ภาพแรกที่จ้าวเทียนเห็นตอนเปิดประตูเข้ามาก็คือ คังหลินกับองค์หญิงฉินฟ่านเออร์กำลังนั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง โดยมีฮูหยินตระกูลฉินยืนสั่งสอนอยู่
ส่วนองค์หญิงจูม่านฉีนั้นถูกพี่สาวคนรองกับน้องสาวคนเล็กปลอบใจอยู่ ถือเป็นเรื่องดีที่ทุกคนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
!!
“ อ๊ะ…ผู้อาวุโสฉินหวง ”
“ สหายฉินหวง”
“ ฉินหวง…นายกลับมาแล้ว ”
ซึ่งการปรากฏตัวของจ้าวเทียนนั้นได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในห้องทันที โดยเฉพาะคังหลินที่แทบจะรับมือกับมารดาของตัวเองไม่ไหว เขาจึงส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาให้
“ ศิษย์น้องนายต้องช่วยฉันนะ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของฉินฟ่านเออร์ ” คังหลินได้ส่งเสียงทางลมปราณมาหาจ้าวเทียน
จ้าวเทียนที่ได้ยินแบบนั้นก็ผงะไปเล็กน้อย แต่เขาก็เก็บอาการได้อย่างรวดเร็ว แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ก่อนอื่น…ช่วยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฉันฟังก่อน”
ด้วยสถานะของจ้าวเทียนในตอนนี้ ไม่มีผู้ใดในตระกูลฉินมองเขาเป็นเพียงลูกน้องอีกต่อไป แม้แต่ผู้นำตระกูลฉินคนปัจจุบัน ยังปฏิบัติกับจ้าวเทียนแบบผู้ที่มีฐานะเท่าเทียมกัน
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฮูหยินตระกูลฉินให้เกียรติจ้าวเทียนมาก เธอไม่ได้รู้สึกแย่ที่จ้าวเทียนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในครอบครัวของเธอ
ในทางกลับกันยิ่งจ้าวเทียนแสดงท่าทีแบบนี้ ยิ่งเห็นได้ชัดว่าจ้าวเทียนมองตระกูลฉินเป็นพวกเดียวกันจริงๆ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทุกคนในตระกูลต่างเห็นตรงกันว่า จ้าวเทียนคงเป็นยอดฝีมือลึกลับที่สอนเคล็ดวิชาให้กับนายน้อยฉินหนาน
สิบนาทีผ่านไป
บนโต๊ะน้ำชาทุกคนในห้องได้นั่งล้อมวง ฟังองค์หญิงฉินฟ่านเออร์อธิบายเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งตลอดเวลาจ้าวเทียนก็สังเกตท่าทีขององค์หญิงจูม่านฉีตลอด และก็พบว่าเธอมักจะแอบมองไปทางศิษย์พี่รองเป็นระยะ
‘ ดูเหมือนจูม่านฉีจะมีใจให้ศิษย์พี่รองอยู่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เปิดโอกาสให้ฉินฟ่านเออร์มอมเหล้าเอาได้ ’
สำหรับผู้ฝึกตนแบบพวกเขานั้น ย่อมสามารถใช้พลังของตนเองขับฤทธิ์แอลกอฮอล์ออกมาได้ตลอดเวลา หากพวกเขาไม่อยากเมาจริงๆต่อให้ดื่มไปมากแค่ไหนก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เดี๋ยวนะ…บางทีเรื่องนี้
เหมือนจะฉุกคิดถึงเรื่องราวบางอย่างได้ จ้าวเทียนจึงหันไปบอกกับแม่และพี่สาวน้องสามของคังหลินว่า
“ ต้องขอโทษด้วย ขอเวลาให้ฉันคุยกับพวกเขาแค่สี่คนได้ไหม ”
“ เรื่องนี้… ” ฮูหยินตระกูลฉินมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เรื่องทั้งหมดนี้มันเกี่ยวข้องกับลูกชายของเธอเอง เธอจึงต้องการรับฟังด้วย
“ ฮูหยินวางใจได้…ฉันแค่ต้องการสอบถามเรื่องบางอย่างเท่านั้น เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีคำตอบที่น่าพอใจให้พวกคุณแน่นอน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดประตูเรียกแม่ของตัวเองและพวกน้องๆเข้ามา
“ ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรู้จัก นี่คือแม่และน้องชายน้องสาวของฉันเอง พวกเขาจะมาอาศัยอยู่กับฉันที่ตระกูลฉินด้วย เพียงแต่ต้องขอให้ช่วยปิดบังเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ”
!!
สิ่งที่ได้ยินนั้นทำให้ทุกคนมีสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วกองกำลังเงาปีศาจจะคัดเลือกเฉพาะคนที่ไร้ญาติขาดมิตรเข้ามา
ทำให้การปรากฏตัวของทั้งสามคนนี้ ได้ตอกย้ำความคิดที่ว่าจ้าวเทียนเป็นยอดฝีมือลึกลับที่ปลอมตัวเข้ามาสั่งสอนวิชาให้คังหลินยิ่งกว่าเดิม
ทำให้ฮูหยินและบรรดาพี่น้องของคังหลินแลกเปลี่ยนสายตากันครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจยอมทำตามที่จ้าวเทียนบอก เพราะในโลกหมิงหลงนี้ อาจารย์ก็เปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง ย่อมมีสิทธิ์จัดการเรื่องสำคัญของลูกศิษย์ได้
“ สวัสดีค่ะ…ฉันชื่อหนิงซือ ส่วนเด็กทั้งสองคนนี้ชื่อหนิงเป่าและหนิงฉี ขอบคุณมากที่ช่วยดูแลลูกชายของฉัน หลังจากนี้คงต้องขอรบกวนด้วยแล้ว ” เหยียนซือหนิงพูดขึ้นตามมารยาท เธอเลือกใช้ชื่อปลอมเพื่อปกปิดร่องรอยเอาไว้
สายตาของเธอกวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้อง จนเมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามขององค์หญิงทั้งสองคน ก็รู้สึกชื่นชมเล็กน้อย
‘ น่าเสียดาย ที่พวกเธอชอบพอกับศิษย์พี่ของลูกเทียนอยู่แล้ว ’
จากนั้นสายตาของเธอก็มาหยุดลงที่พี่สาวคนรองของคังหลิน ซึ่งทั้งกิริยามารยาทและการวางตัวสมเป็นกุลสตรีในห้องหอ ก็รู้สึกพอใจขึ้นมา
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจชั่วคราว เวลานี้เขาต้องแก้ปัญหาของศิษย์พี่รองก่อน
“ รบกวนฮูหยิน…ช่วยพาแม่และน้องๆของฉันไปเดินชมสถานที่หน่อยได้ไหม ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน