เฉินจิ้งมองไปที่นายน้อยหลี่ด้วยสายตาสมเพชเวทนา เขาไม่รู้จะแสดงสีหน้าอย่างไรดี
นายไม่จำเป็นต้องรนหาที่ตายขนาดนี้ก็ได้นะ…
แม้แต่ฉัน นายยังสู้ไม่ได้เลย…
แต่นายกลับไปท้าทายเจ้านายฉัน…
“ ทำไม…แกไม่กล้าใช่ไหม ” นายน้อยหลี่พูดขึ้นอย่างถือดี เขาแอบมองไปทางซุยลี่เหยาเล็กน้อย
ฉันต้องแสดงความแข็งแกร่งให้เธอเห็น…
“ ได้… ” จ้าวเทียนตอบด้วยท่าทีเฉยชา
“ ฮาฮ่า ฉันจะซัดแกให้หมอบเลย ” นายน้อยหลี่หัวเราะอย่างลำพอง เขาคว้าไปที่คอเสื้อของจ้าวเทียนทันที
ตัวเขานั้นเรียนยูโดมาตั้งแต่ตอนอยู่มหาลัย เขามั่นใจมากในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว
ควับ!
จ้าวเทียนได้ยกมือมากันเอาไว้
หมับ!
“ แกหลงกลฉันแล้ว ตายซะ! ” นายน้อยหลี่เปลี่ยนมาคว้าข้อมือจ้าวเทียนไว้ทันที
เขาหมุนตัวด้วยความรวดเร็วเพื่อที่จะทุ่มจ้าวเทียนลงที่พื้น
เพียงแต่…
!!
ตัวของจ้าวเทียนไม่ขยับแม้แต่น้อย เขาปล่อยให้นายน้อยหลี่ออกแรงได้เต็มที่
“ ได้ยังไงกัน…แกถ่วงลูกเหล็กไว้รึไงวะ ” นายน้อยหลี่ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ เขายังคงพยายามฉุดรั้งตัวของจ้าวเทียนไปข้างหน้า
แต่มันกลับไร้ประโยชน์…
“ พอรึยัง! ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความรำคาญ เขาพลิกมือออก แล้วคว้าข้อมือของนายน้อยหลี่แทน
ควับ!
ตูม!
เขาเหวี่ยงตัวนายน้อยหลี่ไปด้านหลังเหมือนเศษขยะ จนอีกฝ่ายตกลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง
อั่ก
“ ทำไม…แก ” นายน้อยหลี่พยายามประคองตัวขึ้นมา ด้วยความเจ็บปวด เขาแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาอย่างไม่ปิดบัง
เฮ้อออ
จ้าวเทียนถอนหายใจออกมา เขาเดินไปทางนายน้อยหลี่ช้าๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตื่นตัวขึ้นทันทีและตั้งท่าป้องกันรอไว้
แต่ว่า…
มันไร้ประโยชน์…
เปรี้ยง!
“ อ้ากก!...แขนฉัน ” นายน้อยหลี่ถูกจ้าวเทียนเตะใส่จนกระเด็น แขนทั้งสองข้างที่เขายกขึ้นมากันเอาไว้หักพับลงมาทันที
ตอนนี้เขานอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น ด้วยความเจ็บปวด …
จ้าวเทียนไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาเดินไปหาลงซุยด้วยสีหน้าจริงจัง เขาเมินเฉยต่อสีหน้าหวาดกลัวของคนอื่นโดยสิ้นเชิง
“ ลุงซุย…ผมได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว ผมอยากขอร้องให้ลุงยกเลิกเรื่องงานหมั้นไปซะ ” จ้าวเทียนพูดอย่างจริงจัง
“ แต่ลุงสัญญากับพ่อแม่ของเธอไว้แล้วนะ ” ลุงซุยตอบด้วยเสียงอ่อนแรง
“ งั้นผมก็ขอเป็นตัวแทนพ่อแม่ผมในการล้มเลิกสัญญานั้นเอง ” จ้าวเทียนพูดอย่างชัดเจน เขาคิดเรื่องนี้ไว้นานแล้ว
วันนี้เลยตั้งใจมาคุยกับลุงซุยโดยเฉพาะ…
เฮ้อออ
“ งั้นก็ได้…ลุงตกลง ” ลุงซุยตอบออกมาเบาๆ สีหน้าของเขาเหมือนกับแก่ลงไปหลายปี
“ ดีแล้วครับ…ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ความสัมพันธ์ของลุงกับผมยังเหมือนเดิม ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มโล่งใจ ซึ่งลุงซุยเองก็มีสีหน้าดีขึ้นมาก
จากนั้นเขาก็ยื่นบัตรกดเงินสีดำให้ลุงซุย
“ ในบัตรใบนี้มีเงินอยู่ 50 ล้านหยวน ผมขอให้ลุงรับไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่ลุงใช้ซื้อบริษัทของพ่อผมคืนมา อีกสามวันผมจะมอบเงินส่วนที่เหลือให้ ” จ้าวเทียนพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง
“ เธอไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้…เงินนี้เธอไม่ได้ไปยืมใครมาใช่ไหม ” ลุงซุยถามด้วยความกังวล
“ นี่เป็นเงินที่ผมทำธุรกิจกับตระกูลลี่คับ อีกสามวันผมก็น่าจะหามาคืนลุงจนครบ ” จ้าวเทียนตอบ
“ ไม่จริง…ฉันไม่เชื่อ คนอย่างแกจะไปหาเงินขนาดนี้มาได้ยังไง ” ป้าซุยพูดขึ้นด้วยท่าทางดูถูก
“ พ่อคะ…ถ้าเป็นเงินที่เขาขโมยมาเราอาจจะมีความผิดไปด้วยนะคะ ” ซุยลี่เหยาเห็นด้วยกับแม่เธอ
คนที่เรียนไม่จบมหาลัยอย่างจ้าวเทียนจะไปมีปัญญาทำธุรกิจอะไร ก็คงแค่หลอกพ่อของเธอเพื่อเอาหน้าเท่านั้น
“ เงียบกันให้หมด…ฉันเชื่อใจจ้าวเทียน พวกเธอไม่ต้องพูดแล้ว ” ลุงซุยพูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง
“ นายบอกมาตามตรงเลยนะ…เงินนั่นมาจากไหน ใช่ธุรกิจสีดำที่นายทำกับอันธพาลพวกนั้นหรือเปล่า ” ซุยลี่เหยาหันไปถามจ้าวเทียนด้วยสายตาเย็นชา
“ ฉันบอกไปแล้ว…ฉันทำธุรกิจกับตระกูลลี่ ” จ้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“ งั้นนายบอกได้ไหม ว่าเป็นธุรกิจอะไร ” ซุยลี่เหยาถามขึ้นอย่างเยาะเย้ย คิดจะมาโกหกเธองั้นเหรอ
จ้าวเทียนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปทันที เรื่องเม็ดยาพวกนั้นเป็นความลับที่รู้กันเฉพาะแกนนำทั้งสองตระกูลเท่านั้น เขาไม่สามารถบอกออกไปได้
“ นายบอกไม่ได้ใช่ไหม…เพราะนายโกหกไงล่ะ ” ซุยลี่เหยาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสะใจ เธอหันไปมองสีหน้าของพ่อเธอเล็กน้อย
“ เขาไม่ได้โกหก! ”
!!
กงเสี่ยวเหมยเดินเขามาอย่างช้าๆ เธอทักทายพ่อแม่ของซุยลี่เหยา แล้วหันไปยิ้มให้จ้าวเทียนเล็กน้อย
“ ขอโทษที…ฉันมาสายไปหน่อย เรื่องที่น้องจ้าวพูดเป็นความจริงทุกอย่าง ” กงเสี่ยวเหมยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ เสี่ยวเหมย…เธอหมายความว่ายังไง ” ซุยลี่เหยาถามขึ้นอย่างสงสัย
“ ธุรกิจที่จ้าวเทียนทำนั้น เป็นความลับทางการค้าของตระกูลลี่และตระกูลกง เขาคงไม่สามารถบอกเธอได้หรอก ” กงเสี่ยวเหมยอธิบายออกมา เธอแอบยักคิ้วให้เล็กน้อยซึ่งเขาก็ยิ้มตอบมา
“ นี่มัน…เป็นไปได้ยังไง ” ซุยลี่เหยารู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ แล้วก็…ลุงซุยคะ เช็คใบนี้ลุงเขียนจำนวนเงินที่น้องจ้าวเป็นหนี้อยู่ได้เลย เดี๋ยวทางตระกูลกงจะจ่ายให้ก่อนเอง” กงเสี่ยวเหมยยื่นเช็คให้ลุงซุยแล้วพูดขึ้น
“ ขอบคุณครับ…พี่เสี่ยวเหมย ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาไม่ค่อยอยากจะข้องเกี่ยวกับครอบครัวลุงซุยอีก
“ ซุยลี่เหยาเธอรู้ไหม ที่จริงวันนี้เธอไม่ต้องชวนพวกเพื่อนๆมาก็ได้ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะจ้าวเทียนตั้งใจจะมายกเลิกงานหมั้นอยู่แล้ว ” กงเสี่ยวเหมยพูดความจริงออกมา
เพราะคืนนั้นจ้าวเทียนได้บอกเรื่องนี้กับพวกเธอแล้ว และเธอไม่ชอบที่เพื่อนเธอมาดูถูกจ้าวเทียนแบบนี้
“ อะไรกัน…ฉัน ” ซุยลี่เหยารู้สึกสับสน แล้วที่เธอทำไปทุกอย่างเพื่ออะไรกัน
“ ฉันไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ที่ฉันมาวันนี้ก็ตั้งใจจะเอาเงินมาให้ลุงซุย และก็จะขอยกเลิกการหมั้นหมาย ” จ้าวเทียนอธิบาย
เขารู้สึกรังเกียจคำพูดของซุยลี่เหยาที่ได้ยินตอนอยู่หน้าประตูมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน