บนท้องฟ้าที่ความสูงประมาณหนึ่งร้อยเมตร โดรนติดกล้องสิบตัวกระจายกันอยู่รอบๆตัวพวกจ้าวเทียน เพื่อถ่ายทอดสดช่วงเวลาสำคัญทุกแง่มุม
“ ทุกคน คงได้ทราบผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกินขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาจากท่านประธานาธิบดีแล้ว ”
“ ทั้งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้แข็งแกร่ง ที่ข้ามมิติลงมายังโลกของพวกเรา และการเปิดเผยตัวตนของผู้มีพลังพิเศษ จะก่อให้เกิดปัญหามากมาย”
“ เพราะคนพวกนี้จะไม่ถูกจำกัดอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของคนธรรมดา อีกทั้งกฎหมายของแต่ละประเทศเอง ก็ไม่อาจควบคุมพวกเขาได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถปกป้องความสงบสุขของประเทศ และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ”
“ คงถึงเวลาแล้ว ที่ร้อยสำนักเซียนโบราณที่หลบซ่อนกายอยู่ จะต้องเปิดเผยตัวตนออกมาและรวมกันเป็นหนึ่ง ตามคำปฏิญาณที่เคยให้ไว้ ”
“ ฉัน…จ้าวเทียน ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ขอประกาศก่อตั้งสมาพันธ์เซียนแห่งประเทศจีน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ”
เมื่อจ้าวเทียนพูดจบ ภาพบนจอก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
บุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้าห่างไกลผู้คน ตรงด้านหลังเขาเป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่โอ่อ่ากว้างขวาง ตามแบบฉบับยุคสมัยจีนโบราณ
เมื่อกล้องที่ติดอยู่กับโดรนซูมภาพเข้าไปใกล้ ก็จะเห็นป้ายจารึกตัวอักษรสีทองที่มีลายเส้นดุดันเฉียบคมเหมือนถูกสลักด้วยกระบี่
สำนักหัวซาน!
ซึ่งชายคนทียืนอยู่ก็คือเทพกระบี่เอง และเมื่อเขาได้รับสัญญาณจากจ้าวเทียน ก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมทั้งวาดฝ่ามือไปในอากาศ
“ เส้นชีพจรมังกรศักดิ์สิทธิ์…จงเปิดออก! ”
บูมมมม!
สิ้นเสียง สำนักหัวซานก็ระเบิดคลื่นพลังวิญญาณมหาศาลออกมา เกิดเป็นเสาลำแสงสีทองขนาดใหญ่พุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า เหมือนเป็นสะพานเชื่อมต่อสวรรค์และโลก
“ สำนักหัวซานแห่งห้าขุนเขากระบี่ ยินดีรับคำสั่งผู้นำสมาพันธ์จ้าวเทียน ”
เสียงตะโกนอันเข้มแข็งดังขึ้นจากภายในสำนักหัวซาน พร้อมกับศิษย์นับพันใช้วิชาตัวเบาพุ่งออกมาตั้งขบวนอยู่ด้านหน้าอย่างเป็นระเบียบ
ก่อนที่ผู้อาวุโสระดับเซียนและเจ้าสำนักรวมทั้งสิ้นแปดคน จะเดินเหยียบอากาศขึ้นไปยืนอยู่ด้านหลังเทพกระบี่
เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ ได้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมของประเทศจีน ซึ่งก็ถูกถ่ายทอดสดออกไปให้ทุกคนได้ชมทั้งหมด
“ วัดเส้าหลิน ยินดีรับคำสั่งผู้นำสมาพันธ์จ้าวเทียน ”
“ พรรคกระยาจก ยินดีรับคำสั่งผู้นำสมาพันธ์จ้าวเทียน ”
“ สำนักบู๊ตึ้ง ยินดีรับคำสั่งผู้นำสมาพันธ์จ้าวเทียน ”
“ สำนักง้อไบ๊ ยินดีรับคำสั่งผู้นำสมาพันธ์จ้าวเทียน ”
“ สำนักช้วนจินก่า ยินดีรับคำสั่งผู้นำสมาพันธ์จ้าวเทียน ”
ถึงแม้จะใช้เวลานานอยู่บ้าง กว่าจะครบร้อยสำนัก แต่ทุกคนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดกลับไม่ได้ลุกหนีไปไหน พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงและตื่นเต้นกับสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
โดยเฉพาะชาวจีนที่ออกไปตั้งรกรากอาศัยทั่วทุกมุมโลก เสี้ยววินาทีที่รายชื่อสำนักอันคุ้นเคยถูกประกาศออกมา พวกเขาต่างก็กำหมัดแน่นด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่าน
ตำนานเป็นเรื่องจริง…ร้อยสำนักอันโด่งดังในยุทธภพครั้งอดีตกำลังจะหวนคืนกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ต่อหน้าผู้คนทั้งโลก
บูมมม!
เสาลำแสงสีทองจากหนึ่งร้อยสำนัก พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าจากทุกพื้นที่ของประเทศจีน ภาพเหตุการณ์นี้มันช่างดูยิ่งใหญ่อลังการเป็นอย่างมาก
การระเบิดพลังของเส้นชีพจรมังกรหนึ่งร้อยเส้น ที่จ้าวเทียนนำกลับมาจากโลกหมิงหลง ได้ยกระดับพลังวิญญาณให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก มันได้แปรเปลี่ยนให้ประเทศจีนกลายเป็นดินแดนสวรรค์ของผู้ฝึกตนอีกครั้ง
จนทำให้ผู้ฝึกตนอิสระบางคนทะลวงขอบเขตต่อไปได้ทันที ยกตัวอย่างเช่นปรมาจารย์ตระกูลใหญ่ต่างๆ ที่ปะทุพลังขึ้นมาอย่างพร้อมเพียงกันขึ้นไปสู่ขอบเขตครึ่งก้าวเซียน
ซึ่งขอเพียงมอบเศษผลึกแห่งดวงดาวให้พวกเขา ก็จะสามารถสร้างเมล็ดพันธุ์เซียนได้ทันที
ณ ห้องทำงานประธานาธิบดี ทำเนียบขาว
“ ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้าง พวกร้อยสำนักที่เปิดเผยตัวออกมา มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับไหน ” ประธานาธิบดีถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกสิบคนในห้องก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เช่นกัน
“ เอ่อ…เราได้ข้อมูลคร่าวๆมาแล้ว เพราะสามารถแฮกเอาดาวเทียมสื่อสารทางทหารคืนมาได้หนึ่งดวง เพียงแต่มันดูออกจะน่าเหลือเชื่อไปหน่อย ฉันเลยสั่งให้หน่วยข่าวกรองไปตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ” รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมตอบแบบไม่มั่นใจนัก
“ หมายความว่าไงที่ต้องรอการตรวจสอบใหม่ งั้นคุณก็รายงานข้อมูลเก่ามาให้ฉันฟังก่อนแล้วกัน ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมก็ถอนหายใจยาวออกมา แล้วนำเอกสารแผ่นหนึ่งตั้งลงกลางโต๊ะประชุม เพื่อให้ทุกคนได้เห็น
ระดับ S ( ครึ่งก้าวเซียนนภา ) สิบสองคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน