เทพีอามาเทราสุกำลังนั่งเอนกายอยู่บนบัลลังก์จักรพรรดิอย่างสง่างาม เพื่อฟังจ้าวเทียนที่นั่งอยู่ด้านตรงข้าม บอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น รวมไปถึงข้อสันนิษฐานต่างๆ โดยที่ไม่ได้พูดขัดออกมาแม้แต่คำเดียว
จนกระทั่งเมื่อเห็นว่าเขาพูดจบแล้ว เธอจึงเอนหลังพิงไปทางด้านซ้ายของบัลลังก์ด้วยท่าทีเกียจคร้าน พร้อมกับเอ่ยวาจา
“ หากเป็นดังเช่นที่เจ้าว่ามาจริงๆ คนร้ายก็ต้องมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกับห้าแม่ทัพเทพแห่งวังสวรรค์เท่านั้น จึงจะทำเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้โดยไม่มีใครพบเห็น ”
“ แต่ปัญหาก็คือ ห้าแม่ทัพเทพไม่รวมหลี่จิ้งที่ถูกสังหารไป อีกสี่คนที่เหลือกำลังปฏิบัติหน้าที่บนแดนสวรรค์ตามปกติ เรื่องนี้ราชันเทพโอดินเป็นผู้ตรวจสอบด้วยตัวเอง ”
“ หากคนร้ายใช้ร่างอวตารแบ่งแยกดวงวิญญาณลงมาล่ะ ถ้าทำแบบนั้นร่างต้นก็ยังคงแสดงตัวได้ตามปกติ สามารถทำสิ่งต่างๆได้เหมือนที่ผ่านมา ” จ้าวเทียนพูดขัดขึ้น
“ นี่เจ้ากำลังดูถูกพวกข้าอยู่งั้นรึ ร่างอวตารที่ถูกควบคุมด้วยเศษเสี้ยวดวงวิญญาณ จะมาต่อกรกับร่างทิพย์ที่จุติลงมาด้วยพิธีกรรมเซ่นสังเวยเทพเจ้าได้อย่างไร ”
“ หากอีกฝ่ายสามารถเอาชนะน้องชายของข้าได้อย่างสิ้นเชิงแบบนี้ อย่างน้อยก็จะต้องใช้วิธีการแบบเดียวกัน ทั้งยังต้องจุติดวงวิญญาณสมบูรณ์ลงมา เพื่อควบคุมร่างอวตารด้วยตนเอง จึงจะมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำได้ ” เทพีอามาเทราสุอธิบายเสียงเรียบ สายตาของเธอจับจ้องไปที่ท่าทีกิริยาต่างๆของจ้าวเทียน เหมือนกำลังประเมินอะไรบางอย่าง
‘ อัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรอยู่ในระดับปกติ หรือสิ่งที่เขาพูดมาจะเป็นความจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การลงมือของเขา ’
หากไม่ติดที่ค้นพบกลิ่นอายของจ้าวเทียนกับเปลวเพลิงสุริยัน อยู่ตรงสถานที่ซึ่งเทพสึคุโยมิถูกสังหาร เธอก็คงเชื่อทุกอย่างที่เขาพูดออกมาตั้งแต่แรกแล้ว
“ เอาเถอะ ไม่ว่าคนร้ายจะเป็นใคร ก็ย่อมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันแน่นอน คุณอย่าลืมว่าคนของฉันก็ถูกสังหารไปเช่นเดียวกัน ” จ้าวเทียนตอบกลับด้วยท่าทีหงุดหงิด ที่ถูกอีกฝ่ายจ้องจับผิดตลอดเวลา
“ หึหึ จะเอาชีวิตของมนุษย์ชั้นต่ำเพียงไม่กี่คนมาเทียบกับน้องชายของข้าได้อย่างไร บางทีมันอาจจะเป็นแผนยอมเฉือนเนื้อตนเองของเจ้าก็ได้ ”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของจ้าวเทียนก็เปลี่ยนไปทันที พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ คุณควรระวังคำพูดเอาไว้บ้าง ทุกคนที่ตายไปล้วนเป็นผู้กล้าในสายตาฉัน คุณค่าของพวกเขาไม่มีทางด้อยกว่าร่างอวตารเทพสึคุโยมิเด็ดขาด ”
“ เหอะ ก็แค่ชีวิตของพวกมดปลวกที่ไม่มีปัญญาขึ้นสู่แดนสวรรค์ แม้กระทั่งเป็นทหารชั้นเลวให้กองทัพข้ายังไม่คู่ควรเลยด้วยซ้ำ ผมเพียงเส้นเดียวของน้องชายข้า ยังเหนือกว่าพวกมันเป็นร้อยเท่า ” เทพีอามาเทราสุพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง สายตาของเธอจ้องมองไปทางจ้าวเทียนอย่างท้าทาย เหมือนต้องการกระตุ้นโทสะเขาให้ลงมือ
ซึ่งนี่ก็เป็นไปตามแผนการ ที่เธอได้นัดแนะกับเทพโอซีริสตั้งแต่ต้น เพื่อทดสอบพลังที่แท้จริงของจ้าวเทียน และบีบบังคับให้เขายอมสยบ
“ ดีมาก ถึงจะไม่รู้ว่าคุณพยายามยั่วยุฉันไปทำไม แต่คุณทำมันสำเร็จแล้ว” จ้าวเทียนลุกยืนขึ้นช้าๆ ความกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมา ทำให้ศาลเจ้าทั้งหลังสั่นไหวอย่างรุนแรง จนเขตอาคมป้องกันมากมายที่ถูกเตรียมไว้ทำงานขึ้นพร้อมกัน สะกดให้ทุกสิ่งทุอย่างกลับคืนเป็นเหมือนเดิม
“ น่าสนใจ เป็นเพียงมนุษย์ที่ถือกำเนิดบนโลกระดับต่ำ แต่กลับครอบครองพลังความแข็งแกร่งของเทพสวรรค์ เจ้าคงเก็บซ่อนความลับเอาไว้มากมายสินะ ” เทพีอามาเทราสุเองก็ลุกขึ้นจากบัลลังก์จักรพรรดิเช่นเดียวกัน
แวบ!
ดวงตาของเธอส่องประกายเจิดจ้าดุจแสงตะวัน อาภรณ์เครื่องแต่งกายเปลี่ยนเป็นชุดเกราะสงครามเข้ารูปสีทองหรูหรา ทั้งสูงสง่าและงดงามในเวลาเดียวกัน
แต่ทว่า
ยังไม่ทันที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ แผ่นป้ายดาราสวรรค์ของจ้าวเทียนก็กระพริบแสงถี่รัว ทำให้เขารีบตรวจสอบมันดูด้วยความแปลกใจ
“ ศิษย์น้อง ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายมาก เหยียนซืออู่กับจ้าวหยูเหมยถูกศัตรูจับตัวไปแล้ว ทางฉันและศิษย์น้องหญิงกำลังออกค้นหาด้วยตัวเอง นายก็ควรรีบกลับมาให้เร็วที่สุดนะ ”
!!
เสียงของคังหลินดังขึ้นในหัวจ้าวเทียน ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวลงอย่างชัดเจน ร่างกายสั่นสะท้านจนไม่อาจควบคุมได้
‘ ไม่จริงใช่ไหม ด้วยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของท่านตา จะถูกฝ่ายตรงข้ามจับตัวไปโดยไร้ซึ่งการต่อต้านได้อย่างไร ’
ทั้งสองคนที่ถูกจับไปคือครอบครัวคนสำคัญของจ้าวเทียน ความปลอดภัยของพวกเขาอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ หากต้องเสียทั้งคู่ไปจ้าวเทียนคงอาละวาดอย่างบ้าคลั่งแน่นอน
“ เหอะ เจ้ากำลังคิดจะหนีสินะ ” เทพีอามาเทราสุพูดเสียงเย็นชา เมื่อเห็นจ้าวเทียนหันหลังให้เธอและกำลังจะจากไป
“ กระจกยาตะ เขตแดนแห่งทิวา! ”
แวบ!
กระจกสีทองที่ตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งเป็นอวตารของอาวุธระดับพระเจ้าของเทพีอามาเทราสุ ได้เปล่งแสงเคลื่อนย้ายทุกคนมาอยู่ในมิติปิดกั้นในเงากระจก ซึ่งมีเทพโอซีริสรออยู่แล้ว
“ คลายเขตแดนซะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องไปทำ ” จ้าวเทียนกัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธ เขาไม่อยากเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์อยู่ที่นี่แม้แต่นาทีเดียว
“ หืม มีอะไรเกิดงั้นเหรอ ดูจากท่าทีตื่นตระหนกตอนเจ้าสัมผัสแผ่นป้ายสำนัก คงจะเป็นเพราะมีญาติพี่น้องของเจ้าตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม ที่นี้เข้าใจความรู้สึกของข้ายามที่น้องชายถูกจับตัวไปหรือยัง ”
เทพีอามาเทราสุยิ้มอย่างเย็นชา เมื่อคิดว่าตนเองคาดเดาได้ถูกต้อง จากจิตสังหารอันเกรี้ยวกราดที่อีกฝ่ายปล่อยออกมา
วูป!
บนฝ่ามือของเทพโอซีริสได้ปรากฏดวงไฟสีทองขนาดเล็ก จากนั้น มันก็ถูกควบคุมให้ลอยไปหยุดลงตรงหน้าจ้าวเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน