เวลาบ่ายสามโมง ในวันเดียวกับที่กงเสี่ยวเหมยหายตัวไป บริเวณด้านหน้าเมืองหลวงแคว้นต้าฉินก็ได้มีกองกำลังผู้ฝึกตนนับร้อย ลอบเร้นเข้ามาใกล้อย่างเงียบเชียบ
นี่เป็นผลจากสมบัติเวทระดับสูงที่ช่วยอำพรางร่องรอย จากสัมผัสวิญญาณและการตรวจจับของค่ายกลภายในอาณาเขตที่กำหนด
“ นี่มัน…ไม่น่าเชื่อ พวกเขาสร้างค่ายกลเทวะได้จริงๆงั้นเหรอ ” ทูตเต่าดำกวาดตามองดูเมืองขนาดใหญ่ตรงหน้า ที่ถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลังสีฟ้าโปร่งใสด้วยสีหน้าตกตะลึง
เพราะแม้แต่ตัวเขาเองที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดอัจฉริยะด้านค่ายกล ก็ยังไม่อาจสร้างค่ายกลเทวะขึ้นมาในโลกระดับต่ำแบบนี้ได้ เนื่องจากพลังฟ้าดินในสถานนี้เจือจางจนเกินไป เป็นการยากมาก ที่จะทำให้ค่ายกลระดับสูงคงสภาพอยู่ได้นาน
“ หากพวกเราทุกคนโจมตีเข้าไปพร้อมกัน นายคิดว่าจะทำลายค่ายกลนี้ได้ไหม ” ทูตมังกรทองถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นว่าพวกเราจะทุ่มพลังทั้งหมด โจมตีเข้าไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน จึงจะมีโอกาสทำได้สำเร็จ ”
“ แต่ถ้าทำแบบนั้น พวกเราก็ต้องสูญเสียกองกำลังไปเกือบครึ่งเพราะผลสะท้อนกลับของค่ายกลและการตอบโต้ของศัตรูแน่นอน ” ทูตเต่าดำอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด เพราะไม่ต้องการให้ผู้นำของตนตัดสินใจผิดพลาด จนกระทบต่อภารกิจสำคัญของสำนัก
“ หึหึ ไม่ต้องกังวลไป ฉันรู้ดีว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เรื่องแก้แค้นไว้รอจนภารกิจของพวกเราสำเร็จก็ได้ ” ทูตมังกรทองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาได้รับรู้เรื่องการเสียชีวิตของน้องชายแล้ว รวมไปถึงเรื่องที่ว่าเป็นฝีมือใครด้วย
เมื่อได้ยินแบบนี้ทูตเทวะคนอื่นๆก็มีท่าทีผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนที่ทูตกระเรียนจะถามขึ้นต่อ
“ พี่ใหญ่จะให้พวกเราเปิดเผยตัวตนออกไปเลยไหม อีกฝ่ายจะได้ส่งคนออกมาพบหน้าเพื่อเริ่มเจรจากัน ”
ตั้งแต่ที่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเจ้าตำหนักเทวะรุ่นแรก สิ่งนี้มันสร้างความกดดันให้พวกเขาเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดต้องหยุดความเคลื่อนไหวทุกอย่างเอาไว้ และมีความคิดที่จะร่วมมือกับกองกำลังของโลกใบนี้เพื่อต่อกรกับศัตรู
“ ไม่จำเป็น ไหนๆเราก็มาถึงตรงนี้แล้ว ทำไมไม่ลองฉวยโอกาสนี้ทดสอบค่ายกลเทวะตรงหน้าดูสักหน่อยล่ะ ว่ามันจะแข็งแกร่งตามที่บอกจริงหรือเปล่า ” ทูตมังกรทองพูดขึ้นด้วยแววตาเฉียบคม
วูป!
หอกสีทองลวดลายมังกรได้ปรากฏขึ้น มันปลดปล่อยออร่าอันดุดันของอาวุธเทพระดับสูงออกมา
“ หอกมังกรดับโลกา! ”
ฟ้าดินเปลี่ยนสี หมู่เมฆกระจายตัวออกรอบด้าน มังกรทองจุติลงมาจากสวรรค์หลอมรวมเข้ากับหอกในมือของทูตมังกรทอง ทำให้คลื่นพลังมหาศาลกวาดออกไปรอบด้านอย่างรุนแรง
บูมมม!
เสี้ยววินาทีที่หอกสีทองหลุดออกจากมือ มันก็ได้พุ่งทะลวงกำแพงมิติจนพลังทลายในพริบตา การโจมตีนี้รุนแรงกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า เนื่องจากได้ประสานเขากับอาวุธระดับเทพที่แท้จริง
เปรี้ยงงง! ตูมมมม!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว คมหอกได้หมุนเป็นเกรียวคลื่นเหมือนสว่านอย่างน่ากลัว ฉีกกระชากม่านพลังที่ขวางกั้นไว้อย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเอง
ภาพลวงตาของกระบี่ขนาดยักษ์สีแดงสดใสก็พุ่งทะลวงมาจากท้องฟ้าเบื้องบน เหมือนกับดาวตกที่ทั้งน่ากลัวและงดงามในเวลาเดียวกัน
เปรี้ยงงง!
หอกมังกรทองถูกภาพลวงตากระบี่ยักษ์สีแดงบดขยี้อัดกระแทกลงบนพื้น จนเกิดเป็นหลุมลึกหลายสิบเมตร ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของของทุกคนที่ได้เห็น
“ แกเป็นใคร เปิดเผยตัวออกมาซะ ” ทูตมังกรทองมองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยแววตาเคร่งเครียด หอกมังกรทองได้ถูกเรียกให้กลับเข้ามาอยู่ในมืออีกครั้ง
ตั้งแต่เขาลงมายังโลกใบนี้ก็ถูกทำลายเคล็ดวิชาไปถึงสองครั้งติดกัน จนเริ่มสับสนแล้วว่า ที่นี่มันใช่โลกระดับต่ำจริงๆงั้นเหรอ ทำไมคู่ต่อสู้ที่เขาเจอแต่ละคนถึงแข็งแกร่งเหมือนกับยอดอัจฉริยะบนแดนสวรรค์ไม่มีผิด
ไกลออกไปหลายหมื่นเมตร เงาร่างของหญิงสาวชุดขาวเริ่มปรากฏตัวขึ้นที่ขอบฟ้า และกำลังตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“ พวกเจ้า…เป็นศัตรูกับเมืองนี้สินะ ”
เหรินฟางเซียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา พริบตาเดียวเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าทูตมังกรทอง พร้อมกับจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว
วิ้งงง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน