ตอนนี้จ้าวเทียนกับคนส่วนใหญ่ในตระกูลลี่ได้กลับเข้าไปด้านในแล้ว ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็กำลังรอรถพยาบาลมารับไปรักษา
มองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ลี่เหยาเหยารู้สึกเจ็บปวดภายในส่วนลึกของจิตใจ
ก่อนหน้านี้เธอคิดมาเสมอว่าในโลกยุคปัจจุบันที่แสนสงบสุข การฝึกศิลปะการต่อสู้เป็นเพียงเรื่องไร้ประโยชน์
แท้จริงแล้วนั่นเป็นสิ่งที่เธอเข้าใจผิดมาตลอด สิ่งที่เห็นมันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น โลกนี้ไม่เคยสงบสุขเลย การต่อสู้เข่นฆ่านั้นมีอยู่ทุกที่ทุกเวลา เราจะได้รู้ก็ต่อเมื่อมันเกิดขึ้นกับตัวเราเอง
เมื่อถึงตอนนั้นเราถึงจะได้เห็นถึงเบื้องหลังอันโหดร้ายของโลกใบนี้…
วันนี้ เมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอเอง ชื่อเสียงเงินทองที่มีมันไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่เธอรักได้เลย
หากวันนี้จ้าวเทียนไม่อยู่ที่นี่ล่ะ…
ตระกูลของเธอ…
ครอบครัวที่เธอรัก…
ทั้งหมดคงถูกลบหายไป…
สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงแค่เศร้าเสียใจและมองดูมันเกิดขึ้นเท่านั้นเหรอ…
เธอรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน
….
“ เหยาเหยา…ทำไมพวกเรากับเขาถึงเหมือนอยู่คนละโลกกันเลย ” กงเสี่ยวเหมยที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“ พี่…พี่เสี่ยวเหมยหมายถึงอะไร ” เธอแกล้งไม่เข้าใจ แล้วถามกลับไป
“ พี่รู้นะ…เธอก็รู้สึกเหมือนกับพี่ ” กงเสี่ยวเหมยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ตัวเธอนั้นฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ภาพเหตุการณ์ทำนองนี้เธอเคยพบเจอมาหลายครั้งแล้ว ทำให้ตั้งสติได้ไวกว่าลี่เหยาเหยา
เมื่อได้ยินแบบนั้น ลี่เหยาเหยาก็ได้หันกลับมามองใบหน้าของหญิงสาวด้านข้าง เธอรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกบางอย่างที่สำคัญมากกับเธอ
“ รู้ไหม…ครั้งแรกที่พี่ได้รับรู้เรื่องราวพวกนี้ ตอนนั้นคนในตระกูลของพี่บาดเจ็บล้มตายไปหลายคน มันมากกว่าที่เธอเห็นในวันนี้อีก ”
“ ในตอนนั้นหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างจบลง ตัวพี่นั้นเศร้าเสียใจอยู่หลายวัน ภายในใจได้แต่กล่าวโทษโลกใบนี้ที่มันโหดร้าย ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับตัวพี่ ”
“ จนกระทั่งวันหนึ่ง…พี่ถึงได้รู้ ” กงเสี่ยวเหมยหลับตานึกถึงภาพเหล่านั้นในอดีต แล้วพูดต่อ
“ โลกของพวกเรานั้นแตกต่างจากคนธรรมดา พวกเราที่เกิดมาในตระกูลใหญ่ มีเส้นทางให้เลือกแค่สองทาง ”
“ ทางแรกคือการหลบหนี…ละทิ้งการต่อสู้แย่งชิงตัดขาดกับตระกูล แล้วหันไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา เธอก็จะมีชีวิตที่สงบสุข ไม่ต้องกลัวว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น”
ลี่เหยาเหยาเมื่อได้ยินแบบนั้นแววตาเธอก็เปลี่ยนไปทันที หากเธอเลือกเส้นทางนี้ แล้วครอบครัวของเธอล่ะ มันเป็นเส้นทางที่เห็นแก่ตัวมาก
“ ทางที่สองคือยอมรับในโลกที่โหดร้ายนี้ แล้วทำตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อในวันหนึ่งข้างหน้าเราจะสามารถปกป้องครอบครัวของเราได้ ”
“ ตัวพี่ในตอนนั้นมีอายุสิบสองปี เมื่อพี่ได้ตัดสินใจเลือกแล้ว ก็หันมาเริ่มฝึกฝนการต่อสู้อย่างจริงจัง แม้ว่ามันอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ช้าไปซักหน่อย แต่อย่างน้อยตัวพี่ในตอนนี้ก็สามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรอแต่ให้คนอื่นมาปกป้อง ” กงเสี่ยวเหมยพูดด้วยแววตาเป็นประกาย
“ ฉัน…ฉันอยากเข้มแข็งขึ้น ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว เธอรู้สึกโล่งใจมากที่ได้พูดประโยคนี้ออกไป
ที่จริงแล้วเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวมาก ไม่อย่างนั้นในตอนอายุ16ปี เธอคงไม่กล้าตัดสินใจออกจากตระกูลไปทำตามความฝันของตัวเอง
ในวันนี้เธอก็ได้เป็นซุปเปอร์สตาร์อย่างที่ตั้งใจไว้แล้ว เธอสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นนับล้านคนทำไม่สำเร็จ
งั้นตอนนี้…
เธอก็แค่ต้องทำมันอีกครั้ง…
เธอมีต้นทุนที่ได้เปรียบกว่าในอดีตมาก ด้วยชื่อเสียงและเงินทองที่เธอสะสมมาตลอด…
ลี่เหยาเหยาได้หลับตาลง
ภาพการต่อสู้ของโม่ซินหยาน ปรากฏขึ้นในความคิดเธอเป็นฉากๆ เธอคนนั้นมีพลังอันแข็งแกร่ง ความสามารถอันไร้คู่ต่อสู้แบบที่เธอไม่เคยพบมาก่อน และภาพสุดท้ายที่เธอนึกถึง คือภาพของจ้าวเทียนที่ก้าวเข้ามาปกป้องทุกคนในตระกูลของเธอ
เมื่อลี่เหยาเหยาลืมตาขึ้นมา แววตาของเธอนั้นก็เปล่งประกายความมุ่งมั่นอันแรงกล้าออกมา
เธอพบแล้ว…
เป้าหมายของเธอ…
‘ ฉันต้องเป็นปรมาจารย์ให้ได้…เพื่อที่จะได้ต่อสู้เคียงข้างเขา ปกป้องคนที่ฉันรัก! ’
วิ้งงงง!
เมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพก็ได้ตื่นขึ้นทันที มันได้ตอบสนองต่อเจตจำนงของเธอที่ต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น
!!
ลำแสงสีทองพุ่งทะลุท้องฟ้า ลงมาปกคลุมตัวของลี่เหยาเหยาเอาไว้ พลังแห่งเทพสวรรค์โบราณ ได้ถูกดึงดูดเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ร่างของลี่เหยาเหยานั้นลอยอยู่เหนือพื้นประมาณ2เมตร เธอตกอยู่ในภวังค์ ไม่ได้รับรู้เรื่องราวรอบๆตัวแม้แต่น้อย
“ นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น” กงเสี่ยวเหมยมีสีหน้าแตกตื่น เธอพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกพลังอันมหาศาลผลักออกมา
ฟุ่บ!
จ้าวเทียนปรากฏตัวขึ้นทันที เพียงแค่เขาวาดฝ่ามือไปด้านหน้าเบาๆ เสาลำแสงสีทองก็หดเล็กลงมา กลายเป็นลูกพลังงานวงกลมสีทอง
“ นี่มัน…การยอมรับโดยสมบูรณ์ ” จ้าวเทียนรู้สึกพูดไม่ออก เขาเคยตั้งใจว่าวันหนึ่งเมื่อเขาไปถึงขอบเขตเซียนของโลกใบนี้ แล้วจะรับเอาเมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพไป มันมีส่วนช่วยให้เขาทำสิ่งต่างๆได้มากมาย
ถึงขนาดมีความคิดที่จะเตรียมสิ่งตอบแทนให้ลี่เหยาเหยามากมายในอนาคต
แต่นี่คืออะไร หากมันเลือกที่จะหลอมรวมกับลี่เหยาเหยาแบบสมบูรณ์แบบนี้ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว แผนการที่วางไว้ในอนาคตกลับกลายเป็นไร้ประโยชน์
‘ ฉันอุตส่าห์ใช้ปราณหมื่นตะวันฟื้นฟูแกขึ้นมา แต่แกกลับทำกับฉันแบบนี้ ’
สายตาจ้าวเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาหันไปบอกกับคนอื่นที่ยืนมุงอยู่รอบๆ
“ กันบุคคลภายนอกออกไป ห้ามไม่ให้ใครมารบกวนเด็ดขาด ”
“ ถ้าใครฝ่าฝืนก็ฆ่าได้เลย! ”
ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นความเด็ดขาดของจ้าวเทียน ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน
แม้แต่ตอนต่อสู้กับปรมาจารย์ก่อนหน้านี้ จ้าวเทียนยังไม่จริงจังขนาดนี้
“ ไม่ต้องห่วง…ฉันรับรองจะไม่ให้ใครเข้ามาขัดขวางแน่นอน ” ลี่สวีฉิงรับปากด้วยเสียงจริงจัง เธอได้รับการรักษาจากจ้าวเทียนจนฟื้นฟูอาการบาดเจ็บมาได้8ส่วนแล้ว
จ้าวเทียนเมื่อได้ยินดังนั้นก็กล่าวคำขอบคุณออกไป จากนั้นได้ยื่นมือไปสัมผัสกับลูกพลังสีทองนั้น
‘ ขอฉันสั่งสอนเทพโบราณที่ไม่รู้ความตนนี้หน่อยเถอะ! ’
วูป!
ดวงจิตเขาหายเข้าไปในดวงแสงทันที…
ย้อนกลับไปในตอนที่เมล็ดพันธุ์พึ่งตื่นขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน