ราชโองการประกาศิตราชัน ของสิ่งนี้เทพเอ้อหลางได้รับมากจากการสั่งสมความดีความชอบ และการบรรลุภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ในสงครามแย่งชิงอำนาจแดนสวรรค์เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ซึ่งมหาเทพอวี่หวงเป็นผู้ประทานให้กับมือพระองค์เอง
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่มหาเทพอวี่หวงขึ้นปกครองแดนสวรรค์ ก็ได้มอบราชโองการประกาศิตราชันให้กับเทพเอ้อหลางเพียงผู้เดียวเท่านั้น นี่จึงเป็นการแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดิกับขุนศึกคู่บัลลังก์ได้เป็นอย่างดี
ตราบใดที่เทพเอ้อหลางยังมีราชโองการม้วนนี้อยู่ ไม่ว่าเขาจะทำความผิดหนักหนาสาหัสซักเท่าใด ขอเพียงไม่ได้ก่อกบฏหรือเข่นฆ่าเชื้อสายขององค์มหาเทพโดยไร้ความผิด ก็ย่อมได้รับการยกเว้นโทษตายทุกครั้ง
นอกจากนี้ ราชโองการประกาศิตราชันยังสามารถใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย เพราะมันมีเจตจำนงพร้อมทั้งพลังสามส่วนของมหาเทพอวี่หวงสถิตอยู่
ด้วยฤทธานุภาพของผู้ปกครองแดนสวรรค์และมรรคาจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าศัตรูจะร้ายกาจแค่ไหน ถ้ายังไม่ได้บรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพ ก็ต้องยอมสยบให้ราชโองการม้วนนี้อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่ราชโองการประกาศิตราชัน ถูกตั้งข้อจำกัดให้ใช้ในการต่อสู้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และเมื่อใดที่มันทำหน้าเสร็จสมบูรณ์ ก็จะสลายไปในทันที
นี่จึงเป็นสาเหตุที่เทพเอ้อหลางแม้จะต้องสูญเสียร่างอวตารไป ก็ไม่ยินยอมใช้ราชโองการประกาศิตราชันในตอนแรก เขาต้องการเก็บมันไว้ใช้ช่วยชีวิตร่างแท้จริงของตนเองในช่วงเวลาคับขัน
แต่ทว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโทสะของจ้าวเทียน ความอดทนอดกลั้นและศักดิ์ศรีในฐานะแม่ทัพใหญ่ของเทพเอ้อหลางก็แทบจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
การถูกจับศีรษะกระแทกใส่พื้นในท่าโค้งคำนับ ต่อหน้าสักขีพยานมากมาย เรื่องนี้ถือเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่อย่างรุนแรงที่สุด
และที่เลวร้ายที่สุด แม้แต่สุนัขคู่กายที่มีความสัมพันธ์ไม่ต่างไปจากน้องชายแท้ๆ ก็ยังมาถูกสังหารด้วยวิธีการอันโหดร้ายอีก นี่จึงเป็นสาเหตุที่เทพเอ้อหลางโมโหจนขาดสติ เรียกใช้ราชโองการประกาศิตราชันออกมาโดยไม่รู้ตัว
ในใจของเขา…คิดเพียงแต่ว่าจะต้องสังหารศัตรูทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
แวบ!
เหมือนจะตอบสนองต่อความต้องการของเทพเอ้อหลาง เกิดเป็นลำแสงเจ็ดสีสาดส่องลงมาจากท้องฟ้าเข้าปกคลุมร่างเจตจำนงของมหาเทพอวี่หวง ทำให้รูปลักษณ์ดูเปลี่ยนแปลงไป ทั้งดูศักดิ์สิทธิ์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
“ ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ผิดแน่ มหาเทพอวี่หวงได้ลงมือแทรกแซงและเข้าควบคุมร่างเจตจำนงของตนเอง ” เทพโอดินพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นี่คือศัตรูที่สังหารบิดาเขาไม่มีทางจำผิดแน่นอน
“ ว่าไงนะ ”
เทพีอามาเทราสุกับเทพโอซีริสใบหน้าซีดเผือกในทันที แค่ต้องเผชิญหน้ากับร่างเจตจำนงมหาเทพก็เลวร้ายพออยู่แล้ว นี่ยังจะเปลี่ยนกลายเป็นมหาเทพตัวจริงอีกเหรอ
“ ไม่ต้องกังวล ร่างเจตจำนงนี้จะคงอยู่เพียงยี่สิบลมหายใจเท่านั้น ขอเพียงถ่วงเวลาออกไป พวกเจ้าก็จะเป็นฝ่ายชนะ” เทพมังกรอ๋าวเฟิงพูดขึ้นเสียงดัง
นี่ไม่ใช่ร่างอวตารที่ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าของ แต่เป็นร่างเจตจำนงที่ถือกำเนิดจากพลังของมหาเทพอวี่หวงที่สถิตอยู่ในราชโองการ
ซึ่งก็คล้ายกับสมบัติช่วยชีวิตของผู้สืบทอดนิกายระดับสูงต่างๆ ที่ผู้อาวุโสจะผนึกกระบวนท่าโจมตีของตนลงไป ไว้ให้ทายาทใช้ปกป้องชีวิตในช่วงเวลาวิกฤต แน่นอนว่ามันใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
บูมมม!
เพียงแค่มหาเทพอวี่หวงสะบัดมือเบาๆ คลื่นพลังสีทองก็ผลักจ้าวเทียนจนกระเด็น แล้วเข้าห่อหุ้มเทพเอ้อหลางกับนาจาเอาไว้
มันได้ช่วยรักษาเยียวยาอาการบาดเจ็บให้พวกเขาในพริบตา แม้แต่ตาข่ายสวรรค์บรรพการที่ผูกมัดอยู่ก็ยังถูกทำลายไปพร้อมกัน
ทันใดนั้น
“ คุกเข่า! ”
วูป!
เมื่อวาจาสิทธิ์ของมหาเทพถูกเอ่ยออกมา สัญลักษณ์ตัวหนึ่งก็หลุดออกจากราชโองการสีทอง แล้วลอยขึ้นไปประทับบนท้องฟ้า
นี่คือการบังคับใช้อำนาจแห่งจักรพรรดิผ่านทางกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์ ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกมนุษย์ต้องยอมจำนน
ตุบ!ๆๆๆๆๆๆ
เหล่าปีศาจอสูรกายและผู้ทรงพลัง ที่เคยอวดโอ่ความสามารถในสงครามก่อนหน้านี้ ต่างพากันทรุดกายหมอบกราบลงไปบนพื้นด้วยร่างอันสั่นเทา
แม้พวกเขาจะพยายามต่อต้านซักแค่ไหน ก็ไม่อาจเอาชนะแรงกดดันมหาศาลจากสวรรค์เบื้องบนได้อยู่ดี สุดท้ายก็จำต้องยอมจำนนด้วยความสิ้นหวัง
“ จะให้พวกเราคุกเข่างั้นเหรอ อย่าได้ฝันไป ”
“ โฮกกก ข้าจะต้องเอาชนะความกดดันนี้ให้ได้ ”
“ นายท่าน! พวกเราเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ”
ยื้อเวลาออกมาได้เพียงแค่สองลมหายใจเท่านั้น ผู้ถูกเลือกทั้งเจ็ดรวมไปถึงพวกอลิซาเบธก็ประสบชะตากรรมเดียวกับคนอื่นๆ
ระดับของทั้งสองฝ่ายมันแตกต่างจนเกินไป ต่อให้พวกเขาเป็นตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดบนโลก ก็มิอาจต่อกรกับมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจปกครองเอกภพได้
สามารถบอกได้เลยว่า ร่างเจตจำนงของมหาเทพอวี่หวงที่ได้รับการเสริมพลังจากราชโองการประกาศิตราชันนั้น แม้จะถูกจำกัดพลังด้วยกฎเกณฑ์ของโลก ก็ยังมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล่าเทพทั้งหมดที่จุติลงมารวมกันเสียอีก
ในสถานที่แห่งนี้ ผู้ที่ยังยืนอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบนัก ก็มีเพียงพวกเทพโอดินทั้งสามที่ได้รับการปกป้องจากอาวุธระดับพระเจ้า กับเหล่าเทพเจ้ามังกรซึ่งเป็นร่างแยกของมังกรโกลาหลยุคบรรพกาล
ส่วนจ้าวเทียนนั้น ก็กำลังฝืนต้านทานด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี เขาได้ใช้เคล็ดกายาอมตะปลดปล่อยร่างจำแลงจักรพรรดิ ทั้งยังกระตุ้นเปลวเพลิงสุริยันในร่างกายจนลุกโชนขึ้นท้องฟ้า ดึงดูดความสนใจจากทุกสายตาในทันที
แกร่ก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน