ในตอนที่หยวนไป่เฉียนใช้กระบี่มังกรสวรรค์เมฆาโจมตีเข้ามานั้น จ้าวเทียนก็ได้ใช้กระบี่ราชันสวรรค์ของเขาฟันสวนกลับไปด้วยแก่นแท้กระบี่เช่นกัน
หากวัดกันที่ขอบเขตแห่งกระบี่ ในจักรวาลแห่งนี้จ้าวเทียนไม่มีทางแพ้ให้ใครแน่นอน แต่เพราะคำเตือนของมหาเทพจูเซียนนั้นไม่อาจเพิกเฉยได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาให้การยอมรับ
‘ ดูเหมือนมหาเทพจูเซียนจะเข้าใจความสามารถของกระบี่เล่มนี้ดี ถ้าแบบนั้นลองเชื่อเขาดูก็แล้วกัน ’
จ้าวเทียนตัดสินใจในเสี้ยววินาที ปรับเปลี่ยนกระบวนท่าจากการปะทะตรงๆ เป็นเบี่ยงวิถีกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามออกไปด้านข้าง แล้วถอยหลบออกมาแทน
ทันใดนั้น
เมื่อแก่นแท้แห่งกระบี่ของจ้าวเทียน ปะทะเข้ากับภาพลวงตากระบี่มังกรสวรรค์เมฆาขนาดยักษ์ เหตุการณ์แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น
ฉัวะ!
ภาพลวงตาของกระบี่มังกรสวรรค์เมฆา ฟันผ่านแก่นแท้กระบี่ของจ้าวเทียนในพริบตา เหมือนกับพลังของเขาไร้ซึ่งตัวตน
เปรี้ยงงงง! ตูมมมม!
จุดที่จ้าวเทียนยืนอยู่เมื่อครู่ถูกฟันขาดเป็นทางยาว รอยตัดบางเฉียบเหมือนใช้มีดตัดเนย หากไม่ใช่ว่าเขาเชื่อคำเตือนของมหาเทพจูเซียนแล้วหลบออกมาทัน คงได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าจ้าวเทียนถอยออกมารักษาระยะห่างได้แล้ว เสียงของมหาเทพจูเซียนก็ดังขึ้นในความคิดเขาอีกครั้ง
“ นี่คือกระบี่ที่ข้าหลอมสร้างให้กับผู้สืบทอดของนิกาย ความสามารถของมันคือ เมื่อใดก็ตามที่ใช้เขตแดนผนึกศัตรูได้สำเร็จ การป้องกันของอีกฝ่ายก็จะไร้ผลไปทันที ”
“ ดังนั้น…ไม่ว่าเจ้าจะใช้เคล็ดวิชาอะไรออกไป ก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีของมันได้ ต่อให้สวมใส่เครื่องป้องกันในระดับเดียวกันก็ไม่มีผล กระบี่เล่มนี้สามารถตัดขาดได้ทั้งหมด ”
“ วิธีแก้มีอยู่สองอย่าง หนึ่งคือใช้เขตแดนที่ระดับสูงกว่าเพื่อทำลายเขตแดนเมฆาสวรรค์ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันย่อมไม่สามารถทำได้แน่นอน ”
“ งั้นก็เหลือเพียงวิธีที่สอง เจ้าต้องหลบการโจมตีทั้งหมดของมัน แล้วหาวิธีจัดการกับผู้ใช้โดยตรง จำไว้ว่าห้ามให้กระบี่เล่มนั้นสัมผัสตัวเด็ดขาด ”
เมื่อพูดจบ เสียงของมหาเทพจูเซียนก็หายไปอีกครั้ง
ทำให้จ้าวเทียนต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเหนื่อยหน่าย เคล็ดวิชากายาอมตะก็ครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยังเป็นกระบี่มังกรสวรรค์เมฆาอีก
‘ รู้สึกว่าปัญหาที่ฉันพบแต่ละอย่าง จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับมหาเทพจูเซียนทั้งนั้น ’
“ ถึงกับตะลึงไปเลยงั้นเหรอ…ถือว่าแกดวงแข็งมากที่สามารถหลบได้ทัน แต่มันก็แค่นั้นแหละ เพราะอย่างไรวันนี้แกก็ต้องตายอยู่ดี ” หยวนไป่เฉียนพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ เขาชอบความรู้สึก ที่ได้กุมชีวิตของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ในมือที่สุด
“ เหอะ…แค่อาศัยกระบี่เล่มนั้น ก็ทำให้คิดว่าเอาชนะฉันได้แล้วงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา แค่ให้คอยหลบการโจมตีทุกครั้ง มันไม่ได้สร้างความลำบากให้กับเขามากนัก
เพราะด้วยประสบการณ์และทักษะการต่อสู้ของจ้าวเทียน ต่อให้หยวนไป่เฉียนไปเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ไม่มีทางตามทัน
ที่เป็นปัญหาจริงๆ คือพรรคพวกของฝ่ายตรงข้ามที่กำลังยืนดูการต่อสู้อยู่มากกว่า จ้าวเทียนคิดว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับหยวนไป่เฉียน พวกที่เหลือต้องลงมือโดยไม่สนใจว่าจะเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวแน่นอน
‘ นี่ก็ผ่านมาสักพักแล้ว ไม่รู้ว่าทางศิษย์พี่รองเป็นยังไงบ้าง ’
สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ คือถ่วงเวลาออกไปจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึงเท่านั้น แล้วค่อยอาศัยจังหวะที่ศัตรูไม่ทันระวังตัว จัดการปิดบัญชีในคราวเดียว
“ เคล็ดกระบี่บูรพาสังหาร! ”
วูป!
สัญลักษณ์ดวงอาทิตย์สีทองปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผากของจ้าวเทียน ในสายตาของเขาท้องฟ้าสีครามได้ถูกแทนที่ด้วยทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่
กลุ่มดาวทั้งหมดในอาณาเขตทิศตะวันออกก็เปล่งประกายเจิดจ้า โดยที่จุดแสงซึ่งแทนตำแหน่งของดวงดาวแต่ละดวง ทั้งช่องโหว่และวิถีกระบี่ของศัตรูล้วนปรากฏขึ้นในสายตาของจ้าวเทียนทั้งหมด
บูมมม!
เปลวไฟสีทองได้ระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเทียนอีกครั้ง มันกลืนกินอาณาเขตรอบตัวเขาทั้งหมด
แม้เปลวไฟสีทองจะไม่สามารถทำลายเขตแดนเมฆาสวรรค์ของกระบี่เล่มนั้นได้ แต่ด้วยความร้อนแรงดุจดวงตะวันของมัน ทำให้ความกดดันมหาศาลที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทางสลายไปในพริบตา
ร่างกายของจ้าวเทียน จึงกลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน