดยตรง นั่นหมายถึงพวกประสกจะตกเข้าสู่กลางวงล้อมของศัตรู ” หลวงจีนอู๋ซินรีบเตือนด้วยความหวังดี

“ วันนี้ฉันต้องฆ่าเขาให้ได้…ถ้ารอจนประตูสำนักโบราณเปิด มันก็คงสายไปแล้ว ” จ้าวเทียนพูดอย่างจริงจัง ด้วยพลังของเขากับศิษย์พี่ ขอเพียงไม่เจอตัวตนระดับเดียวกับผู้อาวุโสต้วนมู่ก็คงเอาตัวรอดได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน