ณ แดนสวรรค์ผู้ปกครองแห่งเก้าท้องฟ้าสิบแผ่นดิน บนพระที่นั่งบัลลังก์จักรพรรดิสูงสุดมหาเทพอวี่หวงได้ลืมตาตื่นขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด
บูมมมม!
แค่เพียงจิตสังหารที่ปล่อยออกมาโดยไม่ตั้งใจของพระองค์ ก็ทำให้อาณาเขตพระราชวังทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหล่าข้าราชบริพารที่ได้พบเห็นต่างพากันก้มหัวลงกราบกรานด้วยความหวาดกลัว ด้วยไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
“ ไสหัวออกไปให้หมด! ”
บัญชาแห่งองค์มหาเทพ ดุจอสนีบาตยามแล้ง ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใดสงสัยหรือซักถามทั้งสิ้น ทั้งหมดล้วนรีบจากไปแต่โดยดี ราวกลับกลัวว่าตนเองจะตกเป็นที่ระบายโทสะของมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่
“ แม้แต่เอ้อหลางกับนาจาเอง ก็ยังถูกจับตัวกลับไปงั้นรึ มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร แค่พริบตาเดียวเท่านั้นแผนการทุกอย่างของข้าก็ถูกทำลายจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ ”
อย่าให้พูดถึงการสังหารจ้าวเทียนกับหลินซูซินซึ่งเป็นเป้าหมายหลักเลย แค่จะนำแผ่นหินโกลาหลกลับมาก็ยังพบกับความล้มเหลวอีก โดยเฉพาะการที่ต้องมาสูญเสียโลหิตแก่นแท้มังกรบรรพการให้ศัตรูนั้นจะสร้างปัญหาในอนาคตมากที่สุด
แวบ!
มหาเทพอวี่หวงได้วาดฝ่ามือไปทางซ้าย ปรากฏเป็นม่านพลังโปร่งใสคล้ายกับกระจกคริสตัล มันได้ฉายภาพพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง นั่งสมาธิอยู่ภายในดวงประทีปขนาดใหญ่เปล่งกายแสงเจ็ดสีออกมา
“ พระหรานเติง(พระทีปังกรพุทธเจ้า)เหตุใดท่านจึงปล่อยให้โฮ่วอี้ออกมาจากแดนสุขาวดี ก่อนถึงกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ คิดจะล้มเลิกความร่วมมือกับวังสวรรค์ของข้างั้นรึ ” มหาเทพอวี่หวงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา หากไม่ใช่เพราะการสอดแทรกของโฮ่วอี้แผนการทุกอย่างก็คงสำเร็จไปแล้ว
“ โปรดระงับโทสะลงก่อนเถิดมหาเทพ อาตมามิได้ตั้งใจละเมิดข้อตกลงใดๆทั้งสิ้น ช่วงเวลาที่ประสกโฮ่วอี้อยู่ในแดนสุขาวดี เขตแดนบิดเบือนมิติกาลเวลาก็ถูกเปิดใช้งานตลอด หนึ่งวันในนั้นจะเท่ากับหนึ่งร้อยวันบนโลกมนุษย์ นี่เป็นเรื่องจริงแท้อย่างแน่นอน ” พระหรานเติงพูดขึ้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“ นี่ท่านจะบอกว่า โฮ่วอี้ใช้เวลาอยู่ในแดนสุขาวดีแค่เพียงสิบลมหายใจงั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ” มหาเทพอวี่หวงรู้ดีว่าพระโพธิสัตว์ไม่พูดปด แต่เรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อจนเกินไป
“ มันเป็นความจริง ในตอนที่อาตมากำลังนำประสกโฮ่วอี้เข้าไปยังเขตหวงห้าม พระโพธิสัตว์กิมเสี้ยนก็ปรากฏกายขึ้นและได้เปิดเผยภาพนิมิตบางอย่างออกมา ทำให้ประสกโฮ่วอี้รีบร้อนจากไปในทันที ”
“ พระโพธิสัตว์กิมเสี้ยน…อาจารย์ของเห้งเจีย? ” มหาเทพอวี่หวงใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ วานรตัวนี้มันจะตามจองร้างจองผลาญเขาไปถึงไหน หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงเลือกสังหารอีกฝ่ายให้สิ้นเรื่องสิ้นราวตั้งแต่แรก แม้จะต้องผิดใจกับพระยูไลก็ตามที
ในปัจจุบันแดนสุขาวดีถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายบุ๋นนำโดยพระอามิตภพุทธและเหล่าพระโพธิสัตว์ระดับสูงเกือบทั้งหมด ที่เลือกคล้อยตามวิถีเต๋าแห่งสวรรค์
ส่วนฝ่ายบู้นำโดยเห้งเจียและฟุโดเมียวโอ ซึ่งเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรมอย่างแข็งกร้าว จนพร้อมอุทิศตัวเพื่อทำลายความชั่วร้ายให้หมดสิ้นไป
“ เพราะการแทรกแซงของโพธิสัตว์กิมเสี้ยน เป็นเหตุให้การกระทำของอาตมาถูกล่วงรู้ไปถึงพระยูไล ตอนนี้จึงต้องกักตัวเองเพื่อสำนึกผิดเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี คงไม่อาจช่วยเหลือมหาเทพได้อีกแล้ว ”
มหาเทพอวี่หวงได้ยินแบบนั้น ก็ถอนหายใจออกมาและตัดการเชื่อมต่อกับอีกฝ่ายในทันที ถึงยังไงแผนการก็ล้มเหลวไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องมาโทษกันเอง
“ โฮ่วอี้ เห้งเจีย เดิมทีข้าคิดจะเก็บพวกเจ้าไว้ใช้ประโยชน์ในภายหลัง แต่เห็นทีคงจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้วสินะ ”
ในเวลาเดียวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน